มาไม่มังสากันเถอะ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/612416

โดย ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ 29 เม.ย. 2559 05:01

 

วันเอิร์ธเดย์เมื่อ 22 เมษาฯ ปีนี้ถือเป็นวันมงคลโลก เพราะจีนกับสหรัฐฯ รวมแล้ว 171 ประเทศ ลงนามสัญญากรุงปารีสเรื่องเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน และยังรับปากว่า เซ็นชื่อแล้วก็จะทำทุกอย่างให้เห็นผลเร็วด้วย

ส่วน คุณแอชลีย์ ฟรูโน นักรณรงค์ตัวแทนจากองค์กรเพต้า ซึ่งเพนต์สีบนเรือนร่างเป็นผืนโลกของภาพทวีปและมหาสมุทร เพื่อสื่อความหมายว่า โลก คือ แม่พระธรณี ก็ทำหน้าที่ออกมาเดินชักชวนชาวกรุงเทพฯ ตามภาพประกอบ พร้อมชูป้ายข้อความว่า “ทุกๆวันควรเป็นวันคุ้มครองโลก มาเป็นมังสวิรัติกันเถอะ”

เพราะทางองค์กรฯเห็นว่า อุณหภูมิโลกเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ทั้งน้ำเสีย เน่าเหม็น อากาศเป็นพิษ ทรัพยากรธรรมชาติทยอยหมด แผ่นดินบางประเทศที่เป็นเกาะก็เริ่มจะจมหายไปในทะเล

ล้วนมาจากการบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งนางแบบประสีบนตัวกล่าวว่า “การเป็นนักมังสวิรัติ เป็นวิถีทางที่ดีที่สุด เพื่อสุขภาพของตัวเรา เพื่อการไม่เบียดเบียนสัตว์ และเพื่อสิ่งแวดล้อม”

เธอยังกล่าวต่อไปว่า “ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิโลกที่เปลี่ยนไป การใช้ทรัพยากรพื้นโลกอย่างเกินขอบเขต ทั้งน้ำและอากาศเป็นพิษ พื้นดินที่ถูกกัดกร่อน เป็นผลพวงมาจากความหายนะที่มนุษย์ทำกับโลกใบนี้”

ฝั่งนักวิทยาศาสตร์ต่างสรุปว่า อาหารเนื้อสัตว์คุกคามต่อสภาพแวดล้อม สถาบันสอดส่องโลกก็ประเมินว่า ร้อยละ 51 ของภาวะเรือนกระจกทั่วโลกมาจากอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ รายงานยูเอ็นชี้ถึงจุดความจำเป็นแล้วว่า การบริโภคอาหารทั่วโลกต้องเอนเอียงไปทางมังสวิรัติเพื่อต่อต้านการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลกที่เลวร้ายที่สุด

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโกได้เปรียบเทียบว่า หากมนุษย์เปลี่ยนจากการบริโภคเนื้อสัตว์เป็นมังสวิรัติ จะมีส่วนช่วยไม่ให้โลกร้อนมากกว่าการเปลี่ยนจากการขับรถมาตรฐานทั่วไปเป็นรถไฮบริด!!!

สิ่งปฏิกูล ยาฆ่าแมลงและยาปฏิชีวะสัตว์จากอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ทำให้เกิดน้ำเสีย นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ยังก่อให้เกิดอุจจาระจากสัตว์ถึง 13,000 ล้านตัน/ปี มากกว่าอุจจาระมนุษย์ถึง 48 เท่า

การบริโภคเนื้อสัตว์ของมนุษย์นั้น ต้องใช้เชื้อเพลงในการผลิตปุ๋ย เพื่อปลูกพืชผักเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ ใช้น้ำมันรถยนต์ในการขนสัตว์ไปโรงเชือด ใช้ไฟฟ้าในการฟรีซเนื้อสัตว์เพื่อเก็บรักษาสภาพ ทุกขั้นตอนมีแต่ใช้เชื้อเพลิงในการผลิตอาหารทั้งสิ้น แล้วโปรตีนจากสัตว์ 1 แคลอรีต้องผลาญเชื้อเพลิงมากกว่าโปรตีนจากพืชถึง 10 เท่า.

ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ

Leave a comment