จีนแยกอาเซียนเป็นเสี่ยงๆ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/615192

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 5 พ.ค. 2559 05:01

 

3 ชั่วโมงของเช้าวันนี้ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ พูดรับใช้ข้าราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นอกจากเรื่องไทยในประชาคมอาเซียนแล้ว 1 ชั่วโมงหลังจะรับใช้เรื่อง Start up และแนวโน้มเศรษฐกิจและ

สังคมของโลกสากลในอนาคต หากผู้คนในท้องถิ่นชนบทไทยไม่สนใจเรื่องพวกนี้บ้าง การส่งเสริมของราชการก็ไร้ประโยชน์ เป็นการปฏิบัติราชการที่ตกโลก สิ้นเปลือง การปฏิบัติราชการแทนที่จะเพิ่มโอกาส กลับทำให้ประชาชนและประเทศเสียโอกาส 09.00-12.00 น. พบกันที่สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น ปทุมธานี ครับ

รมว.ต่างประเทศจีนบินไปพบผู้นำกัมพูชา ลาว และเมียนมา เมื่อสัปดาห์ก่อน จากนั้นก็มาแถลงที่เวียงจันทน์ว่า จีนมี consensus หรือความเห็นพ้องต้องกันเป็นเอกฉันท์กับกัมพูชา ลาว และบรูไน 4 ข้อในประเด็นจีนใต้ว่า…

ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ที่เกี่ยวกับเกาะแก่งทั้งหลาย ไม่ใช่ประเด็นระหว่างจีนกับอาเซียนในภาพรวม ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะต้องแก้ไขหรือเจรจาระหว่างคู่กรณีโดยตรง พวกเราทั้ง 4 ประเทศ (จีน กัมพูชา ลาว และบรูไน) ไม่เห็นด้วยกับที่ประเทศใดจะพยายามบังคับให้อีกประเทศหนึ่งทำตามวาระของตน เราทั้งหลายเคารพในสิทธิอันชอบธรรมของรัฐอธิปไตยที่จะเลือกแก้ไขข้อพิพาทภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

ผมว่าแถลงการณ์ที่เวียงจันทน์ครั้งนี้ ทำให้อาเซียนเริ่มแตก อาเซียนมีสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ เราทั้ง 10 ประเทศเคยแถลงเพื่อยืนยันจุดยืนว่า แม้ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้จะเป็นการเจรจาระหว่างคู่กรณี (เช่น จีนกับเวียดนาม หรือจีนกับฟิลิปปินส์) แต่อาเซียนกับจีนก็จะต้องมีกลไกการป้องกันปัญหาและแก้ไขข้อพิพาทร่วมกัน

จีนดิ้นเรื่องอธิปไตยเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ จีนแย่งเกาะพวกนี้กับเวียดนามและฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศเล็กชาติน้อยด้อยกำลังกว่าตนเยอะ จะพิจารณาด้านไหนก็สู้จีนไม่ได้ ทั้งสองประเทศจึงจำเป็นจะต้องไปลากอเมริกาเข้ามายุ่ง ถึงขนาดอเมริกาเคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะปกป้องฟิลิปปินส์ด้วยอาวุธนิวเคลียร์

ที่อเมริกาสัญญากับฟิลิปปินส์นี่ก็เป็นปัญหานะครับ เพราะประชาคมอาเซียนมีสนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ห้ามชาติภาคีเกี่ยวข้องโดยตรงหรือทางอ้อมกับอาวุธนิวเคลียร์ทั้งในประเทศและนอกประเทศของตน

อเมริกาก็ดิ้นที่จะหยุดยั้งจีนให้ได้ พยายามแม้กระทั่งไปยุฟิลิปปินส์ให้ไปร้องกับศาลโลก จนอีกไม่นานนี้แหละครับ ก็จะมีคำวินิจฉัยจากอนุญาโตตุลาการที่กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ เรื่องการตีความในข้อกล่าวอ้างของจีนเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้

รมว.ต่างประเทศจีนไปพบนางซูจี ซึ่งเป็นที่ปรึกษาแห่งรัฐและ รมว.ต่างประเทศเมียนมา แต่ตอนที่ออกมาแสดงฉันทามติ กลับมีแต่จีน บรูไน กัมพูชา และลาว

อ้าว แล้วเมียนมาหายไปไหน?

ผมว่าเมียนมาที่บริหารประเทศโดยรัฐบาลพลเรือนในปัจจุบัน คงไม่ต้องการทำอะไรเลอะเทอะเปรอะปะ เมียนมาจึงหนีเรื่องฉันทามติอันแสนแปลกแหวกแนวนี้

ถ้าอนุญาโตตุลาการที่กรุงเฮกตีความเรื่องกรรมสิทธิ์บนหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ไม่เป็นไปตามที่จีนต้องการ ผมคิดว่าจีนอาจจะดื้อตาใสและอาจจะถูไถโดยยกเรื่องฉันทามติจีนและอาเซียนอีก 3 ประเทศเอาออกมาอ้างข้างๆคูๆก็เป็นไปได้

การเมืองระหว่างประเทศในขณะนี้เล่นกันแรงขึ้น รัฐบาลของประเทศไหนเลือกข้างผิด ก็มีโอกาสที่จะพาชาติและประชาชนตกเหว ผู้เล่นได้ใจประชาคมโลกในปัจจุบันก็คือรัฐบาลของเมียนมา เมียนมาเลือกไม่เข้าข้างใคร ไม่อยู่ฝ่ายไหน เมียนมาคบค้าสมาคมกับทุกชาติอย่างมีสติ สถานะของประเทศที่เคยตกต่ำก็กลับสูงเด่นขึ้นทุกวัน

มีเพียงสิ่งเดียวที่ผมโกรธเมียนมาอยู่ในตอนนี้ก็คือ บทความในหนังสือพิมพ์ Myanmar Times ฉบับวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2559 ซึ่งมีการขึ้นหัวเสียใหญ่โตว่า “Lessons from a dictatorial neighbour”

แปลเป็นไทยก็น่าจะได้ความว่า

“บทเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นเผด็จการ”

หนังสือพิมพ์เมียนมาโจมตีว่าไทยเป็นประเทศเผด็จการ

คนเขียนอาจจะลืมไป ว่าประเทศของตนก็เป็นเผด็จการอยู่ตั้งนานหลายสิบปี เป็นเผด็จการจนลูกหลานอดอยากปากแห้ง ไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน จนต้องเดินทางมาทำงานในบ้านเรา

ที่เมียนมาดูหมิ่นถิ่นแคลนไทยว่าเป็นเผด็จการนี่

ผมรับไม่ได้นะครับ

เรื่องนี้ต้องถึงครูอังคณาแน่นอน.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

Leave a comment