ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/209156
จากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศรณรงค์ให้ ปี 2559 เป็นปีแห่งการลดต้นทุนการผลิตภาคการเกษตร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนและสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยส่งเสริมให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้ ด้วยการสนับสนุนองค์ความรู้ต่างๆ ที่จะมีส่วนช่วยให้การทำเกษตรมีต้นทุนการผลิตที่น้อยลง มีผลผลิตที่มีคุณภาพ ขจัดปัญหาการกีดกันทางการตลาด
กรมพัฒนาที่ดิน มีส่วนเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องดังกล่าวโดยเน้นงานส่งเสริมการปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ รณรงค์ให้ความรู้แก่เกษตรกรถึงวิธีการปรับปรุงบำรุงดินที่ง่ายและมีต้นทุนต่ำ ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพชนิดต่างๆ เริ่มจากการบริการตรวจวิเคราะห์ดินการปรับปรุงบำรุงดินการไถกลบตอซัง การแจกจ่ายสารเร่ง พด. การแจกจ่ายกล้าหญ้าแฝก การขุดบ่อน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน โดยปัจจุบันกรมฯได้แก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมทั้งพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีปัญหาเรื่องความอุดมสมบูรณ์และปัญหาดินเค็ม ส่วนภาคเหนือที่มีปัญหาสำคัญ คือ การชะล้างพังทลายของดินก็แก้ปัญหาด้วยการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ การปลูกหญ้าแฝก พื้นที่ภาคใต้ มีปัญหาดินตื้น ดินพรุ ใช้วิธีการตามโครงการแกล้งดินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อย่างไรก็ตาม การนำที่ดินไปใช้ทำการเกษตรอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยขาดการจัดการและดูแลรักษาที่เหมาะสม ทำให้ดินเกิดความเสื่อมโทรม ขาดอินทรียวัตถุ เนื้อดินแน่นทึบ ดินมีสภาพเป็นกรดจัด และความอุดมสมบูรณ์ต่ำทำให้ผลผลิตที่ลดน้อยลง จำเป็นต้องทำการปรับปรุงบำรุงดินให้มีสภาพที่เหมาะสม ซึ่งกรมฯได้ส่งเสริมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง การพัฒนากลุ่มเกษตรกรใช้สารอินทรีย์ลดใช้สารเคมีทางการเกษตร 10,000 กลุ่ม โดยสนับสนุนปัจจัยการผลิต ประกอบด้วย ปุ๋ยหมักสูตรพระราชทาน 17,058 ตัน/17,058ไร่ น้ำหมักชีวภาพ 88 ล้านลิตร/1.76 ล้านไร่ รวมไปถึงการจัดตั้งธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ 87 แห่ง มีเป้าหมายผลิตปุ๋ยอินทรีย์ คือ ปุ๋ยหมักสูตรพระราชทาน 13,253 ตัน น้ำหมักชีวภาพ 714,200 ลิตร และเมล็ดพันธุ์ปุ๋ยพืชสดจำนวน 472 ตัน มุ่งให้เกษตรกรนำเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นา ในครัวเรือน และจากโรงงานอุตสาหกรรม นำมาฝากไว้ที่ธนาคารเพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์ให้เกษตรกรมาเบิกถอนไปใช้ประโยชน์ เพื่อให้เกิดการผลิตและมีการนำไปใช้ประโยชน์ได้ถูกต้อง มีราคาถูก พร้อมทั้งช่วยลดปัญหาการเผา และปัญหาจากการกำจัดหรือทิ้งขยะในอนาคต
