แฉสะท้านโลก! เอกสารปานามา ‘พ่นพิษ’ สะเทือนทุกวงการ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/602718

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 8 เม.ย. 2559 05:30

 

ทำเอาสั่นสะเทือนไปทุกวงการทั่วโลก นักการเมือง นักธุรกิจ คนดัง นักร้อง ดารา เศรษฐีมีเงินถังไม่รู้สักกี่มากน้อย ที่ป่านนี้ คงนั่งไม่ติดเก้าอี้ เกิดอาการหนาวๆ ร้อนๆ หากรู้ดีว่าตัวเองไปมีชื่ออยู่ใน ‘เอกสารปานามา’ (Panama Papers/ปานามาเปเปอร์ส) ในฐานะลูกค้าของบริษัท ‘มอสแซค ฟอนเซกา’ บริษัทกฎหมายในปานามา เพื่อให้ช่วยดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทดำเนินธุรกิจต่างแดน (หรือเรียกว่า บริษัทออฟชอร์)

แน่นอนว่า การไปลงทุนตั้งบริษัทดำเนินธุรกิจในต่างแดน ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่ประเด็นที่กำลังโดนแฉอยู่นี้คือ การที่มีผู้นำ อดีตผู้นำ นักการเมือง และผู้คนในหลายวงการ จำนวนไม่น้อยเลยที่ได้ใช้ช่องทาง ‘ซิกแซก’ ในการไปก่อตั้งบริษัทออฟชอร์กับมอสแซค ฟอนเซกา (Mossack Fonseca) เพื่อต้องการเลี่ยงภาษี หรือฟอกเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย บนดินแดนที่เรียกว่า ‘สวรรค์ของการเลี่ยงภาษี’

และผลจากการเปิดโปง ‘เอกสารปานามา’ ได้ทำให้ นายซิกมุนเดอร์ กุนน์ลอคสัน สังเวยเป็นรายแรก จนต้องยอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ไปแล้ว!!

* ‘มือดี‘ ส่งข้อมูลมหาศาลหลุดรั่ว ออกมาจาก ‘มอสแซค ฟอนเซกา’

ย้อนกลับไป กว่าจะมาถึงวันนี้… วันที่ปานามาเปเปอร์สกำลังทำให้คนดังระดับโลกอยู่ไม่เป็นสุขนั้น เริ่มต้นมาจากการที่ นสพ.ซึดดอยต์ช ในเยอรมนี อ้างว่ามีแหล่งข่าวนิรนาม ที่ไม่ขอเปิดเผยตัวตน และไม่ต้องการได้เงินหรือสิ่งใดตอบแทน ได้ส่งเอกสารจำนวนมหาศาลถึง 11.5 ล้านฉบับ ขนาด 2,600 GB (กิกะไบต์) มายัง นสพ.ซึดดอยต์ช ในรูปของอีเมลไฟล์พีดีเอฟ, สำเนาข้อมูลจากฐานข้อมูลภายในของบริษัทมอสแซค ฟอนเซกา รวมถึง ภาพถ่าย หนังสือเดินทาง และจดหมายย้อนหลังกลับไปตั้งแต่ช่วงปี 2513 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเอกสารขององค์กรต่างชาติจำนวนมากกว่า 214,000 แห่ง

หลังจากนั้น นสพ.ซึดดอยต์ช จึงได้ส่งต่อข้อมูลมหาศาลเหล่านี้ไปยังสมาคมผู้สื่อข่าวสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) และสื่อมวลชนในองค์กรสื่อนับ 107 แห่งทั่วโลก ใน 76 ประเทศ รวมทั้ง เดอะ การ์เดียน สื่อในสหราชอาณาจักร (ยูเค) เพื่อร่วมกันวิเคราะห์และตรวจสอบ โดยใช้เวลานานนับปี ก่อนจะมีการเปิดเผยเอกสารปานามาสู่สายตาชาวโลก เมื่อประมาณต้นเดือนเมษายน 2559

ตึกสูงเรียงรายในกรุงปานามา ซิตี้ เมืองหลวงของปานามา

* ‘ปานามาเปเปอร์ส’… แฉครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์

ว่ากันว่า การแฉข้อมูล ‘เอกสารปานามา’ นี้ เป็นการแฉข้อมูลครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของการเปิดโปงข้อเท็จจริงเพื่อให้สาธารณชนทั่วไปได้รับรู้ ยิ่งกว่าเมื่อตอนที่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน แฉโครงการสอดแนมล้วงความลับบุคคลสำคัญของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ และข้อมูลมากกว่า วิกิลีกส์ (Wikileaks) เว็บไซต์จอมแฉที่เปิดโปงเรื่องลับของรัฐบาล บริษัทและคนดังต่างๆ ต่อชาวโลกเสียอีก

ตามรายงานของ ICIJ ระบุว่า ข้อมูลของเอกสารปานามา มีขนาดถึง 2,600 GB แต่ข้อมูลของ วิกิลีกส์ อยู่ที่ 1.7 GB เท่านั้น ขณะที่ข้อมูลความลับของบริษัทออฟชอร์ เลี่ยงภาษี-ฟอกเงิน ที่ถูกแฉออกมา เมื่อปี 2556 ก็มีขนาด 260 GB

นายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟแห่งปากีสถาน

อมิตาภ พัลจัน อดีตดาราบอลลีวูดชื่อดังของอินเดีย

* ใครบ้าง ที่มีชื่ออยู่ในเอกสารปานามา?

