ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/222353
นั่งแท่นเป็นเทรนเนอร์มือหนึ่งของเมืองไทย สำหรับสาวสวย “จอม-มนุญสินี ฟูตระกูล” ผู้บริหาร MIRROR MERIT The Image Consultants บริษัทที่ปรึกษาภาพลักษณ์ ให้กับองค์กรต่างๆ ล่าสุดเจ้าตัวถึงกับปลื้มสุดๆ เมื่อได้รับความไว้วางใจให้ไปเป็นเทรนนิ่ง เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทางรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน”ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น.ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 ช่วง Focus Onพิธีกร “ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์” จึงต้องตามไปพูดคุยถึงความรู้สึกนี้
จอม-มนุญสินี ฟูตระกูล ได้เล่าถึงที่มาที่ไปให้ฟังว่า “สำหรับ MIRROR MERIT กับ The Image Consultants ก่อตั้งมา 6 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยสื่อยังไม่คึกคักขนาดนี้ ไอจียังไม่มีเลยนะคะ ตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าทุกอย่างพัฒนาไปค่อนข้างเยอะมาก รวมกับทั้งบริษัทของจอมด้วยนะคะ MIRROR MERIT เป็นบริษัทเกี่ยวกับที่ปรึกษาภาพลักษณ์ อย่างที่เราเคยคุยกันไปเมื่อปีที่แล้ว เรามีโปรแกรมด้วยกัน6 โปรแกรม ที่เกี่ยวกับการดูแลภาพลักษณ์

อันแรกก็คือ Business Etiquette เกี่ยวกับธุรกิจ คือมารยาทในเชิงธุรกิจ ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ ตัวอย่างง่ายๆ เช็คแฮนด์ หรือว่าการยื่นนามบัตร หรือว่าในเรื่องของการจัดโต๊ะประชุม ข้อเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายๆ คนอาจจะไม่ทราบรายละเอียดลึกขนาดนั้น คือบางคนพอบอกมารยาท ทุกคนก็จะแบบต้องผ้าพับไว้ จริงๆ ควรเป็นตัวของตัวเอง
เช่น เวลาเราเช็คแฮนด์ บางคนบอกแค่เช็คแฮนด์เองมาสอนอะไร แต่เชื่อมั้ยว่าหลายท่านเช็คแฮนด์ผิด แม้กระทั่งผู้นำประเทศต่างๆ ที่บางทีสำคัญมาก เพราะอย่างเวลาเราไปดิวบิสเนสเมื่อไหร่ สมมุติคุณอยู่ในองค์กรองค์กรหนึ่งแล้วได้เลื่อนตำแหน่ง คุณจะต้องไปเจอคนที่หลากหลายมากเลย ตั้งแต่ระดับท็อปลงมาเลย เวลาเราเจอ เราจะสร้างความประทับใจให้เขาครั้งแรกนี่ก็ต้องเช็คแฮนด์ ต้องฮาวดูยูดูอันนี้เป็นต่างชาติ สวัสดีค่ะ อย่างนี้นะคะ เราก็ต้องเขย่ามือแค่ 2 ครั้ง อย่างนี้เป็นต้น ในเรื่องของการเช็คแฮนด์นะคะ
หรือในการยื่นนามบัตร เวลายื่นนามบัตร เราควรจะยื่นอย่างไร เราต้องยื่นตัวที่เป็นตัวหนังสือหันไปให้เขาได้อ่าน อะไรอย่างนี้อันนี้เป็นแค่เกร็ดจริงๆ แล้วรวมไปถึงการนั่งประชุม ตั้งแต่องค์กรใหญ่ลงมาถึงองค์กรขนาดย่อม โพสิชั่นการนั่ง หัวโต๊ะควรจะเป็นใครรองลงมาควรจะเป็นใคร อันนี้ก็เป็นอะไรที่สำคัญ คือตั้งแต่ผู้บริหารจนไปถึงแอสซิทเท่นต่างๆ ในองค์กรต่างๆ อันนี้เป็นอะไรที่ควรจะรู้ใครควรจะนั่งซ้ายนั่งขวา คือรายละเอียดปลีกย่อย ค่อนข้างเยอะมาก แล้วเวลาที่จอมไปConsul ให้กับองค์กรต่างๆ บางคนเซอร์ไพรส์มากกว่า ตายล่ะเขาไม่ได้คำนึงถึงตรงนี้เลย ซึ่งถ้าเกิดเมื่อไหร่คุณทำได้ถูกต้อง เขาจะมองไปถึงภาพลักษณ์องค์กรว่าเป็นมืออาชีพ ว่าทุกคนผ่านการเรียนรู้มาแล้ว

