เชฟดิลลัน โจนส์, เชฟมัลคอล์ม ลี และ เชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ

สองเชฟคู่ชีวิต เชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะและ เชฟดิลลัน โจนส์ แห่งร้านอาหารไทยพรีเมี่ยม โบ.ลาน (Bo.lan) จับมือกับ มัลคอล์ม ลี (Malcolm Lee) หัวหน้าเชฟและเจ้าของร้านแคนเดอนัท (Candlenut) ในประเทศสิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเปอรานากัน (Peranakan) บินตรงมาจากประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมมือกันสร้างสรรค์ประสบการณ์รูปแบบใหม่ ไปกับสีสันและรสชาติแห่งเครื่องเทศของเมนูอาหารไทยและเปอรานากัน พร้อมเสิร์ฟเซตเมนูอาหารเปอรานากันมื้อค่ำสุดพิเศษแล้ววันนี้ ณ ร้านอาหารโบ.ลาน สุขุมวิท 53

เชฟมัลคอล์ม ลี เผยถึงความเป็นมาของอาหารเปอรานากัน กล่าวว่า “อาหารเปอรานากัน (Peranakan) หรือ อาหารเนียงยา (Nyonya cuisine) คือผสานระหว่างวัฒนธรรมอาหารของจีนและมลายู เมื่อคนสองเชื้อชาตินี้มีการแต่งงานกันจึงนำวัฒนธรรมอาหาร รวมถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรมที่สวยงามมาผสมผสานจนเกิดเป็นเมนูอาหารลูกผสมที่ชื่อว่าเปอรานากัน เสน่ห์ของอาหารเปอรานากันคือการนำส่วนดีที่สุดของอาหารจีนและมลายูมารวมกัน สามารถหารับประทานได้ในประเทศทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์ โดดเด่นในเรื่องการปรุงด้วยเครื่องเทศที่หาได้ในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นยี่หร่า ข่า ตะไคร้ มะกรูด ขมิ้น ที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมชวนรับประทานให้กับอาหารมากยิ่งขึ้น รวมถึงการรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาดั้งเดิมในการทำอาหาร ด้วยการปรุงอย่างพิถีพิถัน และใช้เวลาที่ยาวนานเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม”

ขนมจีนรักษา เมนูเรียกน้ำย่อย

สำหรับการร่วมมือกันครั้งนี้ระหว่างเชฟโบ-ดวงพร ทรงวิศวะ เชฟดิลลัน โจนส์ และเชฟมัลคอล์ม ลี จึงเป็นการนำความงดงามของวัฒนธรรมอาหารไทยและเปอรานากัน มาผสมผสาน ปรุงรสและจัดแต่งอย่างสวยงาม เพื่อมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับนักชิมลูกค้าร้านอาหาร โบ.ลาน โดยเมนูที่ 3 เชฟร่วมกันรังสรรค์ขึ้นกลายเป็น “เซตเมนูอาหารเปอรานากัน” เริ่มต้นด้วย “เริ่มแรกระเริงรสโบลาน” (Bo.lan Amuse bouche) อันประกอบไปด้วยน้ำพริกไข่เค็มในมะขามเทศ เมี่ยงมะปราง และล่าเตียงเนื้อปู ซึ่งเป็นอาหารว่างโบราณของไทย อีกทั้งยังมี “เริ่มแรกระเริงรสแคนเดอนัท” (Candlenut Amuse Bouche) อาหารว่างสูตรดั้งเดิมของเปอรานากัน ซึ่งประกอบด้วยกระทงทองแบบเปอรานากัน ที่แตกต่างจากของไทย ด้วยส่วนประกอบหลัก อาทิ ปลาดิบ ตะไคร้ และผักแพ้ว ผักพื้นบ้านที่นิยมใส่ในอาหารรสชาติเผ็ดร้อน นอกจากนั้นยังมี กุ้งตำคลุกเคล้ากับดอกขิงและมะเฟืองที่เข้ากันอย่างลงตัว และเนื้อไก่บ้านพังงาบดเสียบไม้ย่างหอมกรุ่น พร้อมราดซอสหวานกำลังดี และตบท้ายด้วยอาหารคอร์สแรกจานสุดท้ายกับขนมจีนรักษา รสจัดจ้าน ด้วยสูตรตำรากับข้าวประจำวันของ หม่อมเจ้าหญิงจันทร รัชนี

