ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/222327
วนเวียนอยู่ในสายเทคโนโลยี ดิจิตอล ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับด้านพัฒนาการศึกษาได้เลย จนกระทั่งมาเป็น “คุณพ่อมือหนึ่ง” ของลูกหญิงชาย ที่อยู่ในวัยเรียนรู้ จึงทำให้ สร้างบุญ แสงมณี มองหาสิ่งที่จะมาช่วยให้ลูกรักทั้งสองเติบโตขึ้นมาในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันได้อย่างมีคุณภาพจนได้รู้จักกับ “Bricks 4 Kidz” สถาบันพัฒนาทักษะเด็กวัย 1-13 ปี จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขามองว่าสิ่งนี้แหละที่เด็กๆ วัยนี้ควรได้รับ
สร้างบุญ อธิบายว่า Bricks 4 Kidz เป็นหลักสูตรการเรียนรู้แบบ Edutainment จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เน้นส่งเสริมพัฒนาการเด็กทั้งทางร่างกาย สมอง และทักษะทางสังคมควบคู่กันไป โดยใช้การเรียนรู้ผ่านการเล่นต่อตัวต่อเลโก้ ในหัวข้อการเรียนรู้ต่างๆ ที่เด็กสนใจ เช่น จักรวาล สิ่งก่อสร้าง และสวนสนุก เป็นต้น โดยชิ้นงานต้นแบบหรือ Model Plan ที่นำมาให้เด็กๆ ต่อนั้น ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยวิศวกร สถาปนิกและนักการศึกษา เพื่อให้เด็กๆ ได้รับความสนุกและความรู้ ฝึกทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ การทำงานเป็นทีม ช่วยให้การต่อเลโก้เป็นการเล่นเพื่อการเรียนรู้อย่างแท้จริง
“Bricks 4 Kidz เป็นหลักสูตรที่พัฒนาคิดตามแนวคิด STEM Education ก็คือ Science วิทยาศาสตร์, Technology เทคโนโลยี, Engineering วิศวกรรมศาสตร์ และ Mathematics คณิตศาสตร์ ซึ่งบ้านเรารู้จักคำนี้กันมาไม่นาน แต่ในต่างประเทศใช้แนวคิด STEM Education มาพัฒนาหลักสูตรการศึกษากันมานานแล้ว และ Bricks 4 Kidz ก็ได้นำมาใช้เช่นกัน แต่หลักสูตรไม่ได้มุ่งเน้นว่าเด็กที่มาเรียนเพื่อให้ได้วิชาการ แต่เราต้องการเสริมทักษะให้เด็กคิดอย่างเป็นระบบและสอดแทรกความรู้ที่เหมาะสมตามช่วงวัยของเขา ผ่านการต่อเลโก้ เช่น การต่อกังหันลม เด็กๆ จะได้เรียนรู้ว่า ต้องใช้เลโก้ขนาดใด จำนวนเท่าไร จึงจะสามารถต่อเป็นกังหันลมได้ เมื่อต่อได้แล้วจะมีการติดมอเตอร์เพื่อให้กังหันลมหมุนได้ เชื่อมต่อการเรียนรู้เรื่องพลังงานลม คำศัพท์ง่ายๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือหากเด็กๆ ไม่สามารถทำให้กังหันลมหมุนได้ ก็จะให้เขาได้ใช้ความคิดในการแก้ไขปัญหา”
หลักสูตรของ Bricks 4 Kidz เป็นหลักสูตรที่เหมาะกับเด็กวัย 1-13 ปี โดยแบ่งเป็นคลาสตามช่วงอายุ เช่น คลาส Parent & Child สำหรับเด็ก 1-3 ปี เน้นการพัฒนาการด้านต่างๆ ทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก กระตุ้นจินตนาการ เน้นการสื่อสารและสายสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อ คุณแม่ และลูกน้อย ผ่านการเรียนรู้เรื่องสี รูปทรง มิติสัมพันธ์ หรือเด็กโตมีคลาส Junior Robotics ให้เด็กๆ ได้สนุกกับการสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมโมเดลเลโก้ พร้อมฝึกจัดระบบความคิดและทักษะการแก้ปัญหา
“ในหลักสูตร Bricks 4 Kidz ไม่มีการวัดผลสำเร็จเหมือนกับการเรียนในโรงเรียนกวดวิชาทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ พ่อแม่คาดหวังคือให้ลูกๆ ได้รับความสนุกสนานและสาระไปพร้อมๆ กัน ซึ่ง 2 ปีกว่าที่ผมนำฟีดแบ๊ก Bricks 4 Kidz เข้ามาเปิด มี 6 สาขา สิ่งที่เราได้รับกลับมาคือ คุณพ่อคุณแม่จะบอกว่าลูกรู้จักที่จะคิดอย่างเป็นระบบ การแก้ไขปัญหา บางคนจะทำอะไรก็มีการวางแผน และส่วนใหญ่ที่มาเรียนก็จะเรียนต่อเนื่อง แสดงว่าหลักสูตรนี้ตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้เขาสามารถประสบความสำเร็จได้ เพราะรู้จักการวางแผนที่จะเดินไปให้ถึงเป้าหมายได้”

