(ภาพ: AP)

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ยอมรับว่า ความล้มเหลวในการวางแผนสำหรับลิเบีย หลังจากโค่นอำนาจผู้นำเผด็จการ โมอัมมาร์ กัดดาฟี เป็นความผิดพลาดร้ายแรงที่สุดในยุคการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ของเขา…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ฟ็อกซ์ นิวส์ ตอบคำถามต่างๆ เกี่ยวกับผลงานที่ดีและเลวร้ายตลอดวาระการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งนายโอบามายอมรับว่า ความล้มเหลวในการวางแผนสำหรับลิเบีย หลังจากโค่นอำนาจ พันเอก โมอัมมาร์ กัดดาฟี แล้ว เป็นความผิดพลาดร้ายแรงที่สุดของเขา แต่ยังยืนยันว่า การเข้าแทรกแซงในลิเบียเป็นการกระทำที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรนาโตอีกหลายประเทศใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในลิเบีย หลังจากการปฏิบัติอาหรับสปริงเพื่อโค่นล้มการปกครองแบบเผด็จการของนายกัดดาฟีในปี 2011 ลุกลามกลายเป็นความรุนแรง หลังรัฐบาลลิเบียใช้กำลังปราบปรามประชาชนที่ออกมาประท้วง ขณะที่ประชาชนหลายกลุ่มหยิบอาวุธขึ้นต่อสู้กับทหารรัฐบาลกลายเป็นสงครามกลางเมือง

แต่หลังจากที่นายกัดดาฟีถูกสังหาร ลิเบียกลับตกเข้าสู่ความสับสนวุ่นวาย กลุ่มติดอาวุธที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิวัติไม่ยอมสลายตัวและปกครองพื้นที่ต่างๆ ในลิเบีย และหลังการเลือกตั้งในเดือนมิถุนายน ปี 2014 ลิเบียก็แตกออกเป็นสองฝ่ายคือรัฐบาลของ สภาคองแกรสแห่งชาติใหม่ (เอ็นจีเอ็นซี) กับ สภารักษาการ (ซีโอดี) ซึ่งได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติ ขณะที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามเริ่มเข้ามาเคลื่อนไหวในลิเบียด้วย

อนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประธานาธิบดีโอบามาออกมาแสดงความเสียใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลิเบีย โดยเมื่อเดือนก่อน เขาบอกกับนิตยสาร ‘ดิ แอตแลนติก’ ว่า ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนลิเบียเป็นไปด้วยดีอย่างที่เขาหวังไว้ แต่ลิเบียตอนนี้อยู่ในสภาพยุ่งเหยิงเสียแล้ว โอบามายังวิพากษ์วิจารณ์ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร (ยูเค) โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งยูเค ว่า ตีตัวออกห่างหลังจากการเข้าแทรกแซงในลิเบีย

ขณะที่ในการให้สัมภาษณ์กับ ฟ็อกซ์ นิวส์ โอบามาระบุว่า สิ่งที่เป็นความสำเร็จที่สุดในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาคือ การช่วยเศรษฐกิจของประเทศจากการถดถอยครั้งใหญ่ และวันที่ดีที่สุดของเขาคือวันที่เขาผ่านกฎหมายประกันสุขภาพซึ่งถูกเรียกว่า โอบามา แคร์ ส่วนวันที่เลวร้ายที่สุดของเขาคือ วันเกิดเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมแซนดี ฮุก ในเดือน ธ.ค. 2012 ซึ่งทำให้เด็กเสียชีวิตถึง 20 ราย.