(ภาพ: AFP)

กลุ่มติดอาวุธจากประเทศซูดานใต้ โจมตีบริเวณชายแดนของเอธิโอเปีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 ราย และเด็กถูกลักพาตัวไปอีกกว่า 100 คน…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลประเทศเอธิโอเปีย ออกมาเปิดเผยในวันอังคารที่ 19 เม.ย. ว่า กลุ่มติดอาวุธในประเทศซูดานใต้ก่อเหตุบุกโจมตีบริเวณชายแดนหลายครั้งในเดือน มี.ค.และ เม.ย. สังหารประชาชนไปมากกว่า 200 ราย และลักพาตัวเด็กไปอีกกว่า 100 คน

แถลงการณ์ของรัฐบาลเอธิโอเปียกล่าวโทษว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธชนเผ่า ‘มูร์เล’ (Murle) ในประเทศซูดานใต้ ซึ่งคอยแทรกซึมผ่านชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยมีเป้าหมายโจมตีที่เผ่า ‘นูเออร์’ (Nuer) โดยเหตุโจมตีครั้งรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยเกิดการโจมตีใน 13 เขต จนมีผู้เสียชีวิตถึง 182 ราย มีปศุสัตว์ถูกขโมยกว่า 2,000 ตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่เอธิโอเปียเชื่อว่า เด็กที่ถูกลักพาตัวจะถูกพาไปเป็นแรงงาน

รัฐบาลเอธิโอเปียยังได้แสดงความโกรธเกรี้ยว และประกาศว่าจะมีการตอบโต้ และประกาศให้มีการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตเป็นเวลา 2 วัน ในเวลาเดียวกัน มีรายงานว่ากองทัพของเอธิโอเปียสามารถสังหารนักรบติดอาวุธที่ก่อเหตุโจมตีได้ 60 คน แต่ยังไม่แน่ชัดว่า คนร้ายมีจำนวนเท่าใด

นายเกตาชิว เรดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของเอธิโอเปีย ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากพื้นที่ที่ถูกโจมตีระบุว่า ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากหมู่บ้านของตัวเอง “คำสั่งแรกคือการพยายามเยียวยาคนเหล่านี้ เราจะส่งพวกเขากลับหมู่บ้าน” นายเรดากล่าว เขาบอกด้วยว่า ได้ขอให้รัฐบาลซูดานใต้ ซึ่งมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน ช่วยเหลือในการกำจัดภัยคุกคามครั้งนี้ด้วย.