ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/217445
น้องๆ นักศึกษาร่วมลงนามเป็นเครือข่ายอย่าให้ใครว่าไทย
มูลนิธิมั่นพัฒนา ร่วมกับ ภาคี จังหวัดสงขลา นำโดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สำนักงานจังหวัดสงขลามูลนิธิบุคคลพอเพียง จ.สงขลา ร่วมขับเคลื่อนโครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย” ในพื้นที่ภาคใต้ จัดงานเสวนาและเวิร์กช็อป “อย่าให้ใครว่าไทย” ตอน “คิดดี…มีตังค์” จัดขึ้นเพื่อให้นักศึกษาและผู้ที่สนใจได้เกิดการเรียนรู้ ตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยมีกิจกรรมหลัก เวิร์กช็อปเรื่อง “การบริหารจัดการการเงิน” ประกอบไปด้วยกระบวนการละลายพฤติกรรม กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการระดมความคิด โดยตัวแทนจากเครือข่ายอนาคตไทยและศิลปินดารามากมาย ณ ห้องประชุมใหญ่ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ โดยมี นักศึกษารวมไปถึงเครือข่ายภาคประชาชนและภาคประชาสังคมใน จ.สงขลา ร่วมงาน
วรรณวิมล ศุภประเสริฐ เลขาธิการมูลนิธิมั่นพัฒนา กล่าวว่า โครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย” เป็นโครงการที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุกให้คนบางกลุ่มในชาติ ปรับเปลี่ยนทัศนคติ ลดเลิกพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ สร้างจิตสำนึกและวินัยอันจะเป็นพื้นฐานที่ทำให้ประเทศพัฒนาต่อไป โดยมุ่งเสริมทัศนคติและพฤติกรรมเชิงบวกใน 4 มิติคือ การเงิน สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมในสังคมไทย โดยแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกหรือนโยบายที่ทางเครือข่ายอนาคตไทยได้ดำเนินการในขณะนี้ คือการขับเคลื่อนโครงการให้ครอบคลุมสู่ระดับภูมิภาคเพื่อการขยายผลไปสู่กลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน และนักศึกษา
ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป ซึ่งสงขลาเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ การจัดกิจกรรมเสวนาและเวิร์กช็อป “อย่าให้ใครว่าไทย” ตอน “คิดดี…มีตังค์” ในวันนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนโครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย” ในระดับภูมิภาค ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือระหว่าง จ.สงขลา กับเครือข่ายอนาคตไทย และภายหลังจากนี้ ทางเครือข่ายอนาคตไทยจะได้ปรึกษากับ จ.สงขลา ถึงแนวทางในการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในเครือข่ายอนาคตไทยต่อไป

ตัวแทนภาคีเครือข่าย ชูศิริ คัยนันทน์, รติรส กาญจนธาน, บันลือเดช ทองนุ้ย, วรรณวิมล ศุภประเสริฐ, รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล, ผศ.สุพจน์ โกวิทยา และ จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีนโยบายปลูกฝังให้บัณฑิตมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์เพื่อจะไปเป็นพลเมืองของโลกที่ดี เรามีโครงการทุนทำงานแลกเปลี่ยน พร้อมปลูกฝังเรื่องของการประหยัดมีการทำผักสวนครัวเพื่อรับประทานเองแทนการซื้อเน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมีการเรียนรู้และปรับใช้แนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ในชีวิตประจำวัน
ซึ่งเรามั่นใจว่า มหาวิทยาลัยจะสามารถสนับสนุน โครงการ “อย่าให้ใครว่าไทย” ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน โดยเป้าหมายเบื้องต้นจะมุ่งเน้นในเรื่องการปลุกจิตสำนึกในด้าน “อย่าให้ใครว่าไทยฟุ้งเฟ้อ” โดยมุ่งเน้นไปที่เยาวชนและนักศึกษาไม่ให้หลงกับวัตถุนิยมจนเกินไป จนทำให้รายได้ไม่พอรายจ่ายและไม่มีการออม ใช้เงินเกินตัว พร้อมเตรียมแผนในอนาคตที่จะบรรจุเรื่องการบริหารจัดการเงินนี้ในหลักสูตรการศึกษาด้วย
บันลือเดช ทองนุ้ย หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด สำนักงานจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “จังหวัดสงขลาต้องการจะตอบสนองนโยบายที่รัฐบาลมุ่งเน้นด้านการพัฒนาคนซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของเครือข่ายอนาคตไทยที่มุ่งให้คนไทยทั้งประเทศได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 4 พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ โกง ฟุ้งเฟ้อ มักง่าย และขาดสติ ซึ่งหลังจากนี้จังหวัดสงขลา จะจัดประชุมเพื่อหารือในการสร้างแนวร่วมเครือข่ายจากองค์กรในทุกภาคส่วนที่จะร่วมกันพัฒนาจังหวัดสงขลา รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนที่สอดคล้องกับทุนเดิมที่มีอยู่ในจังหวัด อาทิ โครงการโรงเรียนต้นแบบปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง, หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง, โรงเรียนเกษตรอาหารกลางวันฯ เป็นต้น และที่สำคัญต้องเหมาะสมกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในจังหวัดสงขลา เพื่อร่วมสร้างความมั่นคงและยั่งยืนของประเทศต่อไป”

กฤตฎ์ อมรชัยฤกษ์, หนูเล็ก-ภัทรวดี ปิ่นทอง, เสนาลิง-สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ และ ตี๋-วิวิศน์ บวรกีรติขจร
ภายในงานเสวนาและเวิร์กช็อป “อย่าให้ใครว่าไทย” ตอน “คิดดี…มีตังค์” มีตัวแทนจากเครือข่ายอนาคตไทยมาร่วมให้ความรู้ เสนาลิง-สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์, กฤตฎ์ อมรชัยฤกษ์ และ ตี๋ AF-วิวิศน์ บวรกีรติขจร พร้อมดาราตลกหญิง หนูเล็ก ก่าก๊า-ภัทรวดี ปิ่นทอง ซึ่งเป็นคนจังหวัดสงขลา มาร่วมถ่ายทอดแรงบันดาลใจและแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับหลักคิด การบริหารจัดการการเงิน รวมถึงการออมและหารายได้เสริม เพื่อกระตุ้นความคิดน้องๆ นักศึกษาและผู้ที่ร่วมงานให้ได้เห็นมุมมอง และวิธีคิดที่หลากหลาย ที่สามารถนำไปใช้ในเรื่องการเงินให้เกิดประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน