ธรณีพิโรธ ‘เอกวาดอร์’ยับ รุนแรง7.8

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/607145

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 18 เม.ย. 2559 07:10

 

เร่งกู้ภัยค้นหา ยุ่นผวาถล่มซํ้า ให้คนอพยพ!

โลกถูกเขย่าอีก ล่าสุด เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.8 แมกนิจูด ที่ “เอกวาดอร์” ประเทศชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ในทวีปอเมริกาใต้ แรงสั่นสะเทือนทำให้อาคาร สะพาน ในเมืองเปเดอร์นาเลส แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศพังถล่มทลาย เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 77 ราย เจ็บเกินครึ่งพัน ส่วนที่ “ญี่ปุ่น” หน่วย กู้ภัยยังเร่งตามหาผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงสองระลอก ด้าน “ประยุทธ์” ชวนชาวไทยส่งกำลังใจถึงชาวแดนปลาดิบให้พ้นวิกฤติ สถานทูตฯ เผยช่วยเหลือ นร.-นักท่องเที่ยวไทย 127 คน พาไปยังเมืองฟุกุโอกะ ขณะที่นักวิชาการชี้แผ่นดินไหวญี่ปุ่นไม่กระทบไทย เหตุไม่ได้อยู่ในแนวรอยต่อของเปลือกโลก จึงมีโอกาสน้อยที่จะเจอธรณีพิโรธรุนแรง

พิบัติภัยแผ่นดินไหวรุนแรงเขย่าโลกอีกระลอก โดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 เม.ย. ว่าเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.8 แมกนิจูด ในพื้นที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกประเทศเอกวาดอร์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือทวีปอเมริกาใต้ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.58 น. วันเสาร์ที่ 16 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลาราว 06.58 น. วันที่ 17 เม.ย. ตามเวลาประเทศไทย จุดศูนย์กลางแรงสั่นสะเทือนอยู่ในเขตเมืองมูส์เน ทางภาคเหนือของเอกวาดอร์ ซึ่งอยู่ห่างกรุงกิโต เมืองหลวงขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือหลายร้อยกิโลเมตร

แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวก่อให้เกิดความเสียหายกินอาณาบริเวณกว้าง เพราะเกิดลึกจากผิวดินลงไปแค่ 20 กม. จึงก่อให้เกิดความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือนพังพินาศจำนวนมาก โดยเฉพาะเมืองเปเดอร์นาเลส ถิ่นพำนักของผู้คนมากถึง 40,000 คน ทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวชายหาดสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ทั้งนี้ รองประธานาธิบดีจอร์จ กลาส แห่งเอกวาดอร์แถลงในเวลาต่อมาว่า ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตเบื้องต้นอย่างน้อย 77 ราย บาดเจ็บกว่า 588 คน ทางการสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่และทหารราว 10,000 นาย ร่วมภารกิจช่วยเหลือกู้ภัย ท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน ทั้งยังเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องหรืออาฟเตอร์ช็อกอีกมากถึง 55 ครั้ง ขนาดสั่นไหวรุนแรงที่สุดคือ 5.4 แมกนิจูด ส่งผลให้ผู้คนต่างหวาดผวาต้องออกมาอยู่กันตามที่โล่งแจ้ง

ชาวบ้านรายหนึ่งระบุว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้รุนแรงมากที่สุดในรอบหลายสิบปี ทำให้สะพานข้ามแห่งหนึ่งพังถล่มทับรถยนต์เบื้องล่าง ขณะที่หอสังเกตการณ์บริเวณสนามบินพังยุบลงมาทั้งหลัง คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกมาก ขณะที่ประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ผู้นำเอกวาดอร์ ซึ่งอยู่ระหว่างภารกิจเยือนสำนักวาติกัน ต้องยกเลิกกำหนดการต่างๆ แล้วเดินทางกลับประเทศทันที เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ข่าวแจ้งว่า แผ่นดินไหวในเอกวาดอร์ครั้งนี้ มีประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิ แต่ทางการได้ยกเลิกคำเตือนในเวลาต่อมา หลังพบเพียงระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นราว 0.3-1 เมตร ขณะที่กรุงกิโตแม้มีรายงานการรับรู้แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวในหลายพื้นที่ แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยมีเพียงรายงานกระแสไฟฟ้าดับและระบบการสื่อสารขัดข้องนานไม่กี่ชั่วโมง

