ยันจว.ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินลดลง เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำล่วงหน้า

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/205931

วันอังคาร ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2559, 15.42 น.
8 มี.ค. 59 ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาวิฤกติภัยแล้งปี2558/59ระดับชาติ(ศก.กช.) โดยมีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ซึ่งมี14 กระทรวงเป็นกรรมการ ได้สรุปสถานการณ์ภัยแล้งที่ผ่านมาว่ามีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง)ตามระเบยีบกระทรวงการคลัง ว่า ด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 ในจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ(ภัยแล้ง) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึงปัจจุบัน จำนวน 18 จังหวัด 92 อำเภอ 455 ตำบล 3,975 หมู่บ้าน โดยปัจจุบันคงเหลือ 12 จังหวัด 48 อำเภอ 226 ตำบล 1,989 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 2.65 ของ หมู่บ้านทั้งประเทศ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พะเยา สุโขทัย นครสวรรค์ นครราชสีมา นครพนม มหาสารคาม บุรีรัมย์ กาญจนบุรี เพชรบุรี และสระแก้ว ซึ่งสถานการณ์วิฤกติภัยแล้งครั้งนี้ทุกหน่วยงานได้เร่งรัดแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่องทำให้พื้นที่ประสบภัยแล้งลดลง รวมทั้งมีมาตรการใช้จ่ายเงินเชิงป้องกันหรือยับยั้ง รวม 28 จังหวัด รวมวงเงินทั้งสิ้น 125.26 ล้านบาท แบ่งเป็น  ค่าจ้างแรงงาน 22 จังหวัด 185,646 ราย วงเงิน 58.29 ล้านบาท การฝึกอบรมอาชีพ 14 จังหวัด 189 รุ่น เฉลี่ยรุ่นละ 60 คน วงเงิน 21.22 ล้านบาท การซ่อมแซมระบบประปา 7 จังหวัด 23 แห่ง วงเงิน 4.99 ล้านบาท การเป่าบ่อบาดาล 21 จังหวัด 3,569 บ่อ วงเงิน 33.66 ล้านบาท  ขุดลอกแหล่งน้ำ 5 จังหวัด 49 โครงการ วงเงิน 7.10 ล้านบาท พร้อมกับเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง 8 มาตรการ ให้มีรายได้ช่วงแทนการทำนา ช่วยปัจจัยการผลิตปลูกพืชใช้น้ำน้อย เลี้ยงสัตว์ โครงการเสนอจากชุมชนทั่วประเทศ 3,050 โครงการ มีการฝึกอบรมทักษะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 882 ศูนย์ทั่วประเทศและการจ้างงาน จัดสินค้าธงฟ้า ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนภาคเกษตรได้ รวมทั้งแก้ไขภาระหนี้สินช่วยลดดอกเบี้ยสินเชื่อเกษตรกร

และได้ทะยอยจ่ายเงินช่วยเหลือให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย  16 จังหวัด เกษตรกร 172,711 ราย พื้นที่1.65 ล้านไร่ แบ่งเป็น ข้าว 1.63 ล้านไร่ พืชไร่และอื่น 0.02 ล้านไร่ คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือ 1,837.175 ล้านบาท ช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว 6,444 ราย พื้นที่ 69,570.75ไร่ วงเงิน 77.49 ล้านบาท โดยรวมวงเงินทุกมาตรการใช้งบกว่า1.5 หมื่นล้านบาท

ทางด้านการปฎิบัติการฝนหลวง นับตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.ถึง 6 มี.ค. โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(ฝล.)เปิดหน่วยปฎิบัติการฝนหลวง จำนวน 7 ศูนย์ ได้แก่ หน่วยปฎิบัติการจังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ กาญจนบุรี นครราชสีมา จันทบุรี และ อ.หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ได้ขึ้นปฎิบัติการฝนหลวง จำนวน 8 วัน 39 เที่ยวบิน (52:45 ชั่วโมงบิน) จังหวัดท่ีมีรายงานฝนตกรวม 15 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี นครราชสีมา ชัยภูมิ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี

โดยมีการปฎิบัติการฝนหลวงประจำวันที่ 6 มีนาคม 2559 โดยขึ้นปฎิบัติการฝนหลวง 4 หน่วย ได้แก่ หน่วย ปฎิบัติจังหวัดนครสวรรค์ นครราชสีมา จันทบุรี และ อ.หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นปฎิบัติการ 12 เที่ยวบิน บริเวณที่มีรายงาน ฝนตก ได้แก่ จ.นครสวรรค์ (ไพศาลี) จ.เพชรบูรณ์ (วิเชียรบุรี) พื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก บริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำลำตะคอง ลำพระเพลิง ลำมูลบน ลำเชียงไกร จ.นครราชสีมา และพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา (ปากช่อง วังน้ำเขียว สีคิ้ว ด่านขุนทด เทพารักษ์ ปักธงชัย สูงเนิน) จ.ชัยภูมิ (จตุรัส เนินสง่า บำเหน็จณรงค์) จ.จันทบุรี(นายายอาม สอยดาว โป่งน้ำร้อน) พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ และ บริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแก่งกระจาน

