‘บิ๊กฉัตร’ลงพื้นที่แก้ไขแล้งจันทบุรี ย้ำปรับคุณภาพเพื่อดันราคาเพิ่ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/209653

วันศุกร์ ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2559, 18.42 น.
1 เม.ย. 59 พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยจากการลงพื้นที่ เปิดเผยในโอกาสลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง และผลไม้จังหวัดจันทบุรี ว่า การแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีในภาพรวมถือว่าสามารถแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนและเกษตรกรได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ทางจังหวัดได้ร้องขอเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้งในปีต่อๆไป คือ แหล่งเก็บกักน้ำ ไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งจะนำไปหารรือร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป

ทั้งนี้ใน ส่วนผลกระทบของสถานการณ์ภัยแล้งซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อปริมาณไม้ผลไม้ภาคตะวันออก คาดว่าผลผลิตจะลดลงประมาณ 10 % ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ จะมีการประเมินปริมาณผลไม้ภาคตะวันออกอีกครั้งในวันที่ 4 เมษายนนี้ ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง รวม 4ชนิด ของ 3 จังหวัด (จันทบุรี ตราด และระยอง) ปริมาณผลผลิตมีแนวโน้มลดลงเกือบทุกชนิด (ยกเว้น ลองกอง)

ส่วน การกระจายตัวผลผลิตที่จะออกสู่ตลาด เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนตุลาคมที่คาดว่าจะออกกระจุกตัวสูงสุดในเดือนมิถุนายน 2559 โดยแบ่งได้ดังนี้ ทุเรียน ผลผลิตมีแนวโน้มลดลง เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธุ์ ถึงต้นเดือนกรกฎาคม มังคุด ผลผลิตมีแนวโน้มลดลง เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ถึงกรกฎาคม เงาะ ปริมาณผลผลิตมีแนวโน้มลดลงเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นสิงหาคม แต่ลองกอง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ผลผลิตจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ปลายเมษายน-ต้นตุลาคม

พลเอกฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ในปีนี้ เน้นการปรับสมดุลDemand และ Supply โดยใช้ข้อมูลมาวิเคราะห์และวางแผนการผลิตและการตลาดเพื่อเตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหาผลไม้ และยังต้องส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตผลไม้ที่มีคุณภาพดี ซึ่งเจ้าหน้าที่เกษตรจะต้องช่วยเกษตรกรในการพัฒนาคุณภาพผลผลิต โดยการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต เช่น การตัดแต่งช่อดอกช่อผล ป้องกันกำจัดศัตรูพืช เก็บเกี่ยว คัดแยกและปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวที่ถูกวิธีเพื่อรักษาคุณภาพและคงความสดของผล และจะต้องส่งเสริมเกษตรกรรายย่อยให้รวมกลุ่มเพื่อผลิตไม้ผลในลักษณะแปลงใหญ่

นอกจากนี้ยังจะต้องบริหารจัดการผลผลิตเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาช่วงผลไม้ออกสู่ตลาด โดยการ ปรับสมดุล ระหว่างปริมาณผลผลิต และตลาด ให้สอดคล้องกัน โดยนำแผนที่มาวิเคราะห์ถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริง  และมีมาตรการต่างๆ อาทิ การป้องปรามผลผลิตด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด โดยให้ออกประกาศและใช้บทลงโทษ กรณีพบผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง สนับสนุนการกระจายผลผลิต ให้การกระจายผลิตผลออกนอกพื้นที่มีความคล่องตัว มากขึ้น โดยขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกันบูรณาการ ส่งเสริมการแปรรูป เพิ่มช่องทางการตลาด และ สร้างรายได้ให้มากขึ้น ผลักดันให้มีการส่งออก ทั้งผลผลิตสดและแปรรูปไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเสริมการบริโภคและประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและต่างประเทศ โดยขยายตลาดเดิมและเพิ่มตลาดใหม่

ซึ่งทุกหน่วยงานจะต้องเข้ามาช่วยบูรณาการในการทำงาน เพื่อให้ผลไม้ไทยเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติ

Leave a comment