ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/210362
กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ฐาปน สิริวัฒนภักดี พร้อมด้วยพันธมิตรร่วมจัดงาน
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดงานสืบสานประเพณีไทยในเทศกาลสงกรานต์อย่างดีงามกับงาน “Water Festival 2016 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อตอกย้ำแนวคิดการบอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลกร่วมตอบสนองนโยบายรัฐ รณรงค์ใช้น้ำอย่างประหยัด เล่นน้ำแบบประพรม อนุรักษ์ประเพณีไทยดั้งเดิม ซึ่งปีนี้ได้ขยายพื้นที่ความสนุกแบบดีงามไปทั้ง 3 ภาคของประเทศไทย ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานแถลงข่าวการจัดงาน “Water Festival 2016 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ร่วมด้วย นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) และประธานการจัดงาน Water Festival 2016 วิถีน้ำ…วิถีไทย, นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมเผยถึงความพร้อมในการจัดงาน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการสนับสนุนการจัดงานในฐานะภาครัฐว่า เทศกาลสงกรานต์ หรือ วันขึ้นปีใหม่ไทย เป็นประเพณีที่มีความเก่าแก่ สืบทอดกันมาแต่โบราณ สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม และค่านิยมที่ดีงามอย่างหนึ่งของไทย จัดได้ว่าเป็นเทศกาลแห่งความสุข และสนุกแบบไทยๆ มีสีสันที่สุด ติด 1 ใน 5 ของเทศกาลสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานประเพณี วัฒนธรรมที่งดงามจากครั้งอดีต ตลอดจนกระตุ้นให้เกิดกระแสการ
ท่องเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ในปีนี้ นโยบายรัฐบาล รณรงค์การใช้น้ำอย่างประหยัด ด้วยการเล่นสงกรานต์แบบดีงามประพรมน้ำ อนุรักษ์ประเพณีไทยแท้ แบบดั้งเดิม จึงได้สนับสนุนให้มีการท่องเที่ยวสงกรานต์แบบวิถีไทย ผ่านกิจกรรมต่างๆ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หนึ่งในนั้นคืองาน “Water Festival 2016 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ที่จะเป็นอีกหนึ่งงานสำคัญที่นอกจากจะสร้างให้เกิดกระแสความสนใจแก่นักท่องเที่ยวชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้มาร่วมสืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยแล้ว ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้มาสัมผัสกับศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทยอีกด้วย

ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานจัดงาน
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และประธานการจัดงาน “Water Festival 2016 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” กล่าวว่า บริษัทมีปณิธานอันแน่วแน่ที่ต้องการจะบอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก เพื่อตอกย้ำแนวคิดเรื่องการท่องเที่ยววิถีไทยให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมเรียนรู้ สืบสาน และบอกเล่าประเพณีอันดีงามอันเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย พร้อมกันนี้ ยังได้ร่วมตอบสนองนโยบายรัฐ รณรงค์ให้ใช้น้ำอย่างประหยัด ด้วยการเล่นสงกรานต์แบบดีงาม ประพรมน้ำอนุรักษ์ประเพณีไทยแท้แบบดั้งเดิม จึงร่วมกับพันธมิตรหลายภาคส่วน ทั้งรัฐ และเอกชน มากกว่า 70 แห่ง ร่วมกันจัดงานขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยปีนี้ มีนโยบายขยายพื้นที่การจัดงานที่จะเกิดขึ้นพร้อมกันถึง 3 ภาค ของประเทศไทย คือ ภาคกลาง จัดที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ จัดที่จังหวัดเชียงใหม่ และ ภาคใต้ จัดที่จังหวัดภูเก็ต
ภาคกลาง ยังคงจัดที่กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ใน 7 พื้นที่ริมโค้งน้ำที่ยาวที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ท่ามหาราช ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค และเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ที่ยังคงจัดเต็มประเพณีดีงาม และกิจกรรม ช็อป ชม ชิม แชร์ โชค แบบจุใจ กับเสน่ห์แบบไทยที่ไม่มีวันเชย พร้อมล่องเรือด่วนเจ้าพระยาที่ให้บริการฟรีแก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมในงาน 7 ท่าน้ำแบบวิถีไทย และยังเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมมือกับกองทัพเรือ เปิดเส้นทางพิเศษสุด Unseen ที่ไม่เคยมีใครได้ปั่นเข้ามาก่อน ที่ยาวที่สุดริมโค้งน้ำเจ้าพระยา ผ่านกองทัพเรือ ข้ามฝั่งไปยังยอดพิมานริเวอร์วอล์ค กับกิจกรรม “ปั่นเพลินวิถีไทย” เพื่อเอาใจนักปั่นโดยเฉพาะ ปิดท้ายด้วยการชมคอนเสิร์ตในบรรยากาศสุดชิลล์จากศิลปินชื่อดังทุกค่ำคืน ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2559