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2522 เอกวาดอร์เคยประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุด คร่าชีวิตผู้คนมากถึง 600 ราย บาดเจ็บกว่า 20,000 คน ทั้งนี้ เอกวาดอร์ตั้งอยู่ในเขตรอยเลื่อนแผ่นดินไหวที่เรียกกันว่า “วงแหวนไฟ” (Ring of Fire) ซึ่งเป็นแนวเขตเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งเช่นเดียวกับญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศ นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน มีรายงาน แผ่นดินไหวขนาดแรงสั่นสะเทือน 6.1 เขย่าหมู่เกาะตองกาในพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออกเฉียงใต้ โดยจุดศูนย์กลางการสั่นสะเทือนอยู่ใต้ทะเลลึก 66 กม. แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือมีประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิ

ส่วนความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้ง บนพื้นที่ตอนกลางเกาะคิวชู ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ของญี่ปุ่น ตั้งแต่คืนวันที่ 14 เม.ย. ตามด้วยเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกกว่า 400 ครั้ง และกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 16 เม.ย. เวลา 01.25 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา ประมาณ 23.25 น. วันที่ 15 เม.ย. ตามเวลาไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวซ้ำครั้งที่ 2 ขนาดแรงสั่นสะเทือน 7.3 แมกนิจูด ตามด้วยอาฟเตอร์ช็อกอีกเป็นระลอก ก่อให้เกิดความเสียหายและสร้างความหวาดผวาให้กับผู้คน ซึ่งตลอดวันที่ 17 เม.ย. ทางการญี่ปุ่นยังระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 25,000 คน เร่งค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ยังสูญหายจำนวนหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความยากลำบากจากเหตุดินถล่มฝังกลบเส้นทางยากเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นทั้งสองครั้งยังอยู่ที่อย่างน้อย 41 คน แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 เม.ย. จำนวน 9 ราย และผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 เม.ย. อีก 32 ราย ยอดผู้สูญหายอยู่ที่ 11 ราย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์พลั่วค่อยๆ ขุดค้นหาผู้ประสบภัยที่ยังสูญหายตามซากอาคารบ้านเรือนพังถล่ม ท่ามกลางสายฝนและเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องเป็นระยะ ทำให้เกรงกันว่าอาจเกิดดินถล่มซ้ำในพื้นที่ประสบภัย อย่างไรก็ตาม ทางการญี่ปุ่นได้เร่งอพยพชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยไปอยู่ตามสถานที่พักพิงชั่วคราวที่ปลอดภัยแล้วกว่า 90,000 คน ชาวบ้าน หลายรายยังต้องพักนอนในรถยนต์ และบ้างต้องใช้ชีวิตหลับนอนในเต็นท์ ขณะที่ทางการกังวลว่าผู้คนไร้ที่อยู่อาศัยอาจเพิ่มขึ้นมากถึงเกือบ 250,000 คน ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้กว่า 63,000 ครัวเรือน ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น แถลงระบุภารกิจช่วยเหลือกู้ภัยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากทหารสหรัฐฯ ซึ่งประจำการอยู่ในญี่ปุ่นเกือบ 50,000 นาย

สำหรับการให้ความช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น วันเดียวกัน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เชิญชวนคนไทยส่งกำลังใจให้แก่ชาวญี่ปุ่นให้ผ่านพ้นสถานการณ์เลวร้ายโดยเร็ว ซึ่งนายกฯได้ส่งสาส์นแสดงความเสียใจไปยังนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแล้ว พร้อมทั้งย้ำว่า รัฐบาลไทยยินดีให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่หากญี่ปุ่นร้องขอ โดยให้กระทรวงการต่างประเทศและทุกฝ่ายติดตามข่าวสารความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อม ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า มีคนไทยอาศัยอยู่ใน จ.คุมะโมะโตะ ประมาณ 200 คน ขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และสถานทูตไทยได้ตั้งศูนย์ประสานงานที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สถานทูตลงพื้นที่ร่วมกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา และอาสาสมัครไทย เพื่อติดตามและให้ความช่วยเหลือคนไทยแล้ว โดยทางสถานทูตไทยจัดรถ 5 คัน ให้บริการ 2 จุด คือ เบปปุอารีนา และโรงเรียนประถมยูฟูอิน สำหรับรับคนไทยพาไปดูแลที่เมืองฟุกุโอกะต่อไป สำหรับหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินคนไทยในญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว +81 90-4435-7812, +81 90-1216-3168 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา +81 90-7488-5672, +81 90-1895-0987 Call center กรมการกงสุล กต. 0-2572-8442

