แค่อยากกินเศษก๋วยเตี๋ยว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/607587

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 20 เม.ย. 2559 05:01

 

ประธานกรรมการ กรรมการดำเนินงาน ฯลฯ ของสหกรณ์การเกษตรจากชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ สุรินทร์ และมหาสารคาม 250 คน เชิญฟัง ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ พูด “สินค้าเกษตรกับเศรษฐกิจโลก” ที่ห้องประชุมโรงแรมเทพนคร จ.บุรีรัมย์ 13.00-14.45 น. พฤหัสบดี 21 เมษายน 2559

ผมอ่านหนังสือ Detention Settlements และบทความ North Korean Human Rights: A Story of Apathy, Victims, and International Law ของ เดวิด เอส. ลี อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียในลอสแอนเจลิส และมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดซึ่งเขียนถึงนิคมกักกันและเหยื่อที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ

อ่านแล้วเห็นข้อเปรียบเทียบเลยครับว่า การติดคุกในเกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยสากล ช่างแตกต่างกันอย่างฟ้ากับดินกับการติดอยู่ใน กวาน ลี โซ หรือค่ายกักกัน ในเกาหลีเหนือซึ่งเป็นประเทศเผด็จการ

เดวิด เอส. ลี เขียนหนังสือและบทความนี้จากคำบอกเล่าและพยานชาวเกาหลีเหนือที่เห็นเหตุการณ์เกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

ในสังคมเผด็จการของเกาหลีเหนือนั้น ผู้มีอำนาจจะจองจำใครก็ได้ตามอำเภอใจ แม้แต่จะประหารใครก็ทำได้ มีทั้งประหารลับ ประหารสาธารณะ เอาคนที่ตนไม่ชอบไปทดลองทางชีวภาพ บังคับให้ทำแท้ง มีแม้แต่การนำทารกแรกเกิดไปเป็นอาหารให้สุนัข ฯลฯ

มีการกดขี่ทางการเมือง และการทำลายล้างศาสนาที่ตนเองไม่ชอบ

นางลี ซุก อ๊อก อดีตนักโทษเกาหลีเหนือซึ่งพ้นโทษและหนีออกจากประเทศได้ ให้ข้อมูลว่า “ฤดูใบไม้ผลิ พ.ศ. 2533 ข้าพเจ้าเห็นนักโทษคริสเตียนสูงอายุ 6 คน ถูกให้ไปยืนเรียงแถวเพื่อปฏิเสธความเชื่อในคริสต์ศาสนา และให้ยอมนับถืออุดมการณ์จูเชของรัฐ เมื่อนักโทษเงียบ เจ้าหน้าที่ก็โกรธขึ้งและฆ่าทีละคนด้วยการเทเหล็กหลอมราดลงไปบนตัว”

ระยะแรกของการปลดปล่อย ประชาชนคนเกาหลีเหนือต้อนรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้วยความชื่นชม และด้วยความหวังว่าตนและครอบครัวจะมีชีวิตที่ดีกว่าเก่า ผู้คนจะเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคนตัดหญ้า หรือชาวนา ก็มีสถานะเท่าเทียมกับคนอื่น หวังว่าเผด็จการจะสลายชนชั้นที่เคยเหลื่อมล้ำ

แต่กรณีตัวอย่างที่มีเป็นพันเป็นหมื่น กลับตรงกันข้าม

นายมยุง ชุล อดีตผู้คุมให้ข้อมูลว่า ระหว่างคุมการทำงานเชื่อมต่อทางน้ำทิ้งไปลงที่บ่อน้ำเสียของโรงครัว นักโทษการเมืองหญิง 2 คน เห็นเศษก๋วยเตี๋ยวจากโรงครัวของผู้คุมคาอยู่ที่ขอบบ่อ จึงเอื้อมมือไปโกยเศษก๋วยเตี๋ยวมาทาน

เจ้าหน้าที่ขี่รถจักรยานผ่านมาพอดี จึงถีบนักโทษหญิง 2 คนนี้ลงไปในบ่อน้ำเสีย มีนักโทษชาย 4 คนวิ่งมาที่เกิดเหตุ และช่วยดึงนักโทษหญิงทั้ง 2 ขึ้นมา นักโทษชายคนหนึ่งเอ่ยกับนักโทษหญิงว่า คุณน่าจะบอกเราก่อน เราจะได้ไปหยิบเศษก๋วยเตี๋ยวให้

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา 1 ใน 2 ของนักโทษหญิงก็เสียชีวิต

นายมยุง ชุล อดีตผู้คุมเห็นเหตุการณ์นี้โดยตลอด และได้ตั้งปณิธานว่า วันหนึ่งจะต้องหนีออกจากเกาหลีเหนือ และจะไปบอกให้โลกรู้ถึงความเลวร้ายของระบอบนี้ ที่เริ่มต้นจากการต้อนรับของประชาชน แต่ลงเอยด้วยการทำร้ายประชาชน

นายชอย ดอง ชุล อดีตผู้คุมอีกคนหนึ่ง ที่หนีจากเกาหลีเหนือได้ ให้ข้อมูลว่า นักโทษชายหญิงจะถูกสั่งให้ทำงานในแปลงเกษตรตั้งแต่ตี 5 จนถึงเที่ยงคืน มีหลายครั้ง นักโทษถือขวานหรือเคียวกำลังทำงานอยู่ในไร่ก็จะถูกสั่งให้เดินไปหาเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อไปถึงก็จะถูกเจ้าหน้าที่ยิงทิ้งด้วยความสนุกสนาน จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะเขียนรายงานว่า ต้องฆ่าเพราะนักโทษก่อกบฏด้วยขวานและเคียว รายงานนี้ถือว่าชอบธรรม เจ้าหน้าที่ไม่ต้องถูกสอบสวน

ในหลายประเทศ แม้ว่าจะเพิ่งเริ่มเป็นเผด็จการ และลูกหลายของเราไม่ต้องถึงขนาดถูกจองจำในคุกดอกครับ ในบางสถานที่ก็ยังถูกเจ้าหน้าที่รุมซ้อมตามอำเภอใจจนตาย

สังคมที่เพิ่งเปลี่ยนจากระบอบประชาธิปไตยไปเป็นระบอบเผด็จการ ประชาชนจะค่อยๆถูกขโมยอำนาจโดยไม่รู้ตัว และลงเอยด้วยความโหดร้ายเช่นเดียวกันหมด

ถ้าอยากให้ลูกสาวของท่านตายด้วยการถูกเจ้าหน้าที่ถีบลงในบ่อน้ำเสียเพียงเพราะแค่อยากกินเศษก๋วยเตี๋ยว

ก็เชิญชื่นชมระบอบเผด็จการกันต่อไปเถิดครับ.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

Leave a comment