ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/222751
วันอังคาร ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
ศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่จังหวัดจันทบุรี เป็น 1 ในอีกหลายๆ ศูนย์เรียนรู้ที่กรมวิชาการเกษตรจัดตั้งขึ้นเพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปฏิบัติในพื้นที่ให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของเกษตรกรนักเรียน นักศึกษา ประชาชนและผู้สนใจโดยทั่วไป
นายชลธี นุ่มหนู รักษาการผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 กรมวิชาการเกษตร เล่าว่า เมื่อครั้งที่นายสมชาย ชาญณรงค์กุลดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิชาการเกษตรสมัยแรก ประกอบกับกรมวิชาการเกษตรก่อตั้งมาครบ 36 ปี ท่านได้ริเริ่มให้มีการการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ขึ้นมาในพื้นที่หน่วยงานของกรมวิชาการเกษตร ที่ตั้งกระจายอยู่เกือบทุกจังหวัด ซึ่งทุกศูนย์ล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือการน้อมนำแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปฏิบัติเพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของเกษตรกรและผู้สนใจ อาจจะมีเพียงกิจกรรมที่แตกต่างกันไปตามภูมิประเทศและภูมิสังคมของแต่ละแห่ง แต่สิ่งที่ท่านอธิบดีกรมวิชาการเกษตรได้เน้นย้ำเสมอ คือศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ทุกแห่งต้องนำเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตรมาปฏิบัติจริงในพื้นที่เป็นหลัก

ชลธี นุ่มหนู
แนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นรูปแบบการจัดแบ่งพื้นที่เกษตรกรรมออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ แหล่งน้ำ นาข้าว แปลงไม้ผลพืชไร่พืชผัก และที่อยู่อาศัย ยุ้งฉาง ในอัตราส่วน 30 : 30 : 30 : 10 ซึ่งอัตราส่วนดังกล่าวไม่ได้กำหนดไว้ตายตัว สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ โดยยึดแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางดำเนินงานด้วยเช่นกัน
ศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่จังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลฉมัน อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ เป็นที่ราบเชิงเขา มีทิวทัศน์ที่สวยงาม จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ตามแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่อย่างครบถ้วน โดยกิจกรรมที่นำมาปฏิบัติในพื้นที่ล้วนเกิดจากการนำผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตรในแต่ละสาขาวิชามาผนวกรวมกันเป็นเทคโนโลยีการผลิตพืชและถูกนำมาจัดโชว์ให้เห็นเป็นผลงานแบบของจริงสดๆ
เริ่มจากส่วนแรกของพื้นที่ คือ แหล่งน้ำซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ ได้จัดแสดงเทคโนโลยีระบบการให้น้ำแบบประหยัดที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งระบบน้ำหยด ระบบมินิสปริงเกอร์ และระบบการให้ปุ๋ยไปพร้อมกับน้ำ (Fertigation) ส่วนที่ 2 ของพื้นที่เป็นแปลงนาข้าวสำหรับใช้บริโภคในครัวเรือน เป็นจุดสาธิตเทคโนโลยีการผลิตข้าวและสาธิตการปลูกพืชหลังนา เช่น ถั่วลิสง ข้าวโพดและแตงโม เป็นต้น โดยนำเอาเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร เช่น การใช้เชื้อไรโซเบียมคลุกเมล็ดถั่วลิสงเพื่อเพิ่มผลผลิต การปลูกข้าวโพดและแตงโมแบบปลอดภัยสารพิษ เป็นต้น ส่วนที่ 3 เป็นแปลงไม้ผลและพืชผัก ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริจังหวัดจันทบุรี จัดให้มีสัดส่วนมากกว่าพื้นที่ส่วนอื่น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และวิถีชีวิตของเกษตรกรภาคตะวันออก ที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการทำสวนไม้ผลและยางพาราเป็นหลัก ไม้ผลที่ปลูก ประกอบด้วย ลำไย มังคุด และเงาะ เป็นต้น ทั้งหมดได้นำเทคโนโลยีการผลิตที่เกิดจากผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตรมาจัดแสดง เช่น การผลิตลำไยนอกฤดูคุณภาพเพื่อส่งออก การปลูกเงาะและมังคุดตามแนวทางเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) นอกจากนี้ในส่วนของการปลูกผัก ได้จัดแสดงให้เห็นรูปแบบการผลิตใน 3รูปแบบ ได้แก่ การปลูกผักในโรงเรือน การปลูกผักหมุนเวียนปลอดภัยสารพิษ และปลูกผักในระบบอินทรีย์ ส่วนสุดท้ายของพื้นที่เป็นที่อยู่อาศัยและโรงเรือนต่างๆ มีการสาธิตการเพาะเห็ดเศรษฐกิจในถุงพลาสติก โดยใช้เชื้อพันธุ์เห็ดและรูปแบบโรงเรือนของกรมวิชาการเกษตร มีโรงเรือนสาธิตการผลิตปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศ และโรงเรือนผลิตน้ำหมักชีวภาพ อีกทั้งสาธิตการจัดเก็บวัตถุอันตรายทาง การเกษตรและการจดบันทึกตามระบบการตรวจสอบรับรองแปลง GAP ไว้ให้เป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรอีกด้วย

ศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่จังหวัดจันทบุรี ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี เป็นเสมือนโชว์รูมจัดแสดงเทคโนโลยีการผลิตพืชที่เกิดจากผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งเปิดโอกาสให้เกษตรกรหรือผู้สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา หากท่านใดต้องการเข้าชมหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี โทร.0-3946-0800, 08-1945-3326 e-mail : chan3@doa.in.th