(ซ้าย) ปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ และ จำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าฯ ภูเก็ต
ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เชิญชวนร่วมสืบสานวัฒนธรรมล้านนา สมโภช 720 ปี เมืองเชียงใหม่ ณ เรือนโบราณล้านนา 140 ปี ริมแม่น้ำปิง ซึ่งได้รับความกรุณาจากจังหวัดเชียงใหม่ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการสมโภช 720 ปี เมืองเชียงใหม่ โดยการจัดงานเป็นการอนุรักษ์ประเพณีของล้านนา ประเพณีสรงน้ำพระ ศาลาสระเกล้าดำหัว พิพิธภัณฑ์จัดแสดงผ้าโบราณ มีการออกร้านกาดหมั้ว การสาธิตหัตถกรรม การดนตรีพื้นเมือง การประกวดฟ้อนเล็บ เทพธิดา เทพบุตรล้านนา การแสดงแสงเสียง “มหัศจรรย์แห่งสายน้ำล้านนา” และจะมีการแสดงคอนเสิร์ตในแนวโฟล์คซองล้านนาโดย สุนทรี เวชานนท์ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2559
ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต ร่วมกิจกรรมดีงามและบันเทิงริมหาดในมหกรรมสงกรานต์อันดามัน ณ หาดป่าตองเชิญสักการบูชาพระพุทธสิหิงค์ สนุกกับบันเทิงไทยพื้นบ้าน นาฏศิลป์ไทย ประดับไฟแสงสีอันดามัน เที่ยวตลาดย้อนยุคและลิ้มรสอาหารพื้นเมืองภูเก็ต “เมืองสวรรค์สร้างด้านวิทยาการอาหาร” โดยยูเนสโก ตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2559
นอกจากนี้ ในทุกพื้นที่การจัดงาน ยังยกเอาเมนูเด็ดจากร้านดัง และของดีชุมชนขึ้นชื่อ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการออกร้านภายในงานเพื่อเป็นสีสันและช่วยส่งเสริมกระตุ้นการจับจ่าย ตอบสนองแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และประชารัฐ ให้กับชุมชนที่อยู่บริเวณการจัดงานในแต่ละพื้นที่อีกด้วย

น้องๆ เยาวชนเชิญชวนให้เที่ยวสงกรานต์เชิงวัฒนธรรม
ด้าน นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมเป็นอย่างมาก เนื่องจากปีนี้เป็นปีมงคลของชาวเชียงใหม่ ครบรอบ 720 ปี การสถาปนาเมืองเชียงใหม่ ซึ่งตรงกับวันที่ 12 เมษายน 1839 ชาวเชียงใหม่จึงได้เตรียมงานการสถาปนาเมือง เป็นประเพณีปีใหม่เมือง ก็คือประเพณีสงกรานต์ ชาวเชียงใหม่รอคอยอยากฉลองเมือง พร้อมนำเสนอกิจกรรมประเพณีปีใหม่ เน้นในเรื่องวัฒนธรรม เพราะฉะนั้นปีนี้จะเริ่มกิจกรรม “Water Festival 2016 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ไปพร้อมกับการร่วมสมโภช720 ปี เมืองเชียงใหม่ งานเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน และช่วงเย็นวันนั้นจะมีพระสงฆ์ 720 รูป จะร่วมสวดมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เมือง วันที่ 11 เมษายน มีการฟ้อนถวายมือ วันที่ 12 เมษายน เป็นวันสมโภชเมือง วันที่ 13 เมษายน เป็นงานวันปีใหม่เมือง วันที่ 14 เมษายน มีพิธีแห่ไม้ค้ำสะหลี และขนทรายเข้าวัด วันที่ 15 เมษายน เป็นพิธีสระเกล้าดำหัว ปีนี้ได้นำสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของเมืองที่สุดของความเป็นวัฒนธรรมมานำเสนอ
ขณะที่ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตเป็นเมืองแห่งความทันสมัย ยึดเอาป่าตองเป็นจุดตั้ง และนำเอานโยบายรัฐบาลมาจุดประกายในการจัดงานสงกรานต์ในปีนี้ นำเสนอวัฒนธรรมและความดีงาม ซึ่งบางครั้งหากปล่อยไปนานกลิ่นอายความเป็นไทยอาจลดลง เพราะภูเก็ตมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่มากถึง 9 ล้านคน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นไทยอาจถูกกลืนไป เมื่อคิดถึงภูเก็ตก็คงเป็นประเพณีกินผัก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ขณะนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย เราได้นำเสนอความเป็นไทยผสมผสานกับกลิ่นอายไปของชาวใต้ ซึ่งอาจจะมีความแตกต่างแต่เป็นสิ่งที่ดีงามจะทำร่วมกันในวันสงกรานต์ ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ สรงน้ำพระ ทำให้ลูกหลานได้เห็นถึงความดีงาม นอกจากนี้ยังจัดงานให้คน 3 วัย ได้ทำกิจกรรมและมีความสุขร่วมกัน