ต่อมาสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว แถลงผ่านเฟซบุ๊กว่า สรุปผลการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เกาะคิวชู วันที่ 17 เม.ย.ดังนี้ 1.จากยูฟูอิน (จังหวัดโออิตะ) นักท่องเที่ยวไทย 24 คน 2.จากเบปปุอารีนา (จังหวัดโออิตะ) 87 คน (ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนไทย) 3.จากมหาวิทยาลัยคุมะโมะโตะ นักเรียนและนักท่องเที่ยวไทย 16 คน ทั้งหมดรวม 127 คนปลอดภัย ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมดกำลังเดินทางสู่จังหวัดฟุกุโอกะ ทั้งท่าอากาศยานฟุกุโอกะ หรือจุดพักพิงที่สถานทูตฯจัดไว้

ด้านนายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นที่อาจไม่มีที่พักอาศัยว่า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้สั่งการให้เปิดวัดปากน้ำ ญี่ปุ่น จังหวัดชิบะ ที่สามารถรองรับคนได้กว่า 200 คน เป็นศูนย์ช่วยเหลือคนไทยบรรเทาความเดือดร้อนเป็นที่พักและบริการอาหาร ซึ่งได้รับทราบจากกงสุลไทย ประจำประเทศญี่ปุ่นว่า ทางกงสุลได้พานักเรียนประมาณ 20 คน เข้าพักยังวัดปากน้ำ ญี่ปุ่นแล้ว

วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่นว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ อันเป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียและผู้คนบาดเจ็บมากมาย และขอส่งใจให้พี่น้องชาวไทยที่อยู่ในญี่ปุ่นและประชาชนประเทศญี่ปุ่นให้มีกำลังใจ กำลังกายในการฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ไปได้ด้วย

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายเป็นหนึ่ง วานิชชัย หัวหน้าโครงการลดภัยพิบัติแผ่นดินไหวในประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย กล่าวถึงเหตุแผ่นดินไหวที่จังหวัดคุมะโมะโตะ ประเทศญี่ปุ่นว่า ไม่เกี่ยวกับประเทศไทย เพราะอยู่คนละแนวรอยเลื่อน ประเทศญี่ปุ่นมีแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวแบ่งเป็น 2 ประเภท คือเกิดบริเวณรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลก ซึ่งรอยต่อส่วนใหญ่จะอยู่ในทะเล ดังนั้น จุดศูนย์กลางจึงอยู่ในทะเล หากมีความรุนแรงมากก็ก่อให้เกิดเป็นคลื่นสึนามิ และอีกประเภทคือเกิดบริเวณรอยร้าว รอยแตก หรือรอยเลื่อนบนแผ่นเปลือกโลก โดยในญี่ปุ่นพบรอยร้าวกว่า 200 แห่ง อย่างที่คุมะโมะโตะ ส่วนประเทศไทยไม่ได้อยู่ในแนวรอยต่อของเปลือกโลก แต่มีประเทศเพื่อนบ้านอยู่ในแนวรอยต่อ คือพม่า เนปาล อินโดนีเซีย ซึ่งจะประสบแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยเฉพาะที่พม่าซึ่งมีรอยร้าวบนแผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่อีกด้วย คือรอยร้าวสะกาย ที่พาดผ่านแนวเหนือ-ใต้ของประเทศ และอยู่ใต้เมืองสำคัญ อาทิ มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ เป็นต้น ซึ่งอาจเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในอีกไม่นานนี้ โดยเฉลี่ยจะเกิดขึ้นทุก 30-50 ปี มีขนาด 7-8 แมกนิจูด จะทำให้พม่าจะประสบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ ส่วนประเทศไทยพบรอยร้าวบนแผ่นเปลือกโลก 14 แห่ง อยู่ในภาคเหนือทั้งหมด จนมาถึง จ.กาญจนบุรี แต่รอยร้าวจะใช้เวลาสะสมพลังงานเป็นเวลานานมาก รอยร้าวของไทยอาจใช้เวลาถึงร้อยปีหรือพันปีข้างหน้าจึงจะเกิดการเคลื่อนตัว ดังนั้น การเกิดแผ่นดินไหวในไทยจะยาก

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 22.32 น.วันเดียวกันตามเวลาในไทย ประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ของเอกวาดอร์ แถลงผ่านเว็บไมโครบล็อก “ทวิตเตอร์” ระบุยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิคจูดดังกล่าว พุ่งทะลุเป็นอย่างน้อย 233 คน แล้วท่ามกลางความพยายามของหน่วยกู้ภัย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้คนที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนในหลายเมืองของเอกวาดอร์ ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เอกวาดอร์ระบุยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 77 คนและผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 580 คน

Leave a comment