วิล สมิธ รับรางวัล เจเนอเรชั่น อวอร์ด จากเอ็มทีวี 2016

คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมานานไม่ว่าจะเป็นในฐานะนักร้องหรือนักแสดง ทั้งทางภาพยนตร์และทางโทรทัศน์ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นด้านไหน วิล สมิธ ก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะถูกจองคิวให้รับรางวัล เอ็มทีวี มูฟวี่ อวอร์ดส์ เจเนอเรชั่น อวอร์ด ที่จะจัดให้มีขึ้นในเดือนหน้า

ผลงานของสมิธที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาก็ได้แก่ภาพยนตร์เรื่อง “Independence Day”, “Men in Black”, “Bad Boys” รวมถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขา “Suicide Squad”

เคซี่ แพตเตอร์สัน เอ็กซ์คลูซีฟ โปรดิวเซอร์ของเอ็มทีวีกล่าวว่า “วิล สมิธ และเอ็มทีวีเราเติบโตมาด้วยกัน และได้มีประสบการณ์ร่วมกันในประวัติศาสตร์อันสุดยอด เอ็มทีวีคือหนึ่งในส่วนของอาชีพของวิล และเขาก็กลายมาเป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ที่หล่อหลอมวัฒนธรรมของเอ็มทีวีมาตั้งแต่เริ่มต้น จากละครทางโทรทัศน์อย่าง“The Fresh Prince of Bel Air” ไปจนถึงงานเพลง และภาพยนตร์อันสุดแสนมหัศจรรย์ของเขา วิลเป็นกระบอกเสียงของคนรุ่นเขา และก็ไม่เกรงกลัวที่จะแสดงความคิดเห็น โอกาสครบรอบ 25 ปี ของมูฟวี่อวอร์ดส์จึงเป็นปีที่สมบูรณ์แบบที่จะมอบเกียรติให้ #BIGWILLIE เนื่องจากเอ็มทีวีเท่านั้นที่ทำได้ พร้อมกับมีเซอร์ไพรส์มากมายเตรียมไว้ด้วย

คริส มาร์ติน หย่า กวินเน็ธ พัลโทรว อย่างเป็นทางการ

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2014 คริส มาร์ติน และ กวินเน็ธ พัลโทรว ได้ประกาศว่าทั้งสองได้ยุติการเป็นสามี-ภรรยากันอย่างมีสติ และตอนนี้ฝ่ายชายได้เซ็นใบหย่าให้กับอดีตภรรยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อยุติชีวิตสมรสของทั้งสองอย่างสมบูรณ์

แหล่งข่าวกล่าวว่า มาร์ตินเพิ่งจะเซ็นเอกสารเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา “คริสได้เซ็นใบหย่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่มีการให้เหตุผลประกอบว่าทำไมเขาจึงปล่อยมันไว้นานขนาดนี้ และเขาวางแผนที่จะทำอะไรต่อไป ไม่มีความรู้สึกไม่ดีระหว่างเขาและกวินเน็ธ และพวกเขาเองก็ยังคงสนิทกันมาก และเหนือสิ่งอื่นใด สิ่งสำคัญที่สุดของทั้งสองคือลูกๆ ของพวกเขา”

ก่อนหน้านี้ มาร์ตินได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมยังคงตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่แย่ๆ อยู่หลายวันแต่ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนผมได้รับตัวช่วยที่จะทำให้ผมเปลี่ยนชีวิตไปใหม่ คุณอาจจะรู้สึกกับมันอย่างรุนแรง และเอาแต่พร่ำตำหนิ และตำหนิหรือคุณอาจจะขังตัวเองไว้ในอู่ซ่อมรถอย่างที่เขาเรียกกันน่ะ แยกตัวเองออกเป็นชิ้นๆ และชำระล้างมันสักหน่อย ก่อนจะประกอบตัวเองเข้าด้วยกันอีกครั้ง มันมักจะมีเรื่องพวกนี้อยู่ในสื่อ แต่ผมมีการแยกทางและหย่าร้างที่งดงามมาก มันเป็นการหย่าร้าง แต่มันก็เป็นการหย่าร้างที่แปลก มันตลกนะ ผมไม่คิดถึงคำนั้นบ่อยนัก คำว่าหย่าร้างน่ะ ผมไม่เห็นเหตุการณ์นี้ในแง่นั้น ผมเห็นมันเหมือนกับว่าคุณเจอใครสักคนหนึ่ง คุณใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แล้วสิ่งต่างๆ มันก็ผ่านไป คุณได้ใช้ชีวิตหลายๆ ชีวิตหลังจากนั้นเป็นต้นมา”