ตามด้วยคอร์สอาหารจากหลักแบบเต็มอิ่มถึง 5 จาน ที่เสิร์ฟพร้อมข้าวเกษตรอินทรีย์ร้อนๆ ได้แก่ “น้ำแกงปองเตาฮู” (Pong Tauhu Soup) กับลูกชิ้นกุ้งก้ามกรามและปูที่เพิ่มความหวานมันให้กับน้ำซุปด้วยมันกุ้ง จานถัดมาเป็น “ยำมะม่วงและชมพู่แบบอักฮา” (Achar Salad) ที่มีทั้งรสเปรี้ยว
ของมะม่วงและรสหวานของชมพู่ เข้ากันได้อย่างดี จานต่อมาเป็น “เร็นแดงเนื้อซี่โครง” (Rendang) แกงเนื้อรสชาติเข้มข้นที่ถูกจัดว่าเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกจากเว็บไซต์ CNN GO ในปี 2554 นอกจากนี้ ยังมี“ปลากะพงย่างกับสะตอผัดเผ็ด” และ “กุ้งผัดน้ำพริก” สูตรพิเศษที่ทำจากเมล็ดบวคเคลวค (Buah Keluak) เมล็ดพืชพื้นเมืองที่นิยมใส่ในอาหารเปอรานากัน (Peranakan) ซึ่งต้องผ่านกรรมวิธีการเอาพิษออก และใช้วีธีการหมักในระยะเวลามากกว่า 40 วัน จึงจะสามารถนำมารับประทานได้

ปลากะพงย่างกับสะตอผัดเผ็ดสไตล์เปอรานากัน

ปิดท้ายด้วยคอร์สของหวาน2 จาน จานแรกเป็นของหวานแบบไทยกับ “ขนมหวานเพทิทโฟร์” (petit four) ที่ประกอบด้วย ขนมชั้นขนมหม้อแกง ตะโก้ และของหวานอย่างแห้งอีกหลากหลาย ทานคู่กับชาปรุงสูตรพิเศษจากโบ.ลาน ต่อด้วยของหวานแบบเปอรานากัน (Peranakan) คือ “ไอศกรีมเมล็ดบวคเคลวค” (Buah Keluak)ราดด้วยช็อกโกแลต และคาราเมล 3 รส กลิ่นหอมหวาน ชวนรับประทาน โดยเมนูเหล่านี้ต่างล้วนเกิดจากการใส่ใจในการทำทุกขั้นตอนซึ่งยึดหลักตามตำราแบบแผนดั้งเดิม อันเป็นปรัชญาที่ทางร้าน โบ.ลาน ทำมาตลอด

“เซตเมนูอาหารเปอรานากัน” พร้อมเสิร์ฟทุกวันอังคาร-วันศุกร์รอบดินเนอร์ ตั้งแต่เวลา 18.00-01.00 น. และวันเสาร์-วันอาทิตย์เปิดให้บริการ 2 รอบ รอบที่ 1 ตั้งแต่เวลา 12.00-14.00 น. และรอบที่ 2 รอบดินเนอร์ ตั้งแต่เวลา 18.00-01.00 น. และพิเศษในค่ำคืนวันที่ 1-2 เมษายน 2559 จัด 2 รอบรอบละ 50 ที่นั่งเท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่โทร.02-2602961 หรือ 02-2602962 ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ Website : http://www.bolan.co.th Facebook : Bo.lan และ IG : Bo.Lan_Essentially_Thai

ของหวานสุดพิเศษ