เรื่องที่ชาวโลกอยากรู้มากที่สุดก็คือ มีผู้นำ นักการเมือง หรือคนดังใครบ้าง ที่มีชื่อเกี่ยวข้องอยู่ในเอกสารปานามา? โดยนับตั้งแต่มีการแฉข้อมูลออกมานั้น มีชื่อของอดีตผู้นำ และผู้นำประเทศและรัฐบาลชุดปัจจุบัน 12 คน ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทมอสแซค ฟอนเซกา รวมทั้งอดีตผู้นำจอมเผด็จการ ที่ถูกกล่าวหาว่าปล้นชาติปล้นแผ่นดินประเทศของตนเอง นอกจากนั้นก็มีคนที่เป็นญาติหรือคนใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้นำประเทศ อีกกว่า 60 คน รวมถึง นักการเมืองในประเทศต่างๆ

ในจำนวนนี้ มีคนใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ไปจนถึง น้องเขยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน, บิดาของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนแห่งอังกฤษ และบุตร 3 ใน 4 คน ของนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟแห่งปากีสถาน

นายซิกมุนเดอร์ กุนน์ลอคสัน อดีตนายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์

* นายกฯไอซ์แลนด์ สังเวย ปานามาเปเปอร์ส คนแรก

สำหรับผู้นำที่โดนแฉว่ามีชื่ออยู่ในเอกสารปานามานั้น ที่โดนเรื่องนี้ไปแล้วแบบเต็มๆ คือ นายซิกมุนเดอร์ กุนน์ลอคสัน นายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ ซึ่งได้กลายเป็นอดีตนายกฯไปแล้ว เพียงไม่กี่วันหลังมีการแฉ ‘เอกสารปานามา’ ซึ่งได้เปิดเผยว่า อดีตนายกรัฐมนตรีกุนน์ลอคสันแห่งไอซ์แลนด์ ได้ไปซื้อบริษัท Wintris Inc. ในหมู่เกาะบริติช เวอร์จินผ่านบริษัทมอสแซค ฟอนเซกา เมื่อปี 2550 แต่ไม่ได้แจ้งรายได้ของบริษัทในช่วงเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ในปี 2553 และ 8 เดือนให้หลัง เขาได้เทขายหุ้นของบริษัทนี้ถึง 50% ให้แก่ภรรยาของตนเอง ในราคาขายเพียงหุ้นละ 1 ดอลลาร์เท่านั้น

หลังจากถูกแฉสะท้านโลก ทำให้แค่ 2-3 วันต่อมา นายกุนน์ลอคสันต้องเผชิญหน้ากับเสียงเรียกร้องจากคนในประเทศให้ลาออกไปได้แล้วจากเรื่องอื้อฉาวครั้งนี้ โดยมีประชาชนกว่า 26,000 คน ได้ร่วมลงชื่อกดดัน จนในที่สุด นายกุนน์ลอคสันได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา

สำนักงานใหญ่ของยูฟ่า ในเมืองนียง

* ตำรวจสวิส ถึงกับขอหมายค้น สำนักงานใหญ่ยูฟ่า

ท่ามกลางการออกมาปฏิเสธของนักการเมือง และดาราที่มีชื่ออยู่ในเอกสารปานามา ไม่ว่าจะเป็น ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโกแห่งยูเครน, นายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ แห่งปากีสถาน ที่ได้แถลงข่าวอย่างเป็นเรื่องเป็นราวว่า ลูกๆ ทั้ง 3 ของเขาไม่ได้ทำอะไรผิด รวมถึงอดีตดาราดังบอลลีวูดของอินเดีย อย่าง อมิตาภ พัลจัน ได้ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองนั้น