อีกอันก็จะเป็นเรื่องของ Social Manner and Etiquette ก็คือวิธีการเข้าสังคม การเปิดบทสนทนา บางทีเราอายเราไม่ได้เป็นคนพูดเก่ง แต่เมื่อวันหนึ่งเราจะต้องไปงาน คุณจะต้องทำให้ได้ เพราะว่ามันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราจะได้มีการปฏิสัมพันธ์กัน รู้จักเพื่อนใหม่ๆ เราจะเปิดบทสนทนาอย่างไร แล้วเวลาที่เราอยากออกมาจากกลุ่ม เราจะขอตัวออกมาจากกลุ่มอย่างไรอย่างมีมารยาท ก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่ว่ารายละเอียดค่อนข้างเยอะ
ในเรื่องของ Social Etiquette แล้วก็มาในเรื่องของ Well Dress Grooming ก็คือในเรื่องการแต่งกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าบางคนจะเข้าใจเรื่องนี้ค่อนข้างผิด คิดว่าเกี่ยวกับแฟชั่นความเก๋ ความสวย เท่านั้น แต่ไม่ใช่เท่านั้น ต้องเหมาะสมตามกาลเทศะด้วย อย่างคนที่รักแฟชั่นก็ยังรักแฟชั่นในการแต่งตัวแบบนั้นได้อยู่ เพียงแต่ว่าเราต้องถูกกาลเทศะ ว่าสถานที่แต่ละอันที่เราไป เราควรจะแต่งตัวให้ตรงตามกับสถานที่นั้นๆ ต้องกระโปรงไหม อันนี้ต้องเป็นกางเกงหรือเปล่าจะได้คล่องตัวหรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วก็ในการกูมมิ่งต่างๆ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเลยค่ะ
แล้วก็ในเรื่องของ Train the Trainer ก็คืออันนี้รวมทุกอย่างในโปรแกรมของMIRROR MERIT Train the Trainer แปลว่าฝึกเพื่อให้ผู้ฝึกได้ไปฝึกต่อ เช่น HR ตามบริษัทต่างๆ ก็คือแผนกของบุคคลที่ต้องดูแลคนในองค์กรทั้งหมดจะต้องเป็นเทรนเนอร์หรือหาเทรนเนอร์มา ทีนี้ถ้า HR เป็นเทรนเนอร์เองเลยอันนี้เขาก็จะเข้ามาหาจอม
ก็มีหลายบริษัทเหมือนกันที่มาให้จอมเทรนให้ ก็ทำเทรนนิ่งกันจนเขาได้เป็นเทรนเนอร์ ก็สามารถกลับไปที่องค์กรแล้วเทรนพนักงานทั้งหมดได้เลย คนที่มาเรียนกับจอมจริงๆ จอมรับตั้งแต่ไพรเวทเลย มาคนเดียวก็ได้ หรือว่าจะจับกลุ่มกับเพื่อนๆ 4-5 คนแล้วก็เลือกว่าอยากที่จะเรียนเกี่ยวกับอะไรจนไปถึงองค์กรขนาดใหญ่ เป็น 100 คน ที่จะให้จอมไปเทรนนิ่งให้

ล่าสุดจอมรู้สึกเป็นมงคลชีวิตมากนะคะ จริงๆ เหมือนเป็นที่สุดของการเป็นเทรนเนอร์ของจอมแล้ว จอมได้ไปทำเทรนนิ่งเกี่ยวกับอบรมเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อบรมในเรื่องของมารยาท และการบริการชั้นเลิศ เพราะว่าในพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ก็จะมีส่วนด้านหน้าที่เป็นพิพิธภัณฑ์ แล้วก็ส่วนที่เป็นร้านที่เกี่ยวกับผ้าไหมทั้งหมด
ความรู้สึกจริงๆ ในใจ พอได้รับการติดต่อก็แบบรับเลย ไม่ต้องคิดเลย รู้สึกเป็นเกียรติแล้วก็ได้ไปรู้ข้อมูลว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงทำตรงนี้เพื่ออะไร เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านสิ่งที่จอมได้ไปทำเทรนนิ่งก็คือ การต้อนรับแขกต่างชาติทั้งหมดที่จะต้องเข้ามาชมพิพิธภัณฑ์ ในหนึ่งสัปดาห์ที่จอมได้รับทราบมาว่าเป็นหมื่นคนทีเดียว
ทั่วโลกจะต้องเข้ามาชมพิพิธภัณฑ์ผ้าของพระองค์ท่าน เพราะว่าอะไร เพราะว่าดังไปถึงต่างประเทศ แล้วทุกคนก็อยากจะเข้ามา ทีนี้ด้วยความที่วัฒนธรรมไทยเรากับต่างชาติ มีความแตกต่างกันค่อนข้างเยอะ เจ้าหน้าที่ที่นั่นก็ทำงานหนักจริงๆ เพราะจะต้องเจอกับอะไรเยอะแยะมากมาย ความอดทนก็จะต้องสูง