ในมุมมองของผู้บริหารสถาบันการเสริมทักษะการเรียนรู้ สร้างบุญ ให้ความเห็นเกี่ยวกับระบบการศึกษาไทยที่น่าสนใจว่า….“ระบบการศึกษาของไทยยังเน้นวิชาการ เด็กต้องไปเรียนกวดวิชาเพื่อสอบแข่งขัน แต่ความเป็นจริงความรู้มันไม่จำเป็นต้องวิชาการตลอดเวลา มันสามารถเก็บเกี่ยวได้จากสิ่งรอบๆ ตัว ยกตัวอย่าง ผมเคยไปเที่ยวสเปนมีสถาปัตยกรรมชื่อ ซากราดาฟามีเลีย (Temple Expiatori de la Sagrada Família) เป็นสถาปัตยกรรมประจำเมืองบาร์เซโลนา ออกแบบโดย อันตอนี เกาดี สถาปนิกชาวคาตาลัน เป็นผลงานที่เกาดีออกแบบโดยใช้แรงบันดาลใจจากต้นไม้ เพราะในช่วงวัยเด็กเกาดีมีปัญหาสุขภาพ จึงไม่ได้ไปโรงเรียน แต่ใช้ชีวิตอยู่กับต้นไม้ในสวน แต่เขาก็สามารถออกแบบงานศิลปะที่ใช้หลักการยืนต้นของต้นไม้ออกมาได้อย่างสวยงาม นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากให้เด็กๆ มีการเรียนรู้จากการสังเกต เรียนรู้โดยการทดลองลงมือทำ ไม่ใช่การเรียนแต่วิชาการตำรา แต่เมื่อถึงเวลาไม่สามารถคิดที่จะนำไปปรับใช้ได้”
ดังนั้นในฐานะคุณพ่อที่มีลูกสาววัย 8 ขวบ และลูกชาย 6 ขวบ สร้างบุญ จึงพยายามที่จะปลูกฝังให้ลูกๆ “คิดอย่างเป็นระบบ” และไม่เลี้ยงลูกแบบประคบประหงมจนเกินไป
“ผมพยายามบาลานซ์ในการเลี้ยงลูก ถ้าลูกอยากได้สิ่งของสักอย่าง เราจะมีข้อกำหนด เช่น ให้เขาทำงานง่ายๆ สะสมแต้ม เพื่อแลกกับของที่เขาอยากได้ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ผมจะสอนลูกให้รู้จักวิธีหาเงิน มากกว่าวิธีใช้เงิน ให้เขาคิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้เงินมาซื้อของในสิ่งที่ตัวเองต้องการ อย่างลูกชายคนเล็ก เขาชอบเลี้ยงต้นกระบองเพชร ผมก็ให้ไอเดียว่า เราจะสามารถสร้างรายได้จากกระบองเพชรที่มีอยู่อย่างไร เขาก็ไปหาข้อมูลว่าจะตัดต่อกิ่งกระบองเพชรอย่างไร ให้มีรูปทรงแปลกๆ หรือมีดอกสีสวยๆ ที่จะเพิ่มจำนวนเพื่อนำไปขาย หรือเมื่อไม่กี่วัน ก็ให้ลูกสาวลองตั้งโต๊ะขายขนมอยู่หน้าบ้าน ก็ขายไม่ได้หรอก บ่นร้อน ผมก็สอนลูกว่า แล้วจะทำอย่างไรให้ขายได้ ขายที่ไหนดีที่จะไม่ร้อน เห็นไหมว่ากว่าพ่อจะหาเงินได้แต่ละบาทมันไม่ได้ง่าย เราต้องอดทน ลูกบอกว่างั้นเดี๋ยวลองเปลี่ยนที่ขายไปเรื่อยๆ เริ่มจากไปขายที่ Bricks 4 Kidz ไม่ร้อนด้วย ไม่เสียค่าที่มีขนมให้ลูกค้าทดลองชิม ทำป้ายสวยๆ ติดถุงขนมอันนี้ก็คิดแบบเด็กๆ 8 ขวบ แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าเขามีความคิด มีการวางแผน ผมก็สนับสนุนให้เขาทำอย่างที่วางแผนไว้”
ท้ายที่สุดคุณพ่อในยุค Gen Y คนนี้ ย้ำว่าการปลูกฝังลูก เตรียมความพร้อมให้ลูกเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างคนมี “ความคิด” และ “แก้ไขปัญหาเป็น” เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เขาเหล่านั้น เติบโตขึ้นเป็น “คนคุณภาพ” ของสังคมและประเทศชาติต่อไปในอนาคต
Ich habe meine Super Skinny Lederhose aus dem Shop
auf der Ehrenstraße in Köln und es war quasi Liebe auf den ersten Blick. http://163.30.113.10/inteam98/userinfo.php?uid=274484
LikeLike