ส่วน การปฏิบัติการและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งในพื่นที่ที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ของหน่วยงานต่างๆ ของส่วนจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ.นครราชสีมา ได้สูบน้ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง จานวน37,496,317 ลูกบาศก์เมตร และแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค จำนวน 45,696,500 ลิตร จ.สระแก้ว แจกจ่ายน้ำอุปโภค-บริโภค โดยหน่วยทหารอปท. รถบรรทุกน้า20 คัน 530 เที่ยว 5,697,700 ลิตร ทรัพยากรน้ำภาค 6 จ.ปราจีนบุรีเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง การเป่าล้างบ่อบาดาล 94 บ่อ ขุดลอกแหล่งน้ำ 17 แห่ง จ.อุตรดิตถ์ แจกจ่ายน้าอุปโภค-บริโภค โดยอาเภออปท. และหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย 5,209,000 ลิตร ศูนย์ปภ.เขต 9 จ.พิษณุโลก ติดตั้งเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล 2 เครื่องสูบน้าจากคลองตลอนไปลงสระประปาอ.ทองแสนขัน และศูนย์ปภ.เขต 15 จ.เชียงราย ติดตั้งเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล 2 เครื่อง จากแม่น้ำน่าน ไปลงสระประปา อ.เมือง จ.พะเยา รถบรรทุกแจกจ่ายน้ำเพื่อการเกษตร 3 คัน 12 เที่ยว 27,800ลิตร น้้ำอุปโภค-บริโภค 28 คัน 1,169เที่ยว 8,535,200 ลิตร ซ่อม/สร้าง ฝาย/ทานบ 13 แห่ง ขุดลอกแหล่งน้า3 แห่ง จ.กาญจนบุรี แจกจ่ายน้ำอุปโภค-บริโภค 204,000 ลิตร เพชรบุรี รถบรรทุกน้้ำ 8 คัน 74 เที่ยว201,000 ลิตร นครสวรรค์ รถบรรทุกน้ำ 20 คัน 312 เที่ยว 3,349,000 ลิตร พร้อมกับหน่วยทหาร ศบภ.ทบ. แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค รวม 5,316,000ลิตร ในพื้นที่ 26 จังหวัด

แผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้ในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่ 1 พ.ย.58 ถึง30 เม.ย.นี้ทั้งประเทศใช้น้ำอุปโภคบริโภค 2,173 ล้านลบ.ม. รักษาระบบนิเวศ 5,487 ล้านลบ.ม. การเกษตร 3,564 ล้านลบ.ม. ภาคอุตสาหกรรม 196 ล้านลบ.ม. รวม 11,420 ล้านลบ.ม. โดยได้จัดสรรน้ำไปแล้ว 6,755 ล้านลบ.ม. คิดเป็น59 %ของแผนจัดสรรน้ำ ในส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยา ใช้อุปโภคบริโภค 1,100 ล้านลบ.ม. รักษาระบบนิเวศ 1,385 ล้านลบ.ม. การเกษตร 700 ล้านลบ.ม. อุตสาหกรรม 15 ล้านลบ.ม. รวม 3,200 ล้านลบ.ม. ได้จัดสรรไปแล้ว 2,101ล้านลบ.ม. คิดเป็น66%ของแผน

ส่วนแหล่งเก็บน้ำอื่นๆ ได้แก่ แหล่งน้ำในและนอกเขตชลประทาน สระน้ำในไร่นา น้ำบาดาลเพื่อการเกษตรความจุรวม 1,037.29 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาตรน้ำรวม 404.20 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 38.97 ของความจุทั้งหมด

การพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล โดยกรมทรัพยากรนาบาดาล กระทรวงทรัพยากรฯในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง  แผนการ ขุดบ่อบาดาล รวม 6,030 แห่ง วงเงิน 3,463 ล้านบาท แบ่งเป็นเพื่อการเกษตร 3,506 แห่ง วงเงิน 1,252 ล้านบาท  เพื่อการอุปโภคบริโภค 2,524 แห่ง วงเงิน 2,210 ล้านบาท ดำเนินการขุดแล้ว 1,038 แห่ง และ405 แห่ง ใช้งบแล้ว 1,443 ล้านบาท

ในส่วนของกระทรวงกลาโหม การจัดหาน้ำกินน้ำใช้ในพื้นที่เป้าหมาย 1,042 แห่ง วงเงิน 1,315 ล้านบาท กำลังดำเนินการ 302 แห่ง แล้วเสร็จ 409 แห่ง ยังไม่ดำเนินการ 331 แห่ง ขุดเจาะบ่อบาดาล 579 แห่ง 32 ล้านบาท โดยมี บ่อบาดาลลึก 112 แห่ง บ่อน้ำดื่ม 186 แห่ง พัฒนาบ่อบาดาล 281 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 549 แห่ง แล้วเสร็จ 948 ยังไม่ดำเนินการ 331 แห่ง และโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งระยะเร่งด่วน 164 โครงการ วงเงิน 416.88 ล้านบาท  รวมวงเงินทั้งหมด 1,763.88 ล้านบาท

Leave a comment