ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/207503
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนและขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม กรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงได้ดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตการตลาดผักปลอดภัยในสถาบันเกษตรกร ส่งเสริมการรวมกลุ่มให้สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรผลิตพืชผักปลอดภัยเพื่อจำหน่ายสู่ตลาด พร้อมทั้งรณรงค์และอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ในการผลิตผักปลอดภัยตามมาตรฐาน GAP ตามความต้องการของตลาด และกระจายสินค้าออกนอกแหล่งผลิต โดยการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ของสถาบันเกษตรกร ขณะนี้นำร่องในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ นครราชสีมา และประจวบคีรีขันธ์
นอกจากนี้กรม ยังให้การสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำแก่สหกรณ์ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ในการส่งเสริมสมาชิกผลิตผักปลอดภัย และนำไปใช้สำหรับการรวบรวมผลผลิตจากสมาชิก รวมถึงสนับสนุนอุปกรณ์การตลาดที่จำเป็น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจด้านการผลิตตลาดผักปลอดภัยของสถาบันเกษตรกร อีกทั้งยังประสานช่องทางการตลาดให้แก่สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร ในช่องทางการตลาดต่างๆ ได้แก่ ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) บริษัทผู้ส่งออก เครือข่ายสหกรณ์ และผู้ค้าภายในประเทศ ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานเกี่ยวกับกิจกรรมผักปลอดภัยของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร และรณรงค์การบริโภคผักปลอดภัยภายในชุมชนด้วย
“ที่ผ่านมาได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนามาตรฐานผลผลิต และสร้างเครือข่ายผักอินทรีย์และผักปลอดภัย เพื่อให้ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์แก่สหกรณ์ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ อีก 31 แห่ง พื้นที่ 23 จังหวัด เพื่อสร้างพันธมิตรทางการตลาด และส่งผลให้เกิดเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงธุรกิจผักอินทรีย์ของสถาบันเกษตรกร ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนมากขึ้น”
ดร.วิณะโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ผลการรวบรวมผักอินทรีย์ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2559 มีปริมาณ 201 ตัน คิดเป็นมูลค่า มูลค่า 9.42 ล้านบาท คาดว่าการผลิตผักอินทรีย์ของสถาบันเกษตรกรจะมีการขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยกรมพร้อมจะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจเกษตรอินทรีย์ของ สถาบันเกษตรกรตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป