เลขาธิการสมาคมมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น (กิโมโน) แนะหน่วยงานรัฐช่วยส่งเสริมเยาวชนและคนหลังเกษียณ ทำหน้าที่จิตอาสาพาเที่ยวไทย เหมือนที่ญี่ปุ่นสนับสนุนคนวัยเกษียณไม่ให้ว่างงาน ด้วยการเป็นมัคคุเทศก์วัฒนธรรมในท้องถิ่นของตัวเอง รวมทั้งการสนับสนุนเยาวชนให้ใช้เวลาว่างวันหยุดเรียนทำหน้าที่มัคคุเทศก์รุ่นเยาว์ได้เรียนรู้วัฒนธรรม-แหล่งท่องเที่ยว และยังเป็นการสร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียนของเยาวชนด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติไปในตัว

นายสมชาย พหุลรัตน์ ประธานโครงการแลกเปลี่ยนมิตรภาพ-วัฒนธรรมนานาชาติและในฐานะเลขาธิการสมาคมมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น (กิโมโน) กล่าวว่าจากการที่สมาคมฯ ได้ส่งเยาวชนไปแลกเปลี่ยนมิตรภาพวัฒนธรรม-วัฒนธรรมที่ประเทศญี่ปุ่นกับสถาบันนิฮอนวาโสกากุเอน (ซึ่งเป็นสถาบันที่อนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมการแต่งกายชุดประจำชาติอันเก่าแก่ของญี่ปุ่น มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น) มาตลอด สิ่งหนึ่งซึ่งคณะกรรมการสมาคมฯ ได้ไปเห็นก็คือ เยาวชน และคนสูงอายุของญี่ปุ่น ทำหน้าที่มัคคุเทศก์จิตอาสาตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่วัดวาอารามของญี่ปุ่น จะคอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในการนำทาง รวมทั้งการอธิบายประวัติความเป็นมาของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนั้น ให้กับนักท่องเที่ยวของเขา รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ซึ่งเขาทำงานด้วยจิตอาสา ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่เขาบอกว่ามีความสุข นอกจากช่วยชาติบ้านเมืองแล้ว เขาไม่เหงาและมีกิจกรรมให้ทำหลังจากเกษียณจากงาน ส่วนเยาวชนนั้นเขาก็ได้เรียนรู้ปลูกจิตสำนึกให้มีจิตใจอาสาตั้งแต่เล็กๆ ได้เรียนรู้วัฒนธรรม-ประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองเขาไปในตัว ซึ่งเป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่หาไม่/ได้ในห้องเรียน

“ขณะที่มามองในบ้านเรา ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งชุมชนหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวมองแล้ว น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่จะส่งเสริมให้เยาวชนและคนวัยเกษียณได้ทำงานเป็นจิตอาสาด้านการท่องเที่ยว ผมมีโอกาสได้สนทนากับ คุณสมฤดี จิตจง ผอ.ททท.ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งดูและการท่องเที่ยวในภาคอีสานถึง 20 จังหวัด บอกว่า ตอนนี้ททท.ต้องช่วยทำหน้าที่ทางด้านการตลาดและให้ความรู้กับชุมชนไปในตัว ซึ่งจะทำให้คนในท้องถิ่นได้กลับไปชุมชนตัวเอง เพราะจะมีรายได้ ไม่ต้องออกไปหางานที่ไหนเป็นการสร้างงานในชุมชนที่มีแหล่งท่องเที่ยวนั้นด้วย

หรือแม้แต่ คุณรุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผอ.ททท.ซิดนีย์ (รับผิดชอบภูมิภาคโอซีเนีย ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์และหมู่เกาะต่างๆ) มองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้คนในชุมชนนั้นเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำงานเพื่อท้องถิ่นอย่างเต็มที่ เพราะทำให้ท้องถิ่นเขามีชื่อเสียง เมื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็ทำให้มีงานทำ ไม่ต้องไปไขว่คว้าที่ไหน อย่างตนเองนั้นมีงานส่งเสริมท่องเที่ยวให้คนในโซนนี้มาเที่ยวไทย ก็จะใช้คนในท้องถิ่นมาช่วยงาน นอกเหนือจากทีมงานจากประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ คุณศุกรีย์สิทธิวานิช รองผู้ว่าฯททท.ด้านสื่อสารการตลาด เล่าให้ฟังว่า บุคลากรของททท.ที่ทำหน้าที่ในภูมิภาคต่างๆ พร้อมที่จะช่วยส่งเสริมให้ความรู้ทางด้านการตลาดให้กับชุมชนหรือแหล่งท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดียิ่งในยุคนี้เป็นยุคดิจิตอลอีโคโนมี การสื่อสารการตลาดทำได้อย่างรวดเร็ว”

เลขาธิการสมาคมฯ กล่าวต่อไปว่าถ้าเราได้ภาครัฐช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้ความรู้ทางด้านการตลาดให้กับแหล่งท่องเที่ยวชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ และสนับสนุนให้เกิดมัคคุเทศก์จิตอาสาทั้งคนเกษียณและเยาวชนก็เท่ากับเราได้สร้างวัฒนธรรมของการรักถิ่นฐานบ้านเกิด ทำให้แหล่งชุมชนท่องเที่ยวนั้นเข้มแข็ง เพราะคนในพื้นที่เขาจะช่วยกันอนุรักษ์และรักษาแหล่งท่องเที่ยวไว้อย่างเต็มที่

“ปี 2559 นี้ ทางสมาคมจะส่งเจ้าหน้าที่และเยาวชนไปร่วมงานแลกเปลี่ยนมิตรภาพวัฒนธรรมที่เมืองเกียวโด และก่อนเดินทางเราจะอบรมความรู้การทำหน้าที่ทูตมิตรภาพ-วัฒนธรรมจิตอาสากันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ โดยเรื่องราวของคณะเยาวชนแลกเปลี่ยนมิตรภาพวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น ผมและทีมวิทยากรข่าว อาทิ อ.นิดาวรรณ เพราะสุนทร (อาจารย์กฎหมาย ม.รังสิต), อ.มณฑิรา เดชจินดาและวีเจโด่ง-ธีรศักดิ์ จะนำไปเผยแพร่ในรายการทอล์กทั่วไทยไปทั่วโลก(ทางช่องTarvel channel) รายการ ทราเวิลแอนด์เฮลท์วาไรตี้ (ช่องบางกอกแชนแนล-ไอเอ็นเอ็น) และรายการสนทนาสารพัน,รายการยิ้มกับข่าว ทาง FM 89.5 และอีกหลายรายการทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและสถานีวิทยุที่เรามีอยู่ผู้สนใจสามารถส่งข้อมูลข่าวสารมาได้ที่อีเมล์ somchai_sp89@hotmail.com นะครับ”