ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/219938
วันศุกร์ ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
นายสมพงษ์ กาทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรระยอง สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 กรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า ปัญหาแมลงดำหนามมะพร้าว ยังคงสร้างผลกระทบให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เนื่องจากการกำจัดแมลงดำหนามมีข้อจำกัด ทั้งค่าสารเคมีกำจัดแมลงดำหนามมีราคาค่อนข้างสูง อีกทั้งการฉีดพ่นสารเคมีต้องฉีดที่ยอดมะพร้าวที่อยู่สูงจึงไม่สะดวกและไม่ปลอดภัยต่อตัวเกษตรกรและสภาพแวดล้อมด้วย ซึ่งกรมวิชาการเกษตร แนะนำให้เกษตรกรใช้ชีววิธีในการควบคุมด้วยแตนเบียนหนอนแมลงดำหนามมะพร้าว แต่ที่ผ่านมาเกษตรกรไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควร เพราะชีววิธีเห็นผลช้าส่งผลให้ขณะนี้ยังพบการระบาดของแมลงดำหนามในมะพร้าว คิดเป็นพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ จากที่เคยระบาดในพื้นที่ทั้งหมด 40,000 ไร่
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรระยอง ยังพยายามถ่ายทอดความรู้และสร้างความเข้าใจเกษตรกร ให้ใส่ใจในการควบคุมปัญหาแมลงดำหนามไม่ให้ขยายวงกว้างไปมากกว่านี้เนื่องจากแมลงดำหนามทั้งตัวหนอนและตัวเต็มวัยจะซ่อนตัวในใบอ่อนและกัดกินยอดอ่อนโดยเฉพาะยอดที่ยังไม่คลี่ ทำให้ยอดอ่อนของมะพร้าวชะงักการเจริญเติบโต หากต้นมะพร้าวถูกทำลายรุนแรงติดต่อกัน ทำให้ใบแห้งกลายเป็นสีน้ำตาลหลายใบ มองเห็นเป็นสีขาวโพลนชัดเจน ชาวสวนเรียกว่า โรคหัวหงอก ซึ่งมะพร้าวต้นหนึ่งกว่าจะให้ผลผลิตได้ต้องรอประมาณ 8-10 ปี แต่แมลงดำหนามสามารถทำลายต้นมะพร้าวได้โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน สร้างความสูญเสียต่อรายได้ของเกษตรกรและมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการจะแก้ปัญหาแมลงดำหนามมะพร้าวอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลชัดเจน ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เนื่องด้วยกำลังเจ้าหน้าที่และงบประมาณของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรระยองคงไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ได้อีกทั้งหากไม่เร่งควบคุมการระบาดของแมลงดำหนามในมะพร้าว อาจจะลุกลามไปสู่การระบาดในพืชเศรษฐกิจตัวอื่นของจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันที่มีพื้นที่ปลูกหลายหมื่นไร่ ที่สำคัญยังจะขยายวงไปสู่จังหวัดใกล้เคียงอย่างระยองอีกด้วย