เพราะเห็นคุณค่าของการนำพลังงานสีเขียวมาใช้ในการประกอบธุรกิจ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดปัญหาโลกร้อน อันเป็นปัญหาหลักที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ จึงทำให้ สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด และประธานกรรมการพลังงานและพลังงานทดแทน หอการค้าไทย เปิดอาณาจักรพันล้าน โรงงานศรีไทยฯ ที่ซอยสุขสวัสดิ์ เล่าถึงการรับมือภาวะโลกร้อนที่กำลังคืบคลานเข้ามากระทบวิถีชีวิตของคนทั้งโลก

เจ้าสัวสนั่น เริ่มเล่าถึงที่มาของโรงงานประหยัดพลังงานของศรีไทยฯ ว่า “เหตุผลที่โรงงานศรีไทยฯ ได้มีการรณรงค์เรื่องการใช้พลังงานทดแทนนั้น เกิดมาจากปัจจัยหลัก 2 ข้อ คือ ต้องการลดต้นทุนการผลิตในสภาวะที่ภาคอุตสาหกรรมมีการแข่งขันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องหาทางที่จะลดต้นทุนการผลิต ใช้พลังงานในปริมาณที่น้อยลงแต่ได้ผลผลิตมากขึ้น และทุกวันนี้อุณหภูมิของโลก มีความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแปรปรวน มีความร้อนสูงขึ้น ดังนั้น การลุกขึ้นมาปลุกกระแสการทำโรงงานสีเขียว จึงเกิดขึ้นเพื่อลดการปล่อยของเสียให้เป็นศูนย์ หาวิธีลดขั้นตอนการผลิต ให้เกิดของเสียให้น้อยที่สุด”

ขณะเดียวกันเมื่อรู้ว่ามีของเสียที่เหลือทิ้งเป็นจำนวนมากจากกระบวนการผลิต ทางทีมผู้บริหารและนักออกแบบของบริษัทศรีไทยฯ ทุกคนก็ได้ระดมมันสมองคิดว่าจะสามารถนำของเสียเหลือทิ้งมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร และสุดท้ายก็ตกผลึกออกมาได้เป็นผลิตภัณฑ์ 2 แบบด้วยกันคือ “เอนเนอร์จี้ เซฟวิ่ง ซัพไพล์ เชน”(Energy Supply Chain) ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันอย่างลงตัวระหว่าง ผู้ผลิต วัตถุดิบและลูกค้า ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผลิตภัณฑ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อัพ ไซเคิล” (UP CYCLE) ซึ่งเป็นการนำเอาของที่เหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตมาฟื้นคืนชีพทำใหม่นอกจากจะเป็นการลดปริมาณของเสียอย่างชัดเจนแล้วยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

สินค้าประเภท “เอนเนอร์จี้ เซฟวิ่ง ซัพไพล์ เชน” Energy Supply Chain ที่ได้คิดค้นออกมาสู่ตลาดโลกในปัจจุบันนี้ คือ ชุดถ้วยชาม “หมิง หยวน” ที่ได้รับการออกแบบขึ้นมา 1 ชุด ให้มีชามในขนาดต่างกัน 5 ใบ สามารถพับเก็บได้สะดวกในยามขนส่ง ทำให้ใช้พื้นที่ในการขนส่งน้อยลง ช่วยเพิ่มปริมาณจำนวนสินค้าในการขนส่งได้มากขึ้น ด้วยดีไซน์ที่เรียบเก๋สามารถเก็บรวมกันได้ในชิ้นเดียว

ส่วนสินค้าในกลุ่ม “อัพ ไซเคิล” (UP CYCLE) เจ้าสัวสนั่น บอกว่า กว่าจะได้สินค้ากลุ่มนี้มาผลิตขายทันในสปริง/ซัมเมอร์นี้ ทางทีมผู้ผลิตผู้ออกแบบต้องผ่านการลองผิดลองถูกมาถึง 1 ปีเต็ม มีคราบน้ำตาและความผิดหวัง
มาหลายครั้ง แต่ด้วยจิตตั้งมั่นที่อยากจะเป็นหนึ่งในฟันเฟืองเล็กๆ ในการเป็นส่วนหนึ่งในการรับผิดชอบต่อสังคมและโลกใบนี้ให้คงความสวยงามต่อไป ทุกอย่างจึงผ่านไปได้ด้วยดี

