หากพูดถึงเทรนด์การทำงานของคนในยุคดิจิตอลที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป คงหนีไม่พ้นกับการหันหลังให้กับการเป็นมนุษย์เงินเดือนและก้าวเข้าสู่อาชีพอิสระกันมากขึ้น หลายคนมักเลือกทำงานที่บ้าน หรือออกไปทำงานตามร้านกาแฟ และคาเฟ่เก๋ๆ จนทำให้เกิดสถานที่ทำงานแบบใหม่ที่ช่วยสร้างจินตนาการและแรงบันดาลใจในการทำงานมากขึ้น ซึ่งจุดประกายให้กับอินทีเรียสาวคนเก่ง แนน-กรกนก เมฆศิลป์ และผองเพื่อนได้ผุดโปรเจกท์ใหม่ขึ้นมากับ “โซโห (SOHO)” ไมโครออฟฟิศรูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้เริ่มต้นธุรกิจในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

ก่อนที่จะเข้ามาสู่เส้นทางนักธุรกิจหน้าใหม่ แนน-กรกนก เริ่มต้นจากการชื่นชอบศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งทางบ้านให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เธอจึงมุ่งมั่นกับเส้นทางสายนี้โดยเลือกเรียนสาขาสถาปัตยกรรมภายใน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“หลังจากเรียนจบปริญญาตรี แนนโชคดีที่ได้รับโอกาสจากบริษัท พี 49 ดีไซน์ แอนด์แอสโซซิเอทส์ที่ชักชวนให้เข้ามาทำงานในตำแหน่ง จูเนียร์ อินทีเรีย ดีไซเนอร์ ทำให้ได้เรียนรู้งานออกแบบทั้งในและต่างประเทศ เมื่อทำงานได้ครึ่งปี แนนก็เริ่มรู้สึกอยากหาประสบการณ์ใหม่ที่หลากหลายมากขึ้น จึงได้ย้ายไปทำงานที่บริษัท ดีไซน์ เวิลด์ไวด์พาร์ทเนอร์ชิพ จำกัด (DWP) ในทีม Hospitality ซึ่งเป็นทีมที่สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก ทำได้ 2 ปี ก็มาถึงจุดที่แนนอยากเรียนต่อ”

ช่วงที่กำลังค้นหาตัวเองและตัดสินใจว่าจะเรียนต่อในสาขาไหนดี ก็เป็นจังหวะที่แนนและเพื่อนอีก 2 คน เกิดไอเดียร่วมกันว่าจะทำแบรนด์กระเป๋านักเรียนของตัวเอง ภายใต้ชื่อแบรนด์ “เนิร์บ (Nurbs)” ที่ผลิตจากวัสดุหนังอย่างดี และมีดีไซน์ที่โดดเด่น

“ด้วยความที่เราเชื่อมั่นในประสบการณ์การการออกแบบของเราอยู่แล้ว เราจึงมีความมั่นใจสูงมากว่ากระเป๋าของเราต้องถูกใจวัยรุ่นและขายได้ เพราะกระเป๋าของเรานั้นดีกว่าคู่แข่งทั้งในเรื่องของคุณภาพและดีไซน์ แถมยังได้วางขายในเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ปรากฏว่า ผลตอบรับกลับไม่เป็นไปอย่างที่เราคิด เพราะเราเริ่มต้นจากความชอบในการออกแบบ แต่เราไม่มีความรู้ในเรื่องการตลาดเลยแม้แต่น้อย ในที่สุดก็เลยต้องแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง”

จากประสบการณ์ในครั้งนั้น ทำให้แนนตัดสินใจเลือกเรียนต่อปริญญาโทด้านกลยุทธ์ในการออกแบบและสร้างแบรนด์ (Design and Branding Strategy) ที่มหาวิทยาลัยบรูเนล (Brunel University) ประเทศอังกฤษ เพื่อเติมเต็มความรู้ในส่วนที่เธอขาดและมองข้ามมาโดยตลอดกับการใช้ศาสตร์ของการออกแบบมาช่วยให้การตลาดประสบความสำเร็จ

