เสร็จสิ้นไปแล้วกับงานแฟชั่นระดับประเทศ กับงาน BIFF & BILL 2016 โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่รวบรวมสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังมาจัดแสดงนิทรรศการ และแฟชั่นโชว์ รวมถึงเปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยและอาเซียน ได้ร่วมเปิดบูธแนะนำสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศไปเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ ชาลเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี

มาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของงานครั้งนี้ว่า เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่น สิ่งทอ และเครื่องหนังไทย ที่ผ่านกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ และมีความพร้อมในการเป็น Fashion Platform และผู้นำเทรนด์แฟชั่นในภูมิภาคอาเซียน โดยมีการจัดแสดงสินค้าแฟชั่นคอลเลคชั่นใหม่ ของผู้ประกอบการด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือโปรเจกท์เวิร์กช็อปจำนวนไม่น้อยกว่า 72 คอลเลคชั่น มากกว่า 720 แบบ อาทิ ชุดว่ายน้ำมุสลิมแบรนด์ Zabede กระเป๋าจากใยตาลแบรนด์ Nodething และการนำวัตถุดิบเหลือใช้เพิ่มมูลค่าการออกแบบภายใต้แบรนด์Sea Star โดยเชิญผู้ซื้อจากในและต่างประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่น ยุโรป และเกาหลี เข้าร่วมชมงาน

จันทิรา ยิมเรวัต นำทีมแฟชั่น 50+

“รูปแบบการจัดงานครั้งนี้นำเสนอภายใต้แนวคิด “Catching the Creative Spirit” ที่แสดงถึงจิตวิญญาณ ความสามัคคี ความมุ่งมั่น ความสามารถ การสร้างสรรค์ และพลังของอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังที่ได้เดินทางร่วมกัน จนเกิดเป็นสปิริตแห่งความสามัคคีของสมาคมผู้ประกอบการ ผู้ผลิต นักออกแบบ และหน่วยงานรัฐ ซึ่งได้แก่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมและทำให้ชื่องาน BIFF&BIL มีคุณค่าและเป็นงานที่สำคัญงานหนึ่งของอุตสาหกรรมแฟชั่นสิ่งทอ และเครื่องหนังที่สำคัญและเป็นที่จดจำงานหนึ่งของเอเชีย”

บรรยากาศของงานตลอดทั้ง 5 วัน เป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งเหล่าผู้ประกอบการที่นำสินค้ามาจัดแสดงตลอดจนเหล่าบายเออร์ที่เข้ามาเจรจาธุรกิจ ส่วนไฮไลต์ของงานคงเป็นเวทีแฟชั่น ที่จัดแสดงแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ไทยที่ได้รับคัดเลือกจากโครงการ
เวิร์กช็อปในด้านการออกแบบสินค้าและการตลาดระหว่างประเทศ

ผศ.อโนทัย ชลชาติภิญโญ ที่ปรึกษาของงานกล่าวว่า งาน Biff & Bill ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ แม้ว่าผู้เข้าร่วมงานจะน้อยตามสภาพเศรษฐกิจ แต่แบรนด์ไทยหลายแบรนด์ก็ได้ออเดอร์จากบายเออร์ในต่างประเทศเป็นลอต บางแบรนด์ถึงกับต้องปิดรับออเดอร์ เพราะกำลังการผลิตไม่พอ แต่ส่วนใหญ่แล้วบายเออร์ยุคเศรษฐกิจขาลงแบบนี้จะเน้นสั่งในปริมาณเล็กๆ ทางผู้ประกอบการจึงต้องรู้จักปรับตัว ใครที่ยังต้องรอออเดอร์ใหญ่ๆ คงอยู่ยาก ส่วนกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่นของไทยที่ได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าพื้นเมือง เช่น ชุดของมุสลิม ผ้าฝ้ายลายภาคเหนือ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ต้องได้รับการพัฒนาและประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น

ชุดว่ายน้ำสำหรับสาวมุสลิมแบรนด์ Zabede

ด้าน พรสุดา ซาบีดี เจ้าของแบรนด์ Zabede ที่ตอบโจทย์สาวมุสลิมและโด่งดังในฐานะนักออกแบบชุดว่ายน้ำของสาวมุสลิม เผยว่า “ประสบความสำเร็จจากงานครั้งนี้ค่ะโดยเฉพาะชุดว่ายน้ำมุสลิมที่ออกแบบมาเสริมกับชุดตัวโคร่งอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยชุดว่ายน้ำมุสลิมก็มีโจทย์หลักคือ ต้องปกปิดร่างกาย ยกเว้น หน้า มือ เท้า ชุดที่ออกแบบไว้มี 2 แบบ แบบแรกจะเป็นเสื้อแขนยาว ทรงหลวมๆ ไม่รัดสัดส่วน สวมคู่กับกางเกงขายาว เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย เช่น วิ่ง หรือปั่นจักรยาน แบบที่สอง เป็นชุดว่ายน้ำติดกันเต็มตัว เน้นความหลวมและไม่แนบเนื้อ โดยทุกแบบจะเน้นแพทเทิร์นที่ไม่แนบเนื้อ เวลาขึ้นจากน้ำผ้าจะต้องทิ้งตัวไม่ให้โชว์เรือนร่าง ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทาย และเรากำลังพัฒนารูปแบบให้เข้ากับลูกค้ามากที่สุดจริงๆ ในต่างประเทศชุดว่ายน้ำสาวมุสลิมมีมานานแล้ว และส่วนตัวเป็นมุสลิม ซึ่งในเมืองไทยหาซื้อยากมาก ที่เริ่มต้นทำเพราะตัวเองอยากมีชุดว่ายน้ำใส่ โดยไม่ต้องหาซื้อจากต่างประเทศ”

ส่วนหนึ่งของแบรนด์ไทยที่นำมาโชว์ในงาน

ปิดท้ายไฮไลต์ของงานในครั้งนี้ด้วยแฟชั่นโชว์ 50+ ที่ได้นางแบบสาวสวยกิตติมศักดิ์จากกระทรวงพาณิชย์ นำโดย จันทิรา ยิมเรวัต รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมาร่วมเผยเสื้อผ้าในโซน VIVA Active Lifestyeมาร่วมเผยเสื้อผ้าแบรนด์ไทยสำหรับกลุ่มที่จัดแสดงในงานครั้งนี้ด้วย