เล็งขึ้นทะเบียนGIกาแฟท้องถิ่น กรมวิชาการฯแนะเกษตรกรปรับสายพันธุ์ลดต้นทุน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/222189

วันศุกร์ ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

นายจำรอง ดาวเรือง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของประเทศไทย ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกกว่า 280,000 ไร่ โดยนิยมปลูก 2 สายพันธุ์ คือโรบัสต้า และอาราบิก้า ซึ่งพื้นที่เพาะปลูกกาแฟมากที่สุดจะเป็นภาคใต้ของประเทศ มีเนื้อที่กว่า 190,000 ไร่ รองลงมาคือ ภาคเหนือ 96,000 ไร่ภาคกลาง 1,600 ไร่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,500 ไร่ ตามลำดับ ปัจจุบันการผลผลิตกาแฟของประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากประชาชนเริ่มนิยมในการดื่มกาแฟสดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากปริมาณการเพิ่มขึ้นของร้านกาแฟตามท้องที่ต่างๆ

นายจำรองกล่าวอีกว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนการทำเกษตรรูปแบบแปลงใหญ่ เพื่อช่วยให้เกษตรกรเกิดการรวมกลุ่มและลดต้นทุนการผลิต กรมวิชาการเกษตร โดยสถาบันวิจัยพืชสวน ได้เข้าไปดำเนินกิจกรรมปรับปรุงสวนกาแฟเสื่อมโทรม โดยส่งเสริมการใช้กาแฟสายพันธุ์ดี ซึ่งขณะนี้กรมวิชาการเกษตรมีกาแฟพันธุ์รับรองอาราบิก้า เชียงใหม่ 80 และกาแฟพันธุ์แนะนำ โรบัสต้าจำนวน 5 พันธุ์ ได้แก่ กาแฟโรบัสต้าชุมพร1 ชุมพร2 ชุมพร3 ชุมพร 84-4 และชุมพร 84-5 โดยเฉพาะกาแฟโรบัสต้าพันธุ์ชุมพร 2 ชุมพร 84-4 และ ชุมพร 84-5 จะให้ผลผลิตมากกว่า 300 กิโลกรัมต่อไร่ โดยได้ทำการขยายพันธุ์กาแฟดีสู่เกษตรกร พัฒนาคุณภาพ เพิ่มผลผลิตกาแฟ พร้อมกับลดต้นทุนการผลิต ตลอดจนพัฒนาการผลิตให้ได้มาตรฐาน GAP หรือตามมาตรฐานสากลในการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมแรงงาน เช่น Rainforest 4C หรือ Fair trade และปราศจากสารพิษโอคราท็อกซินเอ (Ochratoxin A) ซึ่งเป็นสารที่สามารถก่อมะเร็งและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ตลอดจนวิจัยพัฒนาการผลิต การแปรรูป และการบรรจุภัณฑ์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

“ขณะนี้กำลังมองแนวทางการสร้างเอกลักษณ์ให้กับกาแฟของแต่ละถิ่น โดยมีแนวคิดการขึ้นทะเบียน GI ของกาแฟในพื้นที่นั้นๆ เช่น กาแฟเขาทะลุ กาแฟห้วยฮ่อม และกาแฟวาวี ซึ่งสามารถยกระดับเป็นกาแฟ GI ได้ นอกจากนี้ตามนโยบายการทำเกษตรรูปแบบแปลงใหญ่ หรือทำเป็นรูปแบบสหกรณ์ กรมได้มองพื้นที่ที่ จ.ชุมพร และเชียงราย เนื่องจากมีการเพาะปลูกในปริมาณมาก” นายจำรอง กล่าว

Leave a comment