สิ่งที่จอมไปทำเทรนนิ่งก็คือ ตั้งแต่เรื่องของการสแตนด์บาย จุดเริ่มต้นพนักงานควรจะสแตนด์บายอย่างไร เซอร์วิสอย่างไร มารยาทการต้อนรับในดีเทลต่างๆ จนไปถึงปิดการต้อนรับ จอมได้ไปเทรนนิ่งพนักงานตั้งแต่การต้อนรับแขกต่างชาติจนไปถึงแขกผู้ใหญ่ หรือไปถึงระดับชั้นเจ้านาย จะมีในเรื่องการถอนสายบัว ในเรื่องของถ้าฝรั่งขอเราเช็คแฮนด์ เราก็เช็คแฮนด์ แต่ถ้าฝรั่งมาถึงปุ๊บหรือแขกต่างชาติมาถึงปุ๊บ คุณควรจะไหว้ไหม ไหว้อย่างไรให้สวยงาม แล้วก็ในดีเทลต่างๆ ที่เราจะให้ข้อมูลข่าวสารกับเขา ความอดทนด้วย อันนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของการทำเทรนนิ่งเจ้าหน้าที่ที่นั่น
ล่าสุดจอมได้ไปเป็นพาร์ทเนอร์กับThe English Manner สืบเนื่องจากว่าเซอร์ติฟายใบแรกของจอม ก็คือ Colorme Beautiful หลังจากนั้นก็เซอร์ติฟายใบที่สองก็จะเป็นเรื่องของ English Manner ที่มาที่ไปต้องขอบคุณคุณอา (น้องชายคุณพ่อ) ซึ่งเป็นอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ก็คือ คุณวีระศักดิ์ ฟูตระกูล บอกว่าจอมตอนนี้ในเรื่องของการพัฒนาภาพลักษณ์ หรือในเรื่องของที่ปรึกษาภาพลักษณ์ หยุดอยู่แค่นี้ไม่ได้ ไหนๆ หลานทำแล้วก็ทำให้ถึงที่สุดครบวงจรเลย ก็แนะนำประเทศอังกฤษ จอมก็ศึกษาหาข้อมูลก็ได้ English Manner มา ซึ่งผู้บริหารThe English Manner ชื่อ อเล็กซานด้าได้ทำงานในพระราชวังบักกิ้งแฮม ก็เป็นเจ้าหน้าที่คนสำคัญคนสนิทของ ควีนอลิซาเบธ จอมก็รู้สึกเป็นเกียรติมาก หลังจากที่ได้เรียนจบเซอร์ดิฟายของอิงลิชแมนเนอร์มา ทางสถาบันก็เชิญให้จอมเป็นพาร์ทเนอร์ด้วยกันไหม คือขั้นแรกเขาอยากให้คนไทยได้รู้จักก่อนว่าThe English Manner มีความเกี่ยวพันหรือว่าจะพัฒนาบุคลากรในประเทศไทยได้อย่างไร

สำหรับเรื่องมารยาทของผู้ดีอังกฤษกับคนไทย ถามว่าแตกต่างกันไหม จริงๆ ไม่แตกต่างกันนะคะ คือความต่างน่ะมีในเรื่องของวัฒนธรรมอะไรบ้าง ทุกประเทศต่างกันอยู่แล้ว แต่จอมมองแล้วว่าที่อังกฤษมีความคล้ายกับคนไทยมากที่สุดแล้ว เพราะว่าหนึ่งเลย เรามีพระมหากษัตรย์เหมือนกัน แล้วก็ในเรื่องของมารยาท จริงๆแล้วความหมายลึกๆ ของเขาก็คือ การแคร์กัน ใส่ใจความรู้สึกซึ่งกันและกันไม่ใช่ว่าต้องมาหยิ่ง หรือว่าคนที่มีมารยาท ก็คือคนที่อยู่แบบอัพเปอร์เลเวลเท่านั้น มันก็ไม่ใช่มารยาทอยู่ทุกที่ อยู่กับทุกคน ทุกการใช้ชีวิตของเรา ไม่ได้เกี่ยวว่าการแบ่งชนชั้นหรืออะไร ไม่ใช่เลย”