ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/607056
โดย ตุ๊ ปากเกร็ด 18 เม.ย. 2559 05:01

กลายเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดใจเหมือนทุกปี กรณีอุบัติเหตุวันสงกรานต์ในบ้านเรา
สำหรับปี 2559 นี้ ยอดผู้เสียชีวิตขณะที่เขียนคอลัมน์นี้อยู่ที่ 338 คน บาดเจ็บ 2,891 คน ทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากคนยังทยอยกลับบ้านกันไม่หมด
แม้จะมีการรณรงค์ ออกมาตรการเข้มงวด ที่อาจจะลดเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงลง แต่ท้ายสุดแล้วคงเป็นเรื่องยากที่จะคุมได้ เพราะแน่นอนว่าในช่วงงานเทศกาลย่อมทำให้คนคึกคะนองกันเป็นพิเศษ ได้ปลดปล่อย และก็มักจะนำไปสู่การดื่มสุราทั้งที่จะต้องขับขี่ยานพาหนะ
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่ไทยเพียงอย่างเดียว แต่ที่เมืองนอกเขาก็เป็นกันเช่นนี้ อย่างในสหรัฐอเมริกา ที่สถิติคนเสียชีวิตจากเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลก็สูงไม่แพ้กันกับเรา
โดยเฉพาะวันที่คนต้องเดินทางกลับบ้านไปหาครอบครัว ไปจนถึงช่วงปิดเทอมหน้าร้อน ที่บรรดาวัยรุ่นจะรวมตัวไปเที่ยวสังสรรค์ เฮฮาปาร์ตี้กันจนเมาเละเทะ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานความปลอดภัยจากจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอ็นเอชทีเอสเอ เปิดเผยว่าวันอันตรายที่สุดของสหรัฐฯคือช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ที่พบคือ เกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลให้ถึงแก่ความตาย 764 ครั้ง
นอกจากนี้ ยังเกิดอุบัติเหตุทางถนนเกือบ 50,000 ครั้งในวันเดียวกัน ในจำนวนนี้ผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 40 เปอร์เซ็นต์ เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมาแล้วขับ ขณะที่อีก 60 เปอร์เซ็นต์ มาจากการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
ส่วนวันอันตรายรองลงมาอันดับ 2 คือ วันแรงงาน พบสถิติ 694 ครั้ง ตามด้วยวันเทศกาลคริสต์มาส 654 ครั้ง แต่วันส่งท้ายปีเก่า 31 ธ.ค. กลับน้อยมากมีบันทึกไว้เพียง 58 ครั้ง ก่อนพุ่งขึ้นมาอีกในช่วงวันปีใหม่ 1 ม.ค. 370 ครั้ง
ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่แพ้กัน โดยที่เมาแล้วขับนั้น 5.8 เปอร์เซ็นต์ เป็นวัยรุ่นอายุ 16-17 ปี ส่วน 15.1 เปอร์เซ็นต์ เป็นวัยรุ่นอายุ 18-20 ปี ในจำนวนทั้งหมดนี้ 2 ใน 3 เป็นผู้ชาย ส่วนรถที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งที่สุดคือ รถเก๋ง รถบรรทุกขนาดเล็ก ตามด้วยจักรยานยนต์
อย่างที่ว่ากันครับ เมาไม่ขับดีที่สุด เพราะการเกิดอุบัติเหตุมันไม่ใช่เรื่องดีแต่อย่างใด อีกทั้งไม่ใช่แค่เราได้รับเคราะห์เท่านั้น จะทำคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ซวยไปด้วยบาปกรรมแท้ๆ.
ตุ๊ ปากเกร็ด