ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/606406
โดย กิรณา อินทร์ชญาณ์ 17 เม.ย. 2559 05:01

วัดกระแส-แก้วน้ำอัดลมในร้านสะดวกซื้อชื่อดังแห่งหนึ่งที่กรุงมะนิลา ซึ่งพิมพ์ใบหน้าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เพิ่มสีสันการเลือกตั้งไม่น้อย.
การเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 9 พ.ค.นี้ รวมถึงการเลือกรองประธานาธิบดี, วุฒิสมาชิก, สมาชิกผู้แทนราษฎร, สมาชิกระบบบัญชีรายชื่อ และผู้บริหารท้องถิ่น ตั้งแต่ระดับจังหวัด ระดับอำเภอไปจนถึงระดับชุมชน รวมๆแล้วกว่า 18,000 คน แม้จะไม่คึกคัก มีดราม่าเหมือนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปลายปีนี้เท่าไหร่นัก แต่ทั่วโลกก็เฝ้าจับตามองสำหรับผู้ที่จะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ ต่อจากนายเบนิกโน อาคีโน ผู้นำคนปัจจุบัน (ซึ่งตลอดเทอมตั้งแต่ปี 2553 ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจดีเฉลี่ยกว่า 6% เป็นสถิติที่สุดยอดในรอบ 40 ปี)
เพราะผู้สมัครลงแข่งขันครั้งนี้ เฉพาะตำแหน่งประธานาธิบดี มี 5 คน คือ 1.นายเจโจมาร์ บิไน รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน 2.มิเรียมเด ฟองโซ ซานติอาโก วุฒิสมาชิก 3.เกรซ โป วุฒิสมาชิก ลูกสาวบุญธรรมนายเฟอร์นานโด โป จูเนียร์ หรือเอฟพีเจ อดีตดาราดังที่เคยลงสมัครชิงตำแหน่งนี้แล้วแพ้ 4.โรดริโก ดูเตอร์เต นายกเทศมนตรีเมืองดาเวา และ 5.มานูเอล โรฮัส อดีต รมว.มหาดไทยฟิลิปปินส์
บุคคลที่ดูๆแล้วภูมิหลังน่าสนใจและเป็นที่จับตามองพิเศษ หนีไม่พ้น ส.ว.หญิง โป วัย 47 ปี ที่ผ่านๆมาเจออุปสรรคขวากหนามหลายเรื่อง ตั้งแต่ กกต.ที่อ้างว่าเธอขาดคุณสมบัติ เพราะไม่มีสัญชาติฟิลิปปินส์ สุดท้ายศาลฎีกาก็ตัดสินอนุญาตให้ลงสมัคร
แม้แต่เรื่องประสบการณ์ทางการเมืองยังเบาหวิว ศาสตราจารย์ เทมาริโอ ริเวรา อาจารย์วิชารัฐศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ มองว่า ปัญหาเดียวกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ที่เข้ารับตำแหน่งผู้นำสมัยแรก แต่ โป มีทีมงานฝีมือปึ้กแล้วตัวเธอเองก็เป็นคนเรียนรู้ไวด้วย
นอกจากนี้ ความสดใหม่ของ โป ที่ยังไม่เคยแปดเปื้อนมลทินที่เกี่ยวกับคอร์รัปชัน เป็นคนติดดินเข้าถึงง่าย บวกกับชื่อเสียงบารมีในความเป็นดาราของพ่อบุญธรรมที่เป็น “บิดาแห่งหนังฟิลิปปินส์”
ในโอกาสที่ทีมงานของการเข้าฝึกอบรมหลักสูตร “ความรู้เรื่องการเป็นประชาคมอาเซียนสำหรับสื่อมวลชน รุ่นที่ 4” ได้เข้าพบพูดคุยกับ นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ เอกอัครราชทูตไทยประจำฟิลิปปินส์ ที่กรุงมะนิลา ประเด็นใหญ่ๆ ก็หนีไม่พ้นเรื่องบรรยากาศของการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยทูตธนาธิปเผยว่า ขณะนี้ยังสรุปได้ยากว่าใครน่าจะมีโอกาสชนะ แต่จากผลสำรวจชี้ว่าเกรซ โป ซึ่งเป็นผู้สมัครอิสระกับโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้ว่าการเมืองดาเวา ต่างมีคะแนนนิยมสูสีน่าลุ้น