“การเรียนปริญญาโท ทำให้การทำงานของแนนเปลี่ยนไป แต่เดิมเวลาแนนไปรับบรีฟจากลูกค้า เราจะเน้นแต่ว่าลูกค้าต้องการอะไรบ้าง บนพื้นที่เท่านี้ และออกแบบให้สวยและครบตามความต้องการของลูกค้าเท่านั้น แต่พอเรามีความรู้เรื่องแบรนดิ้งทุกครั้งที่แนนออกแบบ แนนจะมองถึงความต้องการของลูกค้า กลุ่มเป้าหมายของลูกค้าเป็นอย่างไร แล้วใส่คาแร็กเตอร์ของแบรนด์ลงไป เพื่อให้งานออกแบบออกมาสวยงามและดึงดูดใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุดช่วงที่เรียนจบกลับมาแรกๆ แนนกลับมาทำงานฟรีแลนซ์และได้ร่วมงานกับบริษัทพาโนรามา ในการออกแบบศูนย์อาหารอีทไทย (Eathai) ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ซึ่งโปรเจกท์นี้ถือเป็นงานแรกที่เราได้นำความรู้ด้านดีไซน์มาบวกกับแบรนดิ้งอย่างแท้จริง”

หลังจากเก็บเกี่ยวชั่วโมงบินในการทำงานมาพอสมควร ในที่สุดโอกาสดีๆ ก็วิ่งเข้ามาหาอินทีเรียดีไซเนอร์คนเก่งอีกครั้ง เมื่อเธอได้รับการทาบทามจากเพื่อนให้มาร่วมหุ้นในบริษัท 67 สตูดิโอ นั่งเก้าอี้ดีไซน์ไดเร็กเตอร์ แน่นอนว่าเธอไม่ปฏิเสธบทบาทใหม่ที่ได้รับ เพราะจะทำให้มีโอกาสพิสูจน์ฝีมือและใช้ประสบการณ์ความรู้ที่มีมาสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะกับโปรเจกท์ใหม่อย่าง “โซโห” (SOHO) ออฟฟิศแนวคิดใหม่ในรูปแบบสำนักงานพร้อมใช้งาน (Micro Professional Office) ณ โครงการแวร์เฮ้าส์ สุขุมวิท 26 ซึ่งจะแตกต่างจาก Co-Working Space ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานของผู้หญิงเก่งคนนี้ที่หลายคนคุ้นเคยดี

“แนนคิดว่า Co-Working Space จะให้ความรู้สึกของความเป็นคอมมูนิตี้มากกว่า มีการพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน แต่ที่เราทำจะให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากกว่า เหมาะกับกลุ่มสตาร์ทอัพที่ต้องการออฟฟิศขนาดเล็ก เพื่อลดต้นทุนการปฏิบัติการ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการความน่าเชื่อถือ โดยการออกแบบของเราเน้นสร้างบรรยากาศที่เสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้มากที่สุด โดยมีทั้งห้องทำงาน ห้องประชุมหลากหลายขนาด อีกทั้ง ยังมีพื้นที่ส่วนกลางให้ได้พักผ่อนกับต้นไม้สีเขียวร่มรื่น และแสงธรรมชาติอ่อนๆ ที่สาดส่องเข้ามาในส่วนของโครงการทั้งหมดนั้นแนนเลือกใช้โทนสีขาวเป็นหลัก ด้วยวัสดุเฟอร์นิเจอร์ที่หลากหลาย เน้นความเรียบร้อยเป็นระเบียบและมีมิติในตัวมันเอง เพื่อสื่อถึงคอนเซ็ปต์หลัก LIVE WITH LESS BUT MORE EFFICIENT ซึ่งสตาร์ทอัพที่สนใจสามารถสมัครสมาชิกเข้ามาเป็นรายเดือนหรือรายปีก็ได้”

สร้างสรรค์ผลงานจนก้าวมาเป็นอินทีเรียดีไซเนอร์แถวหน้าของเมืองไทย ด้วยวัย 34 ปี การเป็นอินทีเรียดีไซเนอร์มืออาชีพ สิ่งสำคัญที่สุดในการจะมายืนเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการได้ แนนบอกว่า “งานออกแบบที่ดีไม่ได้เกิดจากการเลือกใช้วัสดุหรือเฟอร์นิเจอร์ที่สวยงาม หรูหรา ราคาแพงเสมอไป แต่งานออกแบบที่ดีย่อมเกิดจากความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งคาแร็กเตอร์ของแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ได้วางไว้ งานออกแบบชิ้นนั้นถึงจะมีประสิทธิภาพ ดังนั้นสถาปนิกที่ดีต้องออกแบบได้ทุกแนว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโดยการสะท้อนผ่านผลงานการออกแบบ เพื่อส่งถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้ดีที่สุด นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานของแนนค่ะ”