เรเน เซลวีเกอร์ ศึกษาบทหนักกับการกลับมาของ ‘Bridget Jones’s Bady’

ทั้งๆ ที่เป็นคนอเมริกันโดยแท้ แต่ เรเน เซลวีเกอร์ ก็รับบทสาวอังกฤษ บริดเจ็ท โจนส์ ด้วยสำเนียงการพูดที่ไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย และแม้จะอยู่นอกบทบาทที่เธอได้รับจากภาพยนตร์ภาคล่าสุด “Bridget Jones’s Baby” นางเอกสาวก็ยังคงคาแร็กเตอร์ ไว้ด้วยการพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอังกฤษตลอด

เซลวีเกอร์ให้สัมภาษณ์ถึงสำเนียงการพูดว่า“มันเป็นประโยชน์กับฉันนะคะ ฉันไม่อยากจะคิดถึงมันเลย แล้วฉันก็รู้สึกว่าฉันใช้มัน แล้วเดี๋ยวก็เลิกใช้ คือจริงๆ แล้วฉันก็แค่ขี้เกียจน่ะ มันเป็นความขี้เกียจ ฉันไม่อยากจะให้ตัวเองต้องทำงานเพื่อกลับไปอยู่ในสำเนียงแบบนั้นทุกๆ วัน”

สำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้ นางเอกสาวใช้เวลาอยู่ที่จีเอ็มบีสตูดิโอเพื่อศึกษาหาข้อมูลถึงอาชีพใหม่ของบริดเจ็ท ในฐานะโปรดิวเซอร์ข่าวของสถานีโทรทัศน์ เธอกล่าวว่า “ฉันไม่ได้รู้เลยว่าคุณจะต้องมีข่าวฟีดเข้ามาแบบสดๆ ตลอดเวลาจากอินเตอร์เนต และเห็นได้ชัดว่ามันมาจากทั่วโลก และคุณก็ต้องเปลี่ยนตารางของตัวเองเมื่อมีข้อมูลใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา ดังนั้นไม่ว่าคุณจะวางแผนสคริปต์อะไรเอาไว้ก็ตามในตอนเย็น คุณก็จะต้องยกเลิกมันทั้งหมดหากมีอะไรที่สำคัญเข้ามาแทน มันน่าประทับใจมากเพราะคุณทำงานแบบนี้ด้วยค่าตอบแทนเพียงน้อยนิด”

เจสสิก้า บีล ชมเปาะสามีสุดฮอต จัสติน ทิมเบอร์เลค

มีโอกาสได้แต่งงานกับนักร้องหนุ่มที่จัดว่าฮอตสุดๆ จนเป็นที่อิจฉาของสาวๆ ทั่วโลก มาวันนี้ เจสสิก้า บีล ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าสามีของเธอ จัสติน ทิมเบอร์เลค เป็นหนุ่มหล่อมีเสน่ห์ จนทำให้เธอเข่าอ่อนได้ทุกครั้ง

นางเอกสาวให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันฟังเพลงของเขาอาจจะมากกว่าที่ฉันควรจะฟังด้วยซ้ำ มันออกจะน่าขนลุกสักหน่อยนะ ฉันชอบเพลงของเขา ฉันอาจจะเป็นแฟนเพลงอันดับหนึ่งของเขาเลยก็ว่าได้ ฉันคิดว่าฉันน่าจะไปคอนเสิร์ตของเขาราวๆ 40-50 คอนเสิร์ตได้นะตอนที่ฉันท้องอยู่ แล้วฉันก็แค่ยืนอยู่ตรงนั้น และเพลงมันก็กระแทกกระทั้นมาก แล้วฉันก็คิดว่า ‘นี่ฉันกำลังทำร้ายลูกเลยนะเนี่ย’”

นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าหนูน้อยซิลาสก็จะได้รับอิทธิพลจากคุณพ่อมาไม่น้อย “เขาเป็นนักดนตรีมากๆ เขาชอบเพลงของเอริกาห์ บาดู เขาชอบเพลงของเธอมาก เรียกได้ว่าเขาสามารถกินเพลงของเธอเป็นอาหารได้ แล้วเขาเพิ่งได้รับของขวัญเป็นชุดกลอง ซึ่งเขาชอบตีกลองมากๆ เขายังชอบเล่นกับเปียโนของเขา และเขาก็ชอบตีกลองด้วยหัวของตัวเอง ซึ่งฉันคิดว่ามันเป็นอะไรที่อัจฉริยะมากเลยถ้าคุณถามฉันน่ะนะ มันเป็นระดับอัจฉริยะเลย” คุณแม่ยังสาวกล่าว