นอกจากนี้ ธรรมชาติโดยนิสัยของชาวฟิลิปปินส์จะให้ความสำคัญกับเรื่องอารมณ์ ชื่นชอบตัวบุคคล นิยมคนเด่นดัง เช่น การเลือกอดีตนักแสดงเก่าโจเซป เอสตราดา ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ส่วนกรณีของ ส.ว.เฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ หรือ “บองบอง” ลูกชายของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอส ที่ลงสมัครรองประธานาธิบดีและกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่านทูตก็มองว่า คนรุ่นใหม่ลืมการคอร์รัปชันหรือละเมิดสิทธิมนุษยชนในยุคของมาร์กอสไปแล้ว เนื่องจากผ่านมานานถึง 30 ปี และที่สำคัญคือคนรุ่นใหม่ที่เกิดหลังปี 1986 มีสัดส่วนถึงร้อยละ 50 ของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งครั้งนี้
ขณะเดียวกัน คนฟิลิปปินส์เองก็ให้ความสำคัญกับปัญหาภายในประเทศมากกว่าต่างประเทศ ยกเว้นปัญหาทะเลจีนใต้ เพราะกระทบผลประโยชน์โดยตรง ในฟิลิปปินส์เองก็มีปัญหาทั้งคอร์รัปชัน ความยากจน โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ครอบคลุมเช่น ไฟฟ้าที่ดับเป็นประจำในประเทศ ยกเว้นเขตเมโทรมะนิลา ด้วยการผูกขาดธุรกิจต่างๆของกลุ่มนายทุนโดยเฉพาะเหล่าเศรษฐีตระกูลดังต่างๆ รวมถึงการที่ฟิลิปปินส์เปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานได้ถึง 100% แบบที่รัฐไม่เข้าไปแทรกในรูปแบบรัฐวิสาหกิจ ทำให้ค่าไฟต่อยูนิตโดยเฉลี่ยแพงกว่าเมืองไทย 3 เท่า
และจากที่ทีมงานของเราเยี่ยม “ศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง” (PCIJ) องค์กรสื่อไม่แสวงผลกำไร Malou Mangahas ยังเล่าให้พวกเราฟังถึงทายาททางการเมืองท้องถิ่นในฟิลิปปินส์ที่ฝังรากแก้วกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หลายๆตระกูลใช้วิธีแผ่ขยายอิทธิพล ผูกสายโลหิตไล่ลำดับนับญาติเพื่อความมั่นคงของฐานการเมืองตัวเองและควบคุมงบประมาณกับระบบยุติธรรม
ไม่ว่าจะอย่างไร พวกเราก็ยังได้สัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายการเลือกตั้งอยู่บ้าง แม้ทางกกต.ฟิลิปปินส์ ประกาศห้ามหาเสียงเลือกตั้งระหว่างเทศกาล Holy Week ซึ่งเป็นช่วงที่พวกเราเดินทางไปพอดี เพราะที่ร้าน 7-11 ที่โน่น จัดกิจกรรมอิงกระแสเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วย โดยมีการวางขายแก้วใส่น้ำอัดลมลายผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ทั้ง 5 คน และแก้วที่เขียนว่า “ยังไม่ตัดสินใจ” ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.-2 พ.ค. นี้ ในราคา 25 เปโซ หรือราวๆ 19 บาท
จะเรียกว่าเป็นการวัดคะแนนนิยมของผู้สมัครแต่ละคนอย่างไม่เป็นทางการตามจำนวนยอดขายก็ไม่น่าจะถูกซะทีเดียวนัก เพราะไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุผู้ซื้อ จำนวนแก้วที่ซื้อต่อครั้งต่อคนต่อวัน แถมซื้อแบบไม่ต้องใส่น้ำก็ได้ ซึ่งยอดขายของแก้วแต่ละแบบสามารถเช็กผลรายสัปดาห์ได้ที่ www.7-election.com.ph
ส่วนใครจะแพ้ ใครจะชนะของจริงอีกไม่กี่สัปดาห์ก็รู้…
กิรณา อินทร์ชญาณ์