(ภาพ: AP)

ทางการอัฟกานิสถานเผยในวันพุธว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในกรุงคาบูลเมื่อวันอังคาร เพิ่มขึ้นเป็น 64 รายแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่กังวลว่าตาลีบันเริ่มหันมาใช้ระเบิดอานุภาพสูงในการโจมตี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเซดิก เซดิกกี โฆษกกระทรวงมหาดไทยแห่งประเทศอัฟกานิสถานระบุผ่านเว็บไซต์ ทวิตเตอร์ ในวันพุธว่า จำนวนผู้เสยชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีกรุงคาบูล ฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายตาลีบันเมื่อวันอังคาร เพิ่มขึ้นเป็น 64 รายแล้ว ในขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ถึง 347 คน ส่วนใหญ่มีอาการทรงตัว

เหตุระเบิดเมื่อวันอังคารเกิดขึ้นที่เขตพัล-อี-มาห์มูด ซึ่งมีทั้งบ้านเรือน, มัสยิด, โรงเรียน และธุรกิจต่างๆ แรงระเบิดทำลายหน้าต่างอาคารในรัศมี 1.6 กม. ถือเป็นหนึ่งในการโจมตีในกรุงคาบูลที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันเริ่มก่อการร้ายในปี 2001 โดยนายเซดิกกีระบุว่า ระเบิดถูกใช้เป็นตัวเปิดทางให้นักรบติดอาวุธบุกโจมตี

นอกจากนี้ ขนาดของความเสียหายที่เกิดขึ้นยังทำให้เกิดกระแสความกังวลว่า กลุ่มตาลีบันอาจมีระเบิดเกรดกองทัพที่กลุ่มติดอาวุธในอิรักใช้เพื่อต่อต้านกองทัพสหรัฐฯ เพื่อทศวรรษก่อน ซึ่งมีศักยภาพสามารถถล่มตึก และสังหารผู้คนนับร้อยได้ในคราวเดียว

“เรื่องหนึ่งที่ชัดเจนคือ ปริมาณระเบิดที่ใช้ในการโจมตีครั้งนี้มีจำนวนหลายร้อยปอนด์ จึงสร้างความเสียหายเช่นนี้” นายเฟาเซีย ซากี อดีตนายพลของกองทัพ และสมาชิกสภาอัฟกานิสถานกล่าว.