กำกับการแสดง สตีเฟน ฮอพกินส์ นักแสดงนำ สเตฟาน เจมส์, เจสัน ซูเดย์คิส,เจอเรมี ไอรอนส์, วิลเลียม เฮิร์ท

เจสซี่ โอเว่นส์ (สเตฟาน เจมส์) เป็นเด็กหนุ่มจากอะลาบาม่าที่ก็เหมือนเด็กหนุ่มอัฟริกัน-อเมริกันส่วนใหญ่ในช่วงทศวรรษที่ 30’s คือต้องหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวด้วยงานใช้แรงงานทุกประเภทตั้งแต่ส่งของไปจนถึงลูกจ้างร้านซ่อมรองเท้า แต่พระเจ้าคงเอ็นดูเจสซี่เป็นพิเศษ เพราะพระองค์ได้ประทานพรสวรรค์ในการวิ่งให้กับเขา

ผลของการวิ่งเร็วนั้นทำให้ เจสซี่โอเว่นส์ ได้เป็นนักกรีฑาประจำโรงเรียน เป็นตัวแทนแข่งขันระดับรัฐ ได้ทุนศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยโอไฮโอ และกลายเป็นผู้ทำลายสถิติกรีฑาหลายประเภทในเวลาเพียง 1-2 ปีแต่ความเป็นคนผิวดำ ในสังคมอเมริกันที่ยังหลงเหลือการเหยียดสีผิว ทำให้เจสซี่โอเว่นส์ ต้องอดทนกับคำดูถูกเหยียดหยามมากมาย เพื่อเตรียมพร้อมสู่การแข่งขันในสนามที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างโอลิมปิก

ในปี 1936 กีฬาโอลิมปิกจัดขึ้นที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ชาติที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโดยการนำของ อดอล์ฟฮิตเลอร์ ผู้ปกครองประเทศด้วยนโยบายชาตินิยมแบบสุดโต่ง ฮิตเลอร์เชื่อว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาไม่เท่ากัน และเผ่าพันธุ์ที่แกร่งกล้าสมบูรณ์ที่สุดคือ เผ่าพันธุ์อารยันผิวขาว ผู้ย่อมเหนือกว่าชาติพันธุ์อื่นๆ ในทุกด้าน

เจสซี่ โอเว่นส์ ได้เป็นตัวแทนจากสหรัฐอเมริกาเข้าแข่งขันกรีฑา และประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ว่า ในโอลิมปิกครั้งนั้น เขาสามารถคว้าเหรียญทองมาได้ 4 รายการ จากวิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร, วิ่งผลัด 4×100 เมตร และกระโดดไกล

Race ในความหมายของเจสซี่โอเว่นส์ ไม่ได้หมายถึงแค่การแข่งขัน แต่มันหมายถึง ชาติพันธุ์ที่ไม่ได้เป็นรองอารยันอย่างที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เข้าใจ และนี่คือ “หน้าประวัติศาสตร์” โอลิมปิกที่น่าทึ่งที่สุด!

เจสซี่ โอเว่นส์ (1913-1980) เป็นนักกรีฑาทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่ถนัดทั้งกรีฑาประเภทลู่และลาน ในวงการกรีฑาสหรัฐ ถือว่าโอเว่นส์คือ “นักกรีฑาที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์” Race เป็นผลงานกำกับของ สตีเฟน ฮอพกินส์ ผู้เคยฝากฝีมือมาแล้วในหนังอย่าง The Ghost and the Drakness (1996), The Life and Death of Peter Sellers (2004) วันนี้ ในโรงภาพยนตร์