เมื่อพูดถึงการพัฒนาสังคม สิ่งหนึ่งที่ทุกคนคิดถึงเป็นอันดับต้นๆ ในด้านการพัฒนาสังคม คือ สิ่งแวดล้อม สาธารณูปโภคและการศึกษา เรียงลำดับกันมา แต่สิ่งสำคัญที่เรา หรือใครหลายๆ คน หลงลืมกันไป คือ“การพัฒนาคน” ซึ่งอันที่จริงแล้วการพัฒนาคนให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ เพื่อเป็นกำลังสำคัญต่อไปในการพัฒนาประเทศ นั้น ควรเริ่มต้นตั้งแต่ เด็ก แต่ปัจจุบันการศึกษาในประเทศไทยยังไม่สามารถครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศไทยได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ดังเช่น ที่เราทราบข่าวกันดี เด็กหรือเยาวชนที่อยู่ตามที่ทุรกันดาร หรือห่างไกลจากความเจริญ มักประสบปัญหาขาดแคลน ทางการศึกษาขาดสื่อ การเรียนการสอนที่ดี หรือสภาพแวดล้อมในการเรียนก็ตาม

ศกร.ตชด.บ้านหลังอ้ายหมี ต.วังอ่าง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เป็นศูนย์การเรียนรู้ขนาดเล็กภายในหมู่บ้าน เปิดสอน
ตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 54 คน อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 เป็นอีกหนึ่งที่ความทุรกันดารและห่างไกลจากความเจริญ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เด็กๆ ในแถบหมู่บ้านหลังอ้ายหมี จำนวน 65 ครัวเรือน 275 คน เชื้อชาติไทย ขาดแคลนทางด้านการศึกษา และเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ เข้าท่วมบ้านเรือนและบริเวณอาคารเรียนเสียหายอย่างหนัก นักเรียนและชาวบ้านไม่สามารถอยู่อาศัย หรือเปิดเรียนได้ตามปกติ หลังเหตุการณ์ได้ผ่านพ้นไป ชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างอาคารเรียนไม้ 1 หลัง แบ่งเป็น 3 ห้องเรียนขึ้น เพื่อเป็นสถานที่เรียนชั่วคราวให้แก่เด็กนักเรียน

กลุ่มบริษัทบีทีเอส โดย คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ด้านการศึกษาแก่เด็กๆ ที่อยู่ห่างไกลความเจริญการเรียนที่ดีนั้น ต้องประกอบด้วยหลายปัจจัย ทั้งด้านสภาพแวดล้อม บุคลากรผู้สอน และอุปกรณ์การเรียนต่างๆ เพื่อช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ ได้เล่าเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มบริษัท จึงได้สนับสนุนจัดสร้างอาคารเรียนปูนขึ้นเป็นการถาวร บนที่ราบสูงซึ่งอยู่ห่างจากที่เดิมเพียง 700 เมตร เป็นอาคารเรียน 1 ชั้น ขนาด 6 ห้องเรียน พร้อมทั้งจะจัดสร้างฟาร์มไก่ไข่ จำนวน 100 ตัว เพื่อเป็นอาหารกลางวันให้แก่เด็กนักเรียน และสามารถนำส่วนที่เหลือจากการประกอบอาหารในโรงเรียนไปขาย และนำเงินมาหมุนเวียนในโรงเรียนได้ อีกด้วย โดยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท นำโดย คีรี กาญจนพาสน์ พร้อมคณะผู้บริหารกรรมการกลุ่มบริษัท ประกอบด้วย ดร.อาณัติ อาภาภิร, ศ.เจริญ วรรธนะสิน, รังสิน กฤตลักษณ์ และ มารุตอรรถไกวัลวที เดินทางไป ศกร.ตชด.บ้านหลังอ้ายหมี เพื่อวางศิลาฤกษ์จัดสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ เป็นจำนวนเงินกว่า 1.4 ล้านบาท โดยมี พันตำรวจเอกนิคม พลประสิทธิ์ ผู้กำกับกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ต้อนรับ พร้อมทั้งเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนและชาวบ้านกว่า 200 คน และการแสดงมายากลจักกริ้งคอเมดี้โชว์ จากคณะบ้านมายากลหาดใหญ่ มาสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับเด็กนักเรียนและชาวบ้าน ณ หมู่บ้านหลังอ้ายหมี แห่งนี้

“แม้หนทางจะไกล จะสูงจะชันแค่ไหน ขอแค่รอจะไปให้ได้จะฝ่าจะฟัน ขอทำความฝันเป็นจริง อยากเติมรอยยิ้มสดใส เป็นของขวัญให้เธอ” จากเนื้อเพลง เติมรอยยิ้ม เพลงประจำโครงการ CSR “สถานี ส่งความสุข จากชาว บีทีเอสกรุ๊ปฯ” สถานีที่ 8