(ภาพ: AP)

เมื่อ 22 เม.ย. นายประพิน แมน สิงห์ ผู้ประสานงานด้านการวิจัยและนโยบายจากอ๊อกแฟม องค์กรที่มีหน่วยงานหลายแห่งทั่วโลกร่วมกันแก้ไขปัญหาความยากจนและความอยุติธรรมทั่วโลก เผยว่า รัฐบาลเนปาลซึ่งเตรียมจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 200,000 รูปีเนปาล (กว่า 66,000 บาท) ที่สามารถนำหลักฐานมาพิสูจน์ว่าเป็นเจ้าของที่ดินก่อนเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 25 เม.ย.ปีกลาย แต่ชาวบ้านบ่นจ่ายไม่ครบตามจำนวนเต็ม ทั้งที่ใกล้ครบรอบรำลึก 1 ปี มีผู้เสียชีวิตราว 9,000 ราย บาดเจ็บกว่า 22,000 คน บ้านเรือนเสียหายกว่า 900,000 หลัง ประชาชนที่ต้องอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว 4 ล้านคน ซึ่งก่อนเหตุแผ่นดินไหว มีชาวบ้านมากถึง 480,000 ครอบครัว หรือ 9% ของจำนวนประชากรไม่มีพื้นที่ทำกินของตัวเอง แต่ผลสำรวจหลังแผ่นดินไหวของอ๊อกแฟมพบว่า กว่า 90% อ้างว่ามีที่ดินเป็นของตัวเอง แล้วผู้หญิงเนปาลก็ประสบปัญหาเรื่องไม่มีทรัพย์สินมรดกที่ดินและหาข้อพิสูจน์ที่ตนเคยอยู่อาศัยไม่ได้

ขณะเดียวกัน เกิดเหตุอาฟเตอร์ช็อก 6.0 แมกนิจูดบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกของเอกวาดอร์ ห่างจากเมืองปอร์โตวิเอโจไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ-เหนือ ราว 100 กม. ลึกลงไป 10 กม. แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือสัญญาณเตือนคลื่นยักษ์สึนามิ โดยประธานาธิบดี ราฟาเอล คอร์เรีย ทวีตข้อความ เหตุอาฟเตอร์ช็อก 3 ครั้งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน 22.03 น. วันพฤหัสฯ 21 เม.ย.ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 10.03น. วันศุกร์ 22 เม.ย.ตามเวลาไทยนั้นรุนแรง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเป็น 587 ราย บาดเจ็บ 5,733 ราย

อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่รอดชีวิตเริ่มประสบปัญหาเรื่องอาหารและน้ำดื่ม จนมีฝูงชนออกมาตะโกนร้องขออาหาร แต่นายโฮเซ เซอร์ราโน รัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทยเอกวาดอร์ พูดย้ำว่า รัฐบาลต้อง การมุ่งแจกจ่ายไปตามบ้านแต่ละหลังเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนได้รับอาหารครบ อีกทั้งนายคอร์เรียเองก็ยืนยันว่าไม่ได้ขาดแคลนเรื่องอาหารหรือน้ำดื่ม แต่ปัญหาคือเรื่องการแจกจ่าย ซึ่งต้องเร่งแก้ไขอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ รัฐบาลเอกวาดอร์เร่งขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นไปตามเมืองที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว และตั้งศูนย์ลี้ภัยตามสนามกีฬาและสนามบินเพื่อรองรับประชาชนกว่า 25,000 คน

ส่วนเหตุดินถล่มขนาดมหึมาจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักภายในแคมป์ที่พักของคนงานก่อสร้างที่เมืองอรุณจัลประเทศ รัฐหิมาลายัน ภาคตะวันออก เฉียงเหนือของอินเดีย เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 16 ราย และเกิดเหตุคลังโรงงานเก็บสารเคมีอันตรายและเชื้อเพลิงของบริษัท เจียงซู่ เต๋อเฉียว จำกัด ที่เมืองจิงเจียง มณฑลเจียงซู ภาคตะวันออกของจีน ระเบิดจนเปลวไฟลุกท่วม หมอกควันทะมึนหนา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ และคนงานวิ่งหลบหนีออกมาทัน.