28 เม.ย. 59 จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูของผลไม้ในจังหวัดระยอง ไม่ว่าจะเป็น เงาะ ทุเรียน และมังคุด อากาศร้อนได้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ เริ่มจากชาวสวนต้องเร่งให้น้ำมากกว่าปกติ แม้ว่าจะมีน้ำเพียงพอ แต่ก็ต้องรู้จักใช้ในระบบหมุนเวียน ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อ ต้องเวียนหาผลไม้จากชาวสวนที่มีผลผลิตออกมาน้อยมาก สุดท้ายคือผู้บริโภค ที่ต้องซื้อผลไม้ในราคาแพง

นายชนาธิป แสวงสวัสดิ์ อายุ 51 ปี พ่อค้าขายทุเรียน ในตลาดตะพง บอกว่า ราคา ทุเรียน ขณะนี้ ถือว่าแพงมากกว่า ปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะอากาศร้อน ทำให้ ทุเรียน ออกมาน้อยมาก และยิ่งเป็นห่วงมากขึ้น เพราะอีกไม่นานทุเรียน รุ่นต่อไปก็จะออกสู่ตลาด ซึ่งอาจจะมีบางสวนที่ประสบปัญหาขาดน้ำ ทำให้พ่อค้าแม่ค้า ต้องระมัดระวังในการเลือกซื้อทุเรียน เพราะทุเรียนขาดน้ำต้องสังเกตจากการดูที่ขั้ว หากไม่ตรวจดูทุกลูก ก็จะได้ทุเรียนไม่มีคุณภาพมาจำหน่าย

เช่นเดียวกับ นางวิลาวัลย์ ไกรเดช อายุ 39 ปี ชาวสวนผลไม้ตำบลตะพง กล่าวว่า มังคุดที่สวนในปีนี้ ก็ประสบปัญหา จากสภาพอากาศร้อนจัด จนไม่ค่อยมีออกตามฤดูกาล ราคาที่จำหน่ายในท้องตลาด จึงมีราคาสูงกว่า ปีก่อน ราคาส่ง อยู่ที่ กก.ละ 95บาท ราคาปลีกที่ขายในตลาดจึงแพงถึงกิโลกรัมละ กว่าร้อยบาท ตกลูกละกว่า 10 บาท ทีเดียว ซึ่งช่วงนี้ถ้าชาวสวนไม่ยอมให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ และเพียงพอจนถึงรากมังคุดแล้ว มังคุดจะมีขั้วเหี่ยว และลูกอ่อนอาจจะหล่นจนหมดต้นได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าราคาผลไม้ ในตลาดขายผลไม้ของระยอง หลายแห่ง มีราคา ไม่ทิ้งกัน โดยทุเรียน พันธ์ก้านยาว กก.ละ 250 บาท หมอนทอง และพวงมณี ราคา กก.ละ 120 บาท ชะนี กก.ละ 90 บาท มังคุด กก.ละ 120 บาท เงาะสีชมพู กก.ละ 60 บาท เงาะโรงเรียน กก.ละ 100บาท