คนดังที่มีชื่อเกี่ยวข้องอยู่ในเอกสารปานามา ที่ถึงกับทำให้ตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ ต้องขอหมายค้นจากศาลสำนักงานใหญ่ยูฟ่าในเมืองนียง ก็คือ นายจีอันนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) ที่ได้ไปเซ็นสัญญากับนายฮิวโก และนายมาริโอ จินกีส นักธุรกิจสองพ่อลูกชาวอาร์เจนตินา เจ้าของบริษัท ครอสส์ เทรดดิ้ง (Cross Trading) ขณะที่นายอินฟานติโน นั่งเก้าอี้เลขาธิการสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) โดยได้มีการเซ็นสัญญามอบลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลแชมเปียนส์ลีกของยูฟ่าในปี 2549 ให้แก่บริษัทครอสส์ เทรดดิ้ง แต่ ประเด็นที่ส่อฉ้อฉลอยู่ที่ หลังจากบริษัทนี้ได้สิทธิถ่ายทอดสดจากยูฟ่าแล้ว ได้ขายสิทธินี้ทันทีให้แก่บริษัทสถานีโทรทัศน์ เทเลมาโซนาส ในเอกวาดอร์ ในราคาที่แพงกว่าเดิมเกือบ 3 เท่า

นายจีอันนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า

* แฉ ‘แดนสวรรค์ของการฟอกเงิน’ 10 แห่งทั่วโลก

นอกจาก ICIJ จะมีการแฉชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้องในเอกสารปานามา ออกมาบางส่วนแล้ว ยังได้เปิดเผยสถานที่ที่เป็น ‘แดนสวรรค์ของการฟอกเงิน’ ของบริษัทออฟชอร์ทั้งหลายทั่วโลก โดยปรากฏว่า หมู่เกาะบริติช เวอร์จิน หรือ บริติช เวอร์จิน ไอส์แลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ ในทะเลแคริบเบียน เป็นแดนสวรรค์ฟอกเงินอันดับ 1 มีบริษัทออฟชอร์ไปจดทะเบียนตั้งบริษัทมากสุด ถึงประมาณ 110,000 บริษัท รองลงมาอันดับสองคือที่ ปานามา ประเทศที่อยู่ทางตอนใต้สุดของอเมริกากลาง ซึ่งมีบริษัทออฟชอร์ไปจดทะเบียนเกือบ 50,000 บริษัท

ตามด้วยอันดับ 3 ได้แก่ ประเทศบาฮามาส ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกของรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐฯ อันดับ 4.หมู่เกาะซีย์เชลส์ 5.นิอูเอ (Niue) เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ 6.ประเทศซามัว (Samao)ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ 7.บริติช แองกวิลา (British Anguilla) อาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรในทะเลแคริบเบียน 8.รัฐเนวาดาในสหรัฐฯ 9.ฮ่องกง และ 10.สหราชอาณาจักร

* เปิดโปงกว่า 500 ธนาคาร มีลูกค้าจดทะเบียนกับมอสแซค ฟอนเซกา

ข้อมูลของ ICIJ ระบุด้วยว่า มีธนาคารเกือบ 500 แห่ง ซึ่งรวมทั้งธนาคาร ‘ลูก’ และธนาคารสาขาต่างๆ ได้ทำธุรกรรมการเงินกับบริษัท ที่เรียกว่า ‘shell company’ (หรือบริษัทที่มีแต่เปลือก) ที่ได้จดทะเบียนกับมอสแซค ฟอนเซกา เกือบ 15,600 บริษัท โดยธนาคารที่มีบริษัทออฟชอร์ ซึ่งเป็นลูกค้าของมอสแซค ฟอนเซกา มากที่สุด อันดับแรกคือ ธนาคาร Experta Luxembourg S.A. รองลงมาได้แก่ Banque J.Safra-Luxembourg S.A. และอันดับ 3 คือ Credit Suisse Channel islands Limited.

รามอน ฟอนเซกา หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทมอสแซค ฟอนเซกา

* มอสแซค ฟอนเซกา โต้ลั่น ตั้งบริษัทมานาน 40 ปี ไม่เคยโดนฟ้อง

อย่างไรก็ตาม ถึงจะตกเป็นข่าวอื้อฉาวสนั่นโลก แต่ทางบริษัทมอสแซค ฟอนเซกา ยังออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของทางบริษัท โดยชี้ว่า นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทกฎหมายแห่งนี้มานานนับ 40 ปี ยังไม่เคยโดนกล่าวหา หรือถูกฟ้องร้องว่าทำผิดในคดีอาญาใดๆเลย

ด้วยเหตุนี้ คงติดตามกันต่อด้วยความระทึกว่า ข้อมูลที่อยู่ในเอกสารปานามา จะ ‘พ่นพิษ’ จนทำให้ นักการเมือง นักธุรกิจ เศรษฐี คนดังต่างชาติ รวมถึงจะมีนักธุรกิจ และคนดังในไทยหรือไม่ ที่ต้องเซ่นสังเวยให้กับการเปิดโปงการทุจริตฉ้อฉลในการซุกเงิน เลี่ยงภาษีในต่างแดนครั้งมโหฬารคราวนี้.

Leave a comment