“ตอนนี้บริษัทได้ส่งชุด ผลิตภัณฑ์จานชามถ้วยช้อนที่ทำจากเยื่อไผ่ ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่ม อัพ รีไซเคิลส่งออกไปขายที่ EU แล้วกว่า 60% ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้นำเยื่อไผ่ที่เหลือจากการทำตะเกียบ หรือเยื่อไผ่ที่เหลือจากการทำมูลี่มาผสมกับเมลามีน แต่กว่าจะได้เยื่อไผ่ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เราก็ต้องลองเรื่อยมา บางครั้งไผ่มีความสกปรก ทำแล้วหน้าตาไม่สวย ก็ต้องเปลี่ยนเยื่อไผ่ และสุดท้ายก็มาลงตัวที่การใช้เยื่อไผ่ประมาณ 30% มาผสมกับเมลามีนแล้วผลิตเป็นถ้วยชามแบบที่เห็น ชามเยื่อไผ่นี้ มีประสิทธิภาพในการทนความร้อน และตกไม่แตกเหมือนเมลามีนทั่วๆ ไป ที่สำคัญเป็นการลดการใช้สารเคมีอย่างได้ผล และสินค้าอีกชิ้นที่ผลิตขึ้นมาเพื่อลดปัญหามลภาวะโลกร้อน ก็คือ ชามลดโลกร้อน ที่ได้นำเศษกระดาษที่เหลือจากการตัดทิ้งในกระบวนการผลิตถ้วยชามเมลามีนมาผสมและหลอมรวมกันใหม่จนได้ชามลดโลกร้อนขึ้นมา

ไม่เพียงเท่านั้นยังได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา เอาเศษเมลามีนที่เหลือใช้จากการผลิต มาแปรรูปผสมกับปูนซีเมนต์แล้วทำเป็นอิฐมวลเบาเมลามีน ซึ่งได้ทำการจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจากการที่บริษัทศรีไทยฯ ได้ทุ่มเทกำลังคิดค้นนวัตกรรมเดินหน้าสร้างโรงงานสีเขียวปลอดมลพิษเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมานานกว่า 15 ปีนั้นส่งผลให้เมื่อปีที่แล้ว โรงงานในเครือของบริษัททั้ง 4 โรงงานสามารถลดต้นทุนการผลิตได้มากถึง 35 ล้านบาทต่อปี อันนำไปสู่การลดต้นทุนได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง

เพื่อต่อยอดและให้เกิดอุตสาหกรรมสีเขียวอย่างมั่นคงถาวรในประเทศไทย เจ้าสัวสนั่น แห่งศรีไทยฯในฐานะประธานกรรมการพลังงานและพลังงานทดแทน หอการค้าไทย ได้ร่วมมือกับ บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จัดงานสัมมนา “Energy Talk” ภายในงาน Renewable Energy Asia 2016 ซึ่งจัดภายใต้งาน ASEAN Sustainable Energy Week 2016 ภายใต้ คอนเซ็ปต์ “รู้คิด รู้ทำ และรู้นำ” ซึ่งจะเน้นเรื่องความมั่นคงของพลังงาน โดยจะมีผู้นำระดับ CEO ขององค์กรชั้นนำ มาแบ่งปันประสบการณ์จริงที่ได้จากการประหยัดพลังงานในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เห็นภาพของการบริหารจัดการที่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ภายในงานยังมีอีกหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนตลอดจนผู้ประกอบการด้านพลังงานทดแทนชั้นนำจากทั่วโลก ที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานมาโชว์อย่างครบวงจร ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 1-4 มิถุนายนนี้

เจ้าสัวสนั่น การันตีว่างานนี้ผู้บริหารภาคธุรกิจอุตสาหกรรม ไม่ควรพลาด เพราะจะทำให้คุณได้ไอเดียเด็ดๆ เทคโนโลยีสีเขียวล้ำ กลับไปธุรกิจของตัวเองอย่างแน่นอน