คณะแพทย์ มช. จัดกิจกรรมวันต้อหินโลก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/210458

วันศุกร์ ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ศ.คลินิก นพ.วัฒนา นาวาเจริญ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันต้อหินโลก 2559

จักษุแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันต้อหินโลก รณรงค์ให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปี ตรวจตาป้องกันการเกิดต้อหิน ชี้โรคต้อหินเป็นภาวะที่ทำให้ตาบอดมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย โดยพิธีเปิดกิจกรรมวันต้อหินโลกได้รับเกียรติจาก ศ.คลินิก นพ.วัฒนา นาวาเจริญ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิด ภายในงานจัดกิจกรรมมากมาย ทั้งนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคต้อหิน การเสวนาเรื่องความรู้เกี่ยวกับโรคต้อหิน โดย รศ.ดร.พญ.เกษรา พัฒนพิฑูรย์,ผศ.นพ.ดำรงค์ วิวัฒน์วงศ์วนา, ผศ.พญ.ธิดารัตน์ ลีอังกูรเสถียร และ อ.พญ.ลินดา หรรษภิญโญ อาจารย์ประจำภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมทั้งให้บริการตรวจ scan โอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคต้อหิน ตรวจวัดความดันลูกตาและถ่ายภาพจอประสาทตาให้แก่ผู้สนใจและกลุ่มเสี่ยง ตอบคำถามชิงรางวัลพร้อมชมการแสดงดนตรีโดยแพทย์ประจำบ้านและแพทย์ใช้ทุนภาควิชาจักษุวิทยาอีกด้วย ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระบารมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ผศ.พญ.ธิดารัตน์ ลีอังกูรเสถียร อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องต้อหินและสายตาเลือนราง ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวว่า “ปัจจุบันโรคต้อหินเป็นสาเหตุของภาวะตาบอดของประชากรในเมืองไทยและทั่วโลกคิดเป็นอันดับสองรองจากโรคต้อกระจก อัตราความชุกของโรคต้อหินพบเพิ่มขึ้นตามอายุ ในประเทศไทยผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี พบมีความชุกของโรค ร้อยละ 2 และเพิ่มเป็นร้อยละ 6 เมื่ออายุมากกว่า 60 ปี ภาวะตาบอดที่เกิดจากโรคต้อหินไม่สามารถรักษาให้กลับมาเห็นได้ตามปกติหากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะแรกของโรค โดยระยะแรกโรคต้อหินจะไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ ไม่มีตามัว ไม่มีปวดตา จึงทำให้ผู้ป่วยไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคต้อหิน ดังนั้นหากไม่ได้รับการตรวจตาเพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยจะมีอาการตามัวมองเห็นภาพแคบลงเรื่อยๆ จนกระทั่งตาบอดในที่สุด ปัจจุบันมีผู้ป่วยต้อหินเพิ่มมากขึ้นทั่วโลกไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทยเท่านั้น”

ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์มช. จึงได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมวันต้อหินโลกขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจในเรื่องเกี่ยวกับโรคต้อหินให้มีการตื่นตัว และทราบถึงความสำคัญของการตรวจตาในเวลาที่เหมาะสม พร้อมทั้งให้บริการการตรวจประเมินหาข้อบ่งชี้ในการเกิดโรคต้อหินให้แก่ผู้ร่วมงานและผู้สนใจทั่วไปผศ.พญ.ธิดารัตน์ ลีอังกูรเสถียร กล่าวต่อว่า“ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อหิน เป็นกลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไป มีญาติสายตรงเป็นผู้ป่วยโรคต้อหิน, ผู้ที่มีปัญหาทางสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว, ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือดเช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง,กลุ่มผู้ใช้ยาสเตียรอยด์ (Steroid), ผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดดวงตาหรือเคยมีอาการตาอักเสบ และผู้มีประวัติการกระแทกหรือเกิดอุบัติเหตุบริเวณดวงตา ผู้มีความเสี่ยงควรปรึกษาจักษุแพทย์กรณีมีความผิดปกติทางดวงตาเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นโรคต้อหิน”

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

Leave a comment