1 มิ.ย.59 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าจาการติดตามสภาวะฝนในช่วงนี้แม้มีฝนตกกระจายไปทั้งประเทศ แต่ที่เป็นห่วงปริมาณน้ำเขื่อนภูมิพลยังอยู่ระดับวิกฤติ มีปริมาณน้ำใช้การได้เพียง 214 ล้านลบ.ม คิดเป็นร้อยละ 2 ซึ่งในขณะนี้ มีน้ำไหลเข้าน้อยมาก จึงได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ย้ายฐานปฏิบัติการฝนหลวงจากจ.พิษณุโลก มาไว้จ.ตาก ทั้งหมด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อให้ความสำคัญเติมน้ำเขื่อนภูมิพลเป็นเป้าหมายอันดับแรก ส่วนเขื่อนอื่น ๆ ทั่วประเทศเริ่มมีน้ำเข้า รวม 400 ล้านลบ.ม. โดยคาดว่าในช่วงนี้เริ่มมีฝนตกภาคเหนืออาจได้น้ำมากขึ้นจากการทำฝนหลวงด้วย

รมว.เกษตรฯ กล่าวว่าสำหรับน้ำอุปโภคบริโภครับประกันว่ามีใช้ถึงเดือนก.ค. แน่นอน แต่ที่เป็นห่วงน้ำในเขื่อนภูมิพล มีปริมาณการกักเก็บระดับต่ำมากอาจมีปัญหาไปถึงปีหน้า ขณะนี้ยอมรับว่าการแก้ไขจริง ๆ ก็ต้องรอฝนอย่างเดียว และการทำฝนหลวง เพราะไม่สามารถดึงน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน ต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างค่อนข้างนาน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดนี้ได้เตรียมวางแผนนำน้ำจากแม่น้ำนานาชาติมาใช้แล้วเช่นแม่น้ำโขง แม่น้ำสาละวินจากแต่เดิมไม่เคยมีแผนชัดเจน

ในขณะเดียวกันตนได้เร่งรัดให้ทุกหน่วยวางแผนการเพาะปลูกข้าวนาปีรอบแรกให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ปริมาณน้ำ หรือโซนนิ่ง หากพื้นที่ใดไม่มีน้ำ ปรับเปลี่ยนปลูกพืชน้ำน้อย พืชบำรุงดิน หรือปลูกพืชอื่นตามความต้องการตลาด และส่งเจ้าหน้าที่ลงไปทุกชุมชนสร้างการเรียนรู้ให้เกษตรกรเข้าใจโดยผ่านศูนย์เรียนรู้เพื่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตร 882 ศูนย์ สิ่งสำคัญคือลดต้นทุนการผลิตให้ได้ ทำเกษตรแปลงใหญ่ ภาคเกษตรจึงจะอยู่รอด ซึ่งในข่วงนี้ให้ใช้น้ำฝนเป็นหลัก เพื่อให้เขื่อนได้กักเก็บน้ำมากกว่านี้ ส่วนพื้นที่นอกเขตชลประทานถ้าเป็นพื้นที่มีน้ำลุ่มต่ำลงมือทำนาได้ ส่วนพื้นที่ดอนให้ รอไปเดือน ก.ค.

“แผนเพาะปลูกข้าวปีนี้เริ่มนำเข้าพื้นที่ทั้งหมดพร้อมแผนบริหารจัดการน้ำ ประกอบกับช่วงต้นปีได้จัดเตรียมขุดลอก ขุดสระ เป็นพื้นที่แหล่งรับน้ำไว้มาก แค่รอน้ำฝน ถ้าฝนมาปกติอย่างนี้เชื่อว่าปี 60 จะมีน้ำมากกว่าปีนี้มากมาย เพราะผมได้มีกระบวนการปลูกพืช และแหล่งน้ำ ไว้พร้อมแล้วมั่นใจว่าเกษตรกรจะสบายขึ้นกว่า3ปีที่ผ่านมา”รมว.เกษตรฯ กล่าว

ด้านนายเลอศักดิ์ ริ้วตระกลูไพบูลย์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกล่าวว่า ได้นำเครื่องบินทำฝนหลวง และเครื่องบินกาซ่า รวม 11 ลำย้ายฐานจากจ.พิษณุโลกไปจ.ตาก  เริ่มปฏิบัติการทำฝนหลวงเติมเขื่อนภูมิพลตั้งแต่วันนี้ ส่วนปัญหาน้ำไม่ไหลงเขื่อนเลย แต่วันนี้มีน้ำไหลลง 7 แสนลบ.ม คาดว่าร่องอธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพาดผ่านทำให้การปฏิบัติการได้ผลมีน้ำฝนไหลลงเขื่อนมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีน้ำไหลลงอ่างขนาดใหญ่ 400 ล้านลบ.ม. เป็นน้ำฝน 180 ล้านลบ.ม. จากการทำฝนหลวง ตั้งแต่เดือน ก.พ.จนถึงปัจจุบัน ซี่งมีแนวโน้มสภาพอากาศในสองสัปดาห์ข้างหน้า จะปรับย้ายฐานฝนหลวง จ.อุดรธานี ไป จ.อุบลราชธานี และจากจ.จันทรบุรี ไปจ.สระแก้ว ช่วงฝนทิ้งช่วงปลายเดือนมิ.ย.ถึงกลางเดือนก.ค.เพื่อช่วยพื้นที่เกษตร