โคลอี้ มอเรตซ์ ไม่ขอเกาเหลา เทเลอร์ สวิฟท์

แม้สื่อมวลชนจะชอบให้เหล่าดารานักร้องเกาเหลากันมากแค่ไหน แต่คงใช้ไม่ได้กับนางเอกสาว โคลอี้ มอเรตซ์ ที่ล่าสุดเพิ่งมีข่าวว่าเธอปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมแก๊งของนักร้องสาวสุดฮอต เทเลอร์ สวิฟท์ งานนี้นางเอกสาวไม่ขอกระโดดเข้ามาร่วมทีม แต่ก็ยังชมเปาะว่าสวิฟท์นั้นเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์มาก

มอเรตซ์กล่าวว่า เธอยอมรับว่าเธอเคยได้รับคำเชิญจากสวิฟท์ให้เข้าร่วมกลุ่ม แต่เธอปฏิเสธเพราะเธอมองว่าคำว่ากลุ่มนั้นดูเป็นอะไรที่ผูกขาด และดูแบ่งพรรคแบ่งพวก แต่ถึงกระนั้น มอเรตซ์เองก็ยังกล่าวถึงสวิฟท์ว่า“เป็นคนที่มีพรสวรรค์มาก”

สำหรับเรื่องงานในแวดวงบันเทิงนั้น นางเอกสาวกล่าวว่า “ฉันเองอยากเป็นที่รักของชาวอเมริกันทุกคน ฉันอยากเป็นคนที่ใครๆ รัก ฉันอยากจะเป็นราชินีของกลุ่มอินดี้ แต่ฉันก็อยากจะให้ผู้คนรักฉันจริงๆ และรักในสิ่งที่ฉันทำ และปล่อยให้ฉันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเขาที่บ้าน”

คานเยเวสต์ โว ขายเสื้อผ้าสองวันได้ 1 ล้านเหรียญ

ตอนทำงานเพลงอย่างเดียวยังไม่รุ่งขนาดนี้ พอ คานเย เวสต์ ก้าวเข้าสู่วงการแฟชั่นเท่านั้นแหละ ดูเหมือนกับว่าชื่อเสียงของเขาจะแผ่ขยายกว้างขึ้น รวมไปถึงรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ดูง่ายๆ แค่เปิดร้านชั่วคราวป๊อปอัพสโตร์ที่นิวยอร์กเพียง 2 วัน ก็กวาดเงินไปได้แล้ว 1 ล้านเหรียญ

แร็พเปอร์หนุ่มทวิตอย่างตื่นเต้นว่า “แต่คงไม่มีแบรนด์อื่นใดที่สามารถขายเสื้อผ้าได้ 1 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลา 2 วัน กับการเปิดร้านเพียงร้านเดียว” ซึ่งเวสต์ได้วางขายเสื้อผ้าที่ออกแบบมาโดยอาศัยแรงบันดาลใจจากอัลบั้มล่าสุด “The Life of Pablo” ของเขา

นอกจากนี้ ผู้จัดการร้านบาร์นียส์นิวยอร์ก ทอม คาเลนเดอเรียน ยังเป็นอีกคนที่ยืนยันว่า เสื้อผ้าของเวสต์นั้นเป็นที่นิยมมากจริงๆ “กระแสที่มีต่อการวางจำหน่ายรองเท้าคานเยเวสต์xอดิดาส แบบดั้งเดิมอย่างยีซี่ ซีซั่น 1 นั้นเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ ดีไซเนอร์ท่านนี้เป็นผู้มีอิทธิพลที่เป็นที่ชื่นชอบทางด้านดนตรี ป๊อปคัลเจอร์ และแฟชั่น ด้วยนิ้วที่จับอยู่บนชีพจรของผู้ติดตามทั้งหลายของเขา ความตื่นเต้นนี้ได้แพร่ไปสู่กลุ่มแฟนๆ ของเขา ไปจนถึงลูกค้าทางด้านแฟชั่น ที่ต่างก็ต้องการสัมผัสประสบการณ์ผ่านมุมมองของเขาที่มีต่อคอลเลคชั่นนี้”

Quote

การขอให้พลังจงอยู่กับคุณนั้นเป็นอะไรที่น่าดึงดูดใจ แต่มันไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญคือการที่ตัวคุณเองคือพลังนั้น เพื่อตัวของคุณเอง และบางทีอาจจะเพื่อคนอื่นๆ ด้วย

แฮร์ริสัน ฟอร์ด