แตกใบอ่อน : แก้ปัญหาขยะต้องเอาจริง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/218648

807934531

วันพฤหัสบดี ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ปลายสัปดาห์ที่แล้ว ได้ยิน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พูดถึงเรื่องปัญหา “ขยะล้นเมือง” ที่รัฐบาลและคสช.สู้อุตส่าห์ประกาศเป็น “วาระแห่งชาติ” และกำหนดเป็นนโยบายสำคัญในลำดับต้นๆ ที่จะต้องดำเนินการแก้ไขให้อยู่หมัดตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศเมื่อปี 2557

ประเด็นสำคัญที่พอจะจับได้จากคำพูดของนายกฯ อย่างแรกก็คือ การแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยของเราในรอบ 2 ปีที่ผ่านมายังไม่ได้ผลมากเท่าที่ควร จึงต้องมอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปจัดทำ “แผนปฏิบัติการประเทศไทยไร้ขยะ” เพื่อเปิดแคมเปญรณรงค์สร้างความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น โรงเรียน ศาสนสถาน และภาคประชาชน ให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาโดยใช้หลัก 3 R คือ Reduce หรือ การลดการใช้หรือบริโภคทรัพยากรที่ไม่จำเป็นลง ลดการก่อให้เกิดขยะ Reuse หรือ การใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด โดยการนำสิ่งของเครื่องใช้ มาใช้ซ้ำ และ Recycle หรือ การแปรรูปขยะหรือสิ่งของที่ใช้ประโยชน์ในรูปแบบเดิมไม่ได้ เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่

นายกฯบอกว่า จะวางกรอบการทำงานในเรื่องนี้ 1 ปี ตั้งเป้าลดปริมาณการเกิดขยะมูลฝอยในภาพรวมของประเทศลงร้อยละ 5 จากอัตราเฉลี่ยการเกิดขยะมูลฝอยของประเทศ หรือลดลง 2 ล้านตันต่อปีให้เหลือประมาณ 23 ล้านตันต่อปี

อีกประเด็นหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึง คือ การเร่งรัดกระบวนการยกร่าง“พ.ร.บ.ขยะ” ซึ่งถ้าผมเข้าใจไม่ผิด น่าจะหมายถึง “ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการขยะแห่งชาติ พ.ศ. ….” ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังดำเนินการอยู่ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อมาอุดช่องว่างการทำงานของหน่วยงานรัฐและท้องถิ่นในเรื่องบริหารจัดการขยะ เนื่องจากที่ผ่านมาระบบการบริหารจัดการขยะของเราไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ขณะที่การดูแลรับผิดชอบก็แตกกระสานซ่านเซ็นไปอยู่ที่หน่วยงานนั้น หน่วยงานนี้คนละท่อน คนละส่วน ทำให้การบริหารจัดการขยะไม่เคยมีเอกภาพ

นอกจากนี้ยังประเด็นที่ผมมองว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่นายกฯพูดถึง ก็คือเรื่อง “จิตสำนึก” และ “ความร่วมมือ” จากคนไทยทุกคน โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง อันไหนควรคัดแยกไปอยู่กับขยะประเภทไหน อันไหนควรนำกลับมาใช้ใหม่ หรือแม้กระทั่งจะต้องลดพฤติกรรมที่ทำให้เกิดขยะกันอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนจะต้องเริ่มเรียนรู้เพื่อลดปริมาณขยะที่จะออกไปสู่ชุมชน

ขอยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า พอได้ยินนายกฯพูดถึงปัญหาขยะออกมาแบบนี้ก็ให้รู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหนึ่ง เพราะอย่างน้อยก็เป็นการแสดงออกให้เห็นว่า คนที่มีอำนาจควบคุมในระดับนโยบายอย่างนายกรัฐมนตรียังคงไม่ทิ้งปัญหาเรื่องนี้

แต่สิ่งที่อยากจะฝากเอาไว้ก็คือ หน่วยงานที่จะต้องเป็น “แกนหลัก” ในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องเอาจริงเอาจังมากกว่านี้

มันก็เหมือนที่นายกฯพูดไว้นั่นล่ะครับว่า 2 ปีที่ผ่านมาการแก้ปัญหาของเรายังไม่ได้ผลมากเท่าที่ควร ซึ่งโดยส่วนตัวผมก็มองว่าจริง และตัวผมเองก็รู้สึกผิดหวังกับการขับเคลื่อนโรดแมปการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายของหน่วยงานต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาอยู่มาก

เมื่อ 2 ปีที่แล้วกองขยะเคยอยู่ที่ไหน การบริหารจัดการขยะของท้องถิ่นเคยห่วยยังไง ปัจจุบันก็ยังคงห่วยอยู่อย่างนั้น ขณะที่คนไทยเคยมักง่ายเรื่องการทิ้งขยะแบบไหน ทุกวันนี้มันก็ยังคงอยู่แบบนั้น

ปัญหาขยะต้องเอาจริงครับ อยากจะรณรงค์แบบไหน สร้างวินัยกันยังไง ก็ต้องทำแบบมีแผนการ อย่างมีทิศทาง ทำกันอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น

จะมามัวแต่จัดอีเว้นท์โหมกระแสไปวันๆ เหมือนอย่างที่ผ่านมา มันไม่ได้ผลหรอกครับ

เสียเวลาเปล่า

มะลิลา

Leave a comment