ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/220328
วันจันทร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
กรมวิชาการเกษตร ประกาศแจ้งเตือน ในช่วงฝนตกและมีสภาพอากาศร้อนชื้นระยะนี้ เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ภาคใต้ควรเฝ้าระวังการระบาดของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน มักพบการเข้าทำลายในช่วงที่ทุเรียนติดผลอ่อน เกษตรกรควรหมั่นสำรวจสวนทุเรียนในระยะนี้ จะพบตัวเต็มวัยหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนวางไข่เป็นฟองเดี่ยวๆ บริเวณหนามทุเรียนใกล้ขั้วผล ตัวหนอนจะเจริญฟักจากไข่เจาะไชเข้าไปกัดกินอยู่ในเมล็ดของผลทุเรียน และไม่สามารถสังเกตเห็นร่องรอยการเข้าทำลายจากผิวผลภายนอกได้ เมื่อหนอนโตเต็มที่ขนาดยาวประมาณ 4 เซนติเมตร จะเจาะผลทุเรียนออกมาภายนอกเพื่อเข้าสู่ระยะดักแด้ในดินที่ชื้นนาน 1-9 เดือน (กรณีที่สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมหนอนอาจอยู่ในดักแด้นานกว่านั้น) จึงฟักเป็นตัวเต็มวัย ซึ่งตรงกับช่วงใกล้เก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียน
หากพบการเข้าทำลายของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน เกษตรกรควรติดตามสถานการณ์ตรวจดูภายในสวนทุเรียน ให้สังเกตหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนตัวเต็มวัยในกับดักแสงไฟทุกวันหลังทุเรียนติดผลแล้ว (หากฝนตกหนักติดต่อกัน 2-3 วัน) หมั่นทำความสะอาดสวนอย่างสม่ำเสมอ เก็บผลร่วงที่ถูกทำลายออกจากแปลงไปเผาทำลายทิ้งนอกสวน และควรเริ่มห่อผลทุเรียนเมื่ออายุได้ 45 วัน ด้วยถุงพลาสติกสีขาวขุ่นที่เจาะด้านล่าง เพื่อให้น้ำระบายออกมาได้ และป้องกันผีเสื้อมาวางไข่
กรณีพบหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนตัวเต็มวัย 1 ตัว ในกับดักแสงไฟ ให้เกษตรกรสำรวจไข่ของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนที่ร่องหนามผลทุเรียนแล้วเก็บทำลาย และพ่นด้วยสารเคมีคาร์บาริล 85% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารเดลตาเมทริน 3% อีซี อัตรา 15 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารแลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน 2.5% ซีเอส อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารเบต้าไซฟลูทริน 2.5% อีซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร และงดพ่นสารเคมีก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างน้อย 14 วัน