ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 30 มิ.ย. 2559 07:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/651082

ผูกระเบิดพลีชีพกราดยิง กดบึม3ลูก-เจ็บนับร้อย 300เที่ยวบินยกเลิกหมด
กลุ่มก่อการร้ายปฏิบัติการบึมเขย่าโลกอีก คราวนี้ 3 คนร้ายเลือกลงมือที่สนามบินนานา ชาติอตาเติร์ก ในอิสตันบูล ตุรกี ตั้งแต่กราดยิงใส่ผู้คนก่อนกดระเบิดฆ่าตัวตายทั้งหมด ส่งผลมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยทางการตุรกีมั่นใจฝีมือ “ไอเอส” พร้อมเรียกร้องให้โลกร่วมมือกันต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรง ด้านนานาชาติพร้อมใจประณามกลุ่มก่อเหตุ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ยันไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบ รมว.คมนาคมมั่นใจมาตรการรักษาความปลอดภัยสนามบินในไทยเข้มงวดตามระเบียบ ส่วนสนามบินดอนเมือง-รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบบุคคล สัมภาระ และลาดตระเวนมากขึ้น
เหตุก่อการร้ายยังคงสร้างความสะเทือนขวัญให้แก่ชาวโลกอย่างไม่หยุดหย่อน โดยคราวนี้เป็นที่นครอิสตันบูล เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของตุรกี กลุ่มคนร้ายลงมืออุกอาจโจมตีสนามบินนานาชาติอตาเติร์ก ใช้อาวุธสงครามกราดยิงอย่างไม่เลือกหน้า ก่อนจุดระเบิดพลีชีพทิ้งทวน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงตุรกี ระบุเหตุสยองขวัญครั้งนี้ เกิดเมื่อเวลา 21.50 น. ของวันที่ 28 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 01.50 น. ของวันที่ 29 มิ.ย. ตามเวลาไทย คนร้าย 3 คน ไม่ทราบชื่อและสัญชาติ ได้ก่อเหตุโจมตีสนามบินนานาชาติอตาเติร์ก ในนครอิสตันบูล สนามบินที่มีผู้คนมาใช้บริการคับคั่งมากเป็นอันดับ 3 ของยุโรป โดยจากการสืบสวนเบื้องต้นและการย้อนดูภาพกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายนั่งแท็กซี่มาด้วยกันก่อนแยกตัวลงมือ ในจำนวนนี้ 2 คน บุกไปก่อเหตุที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้า เปิดฉากกระหน่ำยิงใส่เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน และพยายามบุกเข้าไปยังด่านรักษาความปลอดภัยตรงทางเข้าอาคาร จากนั้นคนร้าย 1 คน จึงกดระเบิดฆ่าตัวตาย แรงระเบิดรุนแรงจนหลังคาพังทลายลงมาบางส่วน ขณะที่อีกคนถูกเจ้าหน้าที่ยิงล้มลงไปกองกับพื้น แต่ไม่ถึง 20 วินาที ก็กดระเบิดฆ่าตัวตายตามไปอีกราย
ส่วนคนร้ายที่เหลืออีก 1 คน ได้บุกเข้าไปก่อเหตุภายในอาคารผู้โดยสารขาออก จากการที่เจ้าหน้าที่สอบถามพยานพบว่าคนร้ายซึ่งสวมชุดสีดำทั้งตัวแต่ไม่ใส่หน้ากาก ได้ใช้อาวุธปืนอัตโนมัติไม่ทราบขนาดที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อแจ็กเกต เปิดฉากยิงใส่ผู้คนภายในเวลาไล่เลี่ยหลังจากเกิดระเบิด 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม หลังจากกราดยิงไปได้ไม่กี่นาที คนร้ายได้นำปืนกลับไปซ่อนในเสื้อแจ็กเกตตามเดิม และมีท่าทีลุกลนอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะวิ่งลงบันไดเลื่อนพยายามหลบหนีไปยังชั้นล่างของอาคารผู้โดยสารขาออก ตามด้วยกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่วิ่งตามลงไปและเกิดดวลปืนยิงกันสนั่นหวั่นไหว ก่อนจบลงด้วยเสียงระเบิด ที่เกิดจากการจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายอีกคน
ด้านนายบินาลี ยิลดิริม นายกรัฐมนตรีตุรกีออกแถลงการณ์ว่า แม้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้ แต่จากหลักฐานเบื้องต้นทำให้มุ่งเป้าไปที่กองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ส่วนสำนักงานผู้ว่าการนครอิสตันบูล เปิดเผยว่ายอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 41 ศพ ส่วนใหญ่เป็นชาวตุรกี ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ มีทั้งชาวจีน จอร์แดน ตูนิเซีย อุซเบกิสถาน อิหร่าน และยูเครน ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 239 คน แต่หลังจากถูกนำส่งโรงพยาบาล แพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 109 คน
ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานด้วยว่า แหล่งข่าวความมั่นคงตุรกีผู้ไม่ขอเอ่ยนาม ระบุว่าการก่อเหตุที่เลือกโจมตีเป้าหมายในลักษณะนี้ มักเข้าข่ายเป็นฝีมือของกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส มากกว่ากลุ่มกบฏชาวเคิร์ดพีเคเคที่กำลังมีปัญหากับรัฐบาลตุรกี เช่นเดียวกับแหล่งข่าวในหน่วยต่อต้านก่อการร้ายของสหรัฐฯ ที่ระบุว่ากลุ่มไอเอสเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง แม้จะยังไม่มีหลักฐานมายืนยันก็ตาม
ต่อมานายเรย์เซป ทายยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้โลกร่วมมือกันต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรง ระบุเหตุการณ์ดังกล่าวควรเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราต้องร่วมมือกันมากขึ้น เพราะเหตุระเบิดเช่นนี้อาจเกิดขึ้นที่สนามบินใดเมืองใดก็ได้ในโลก เช่นเดียวกับรัฐบาลสหรัฐฯ เบลเยียม และเยอรมนี ที่ร่วมแถลงการณ์ประณามการโจมตี
ส่วนสายการบินแห่งชาติตุรกี เตอร์กิช แอร์ไลน์ส เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุนั้นทางสายการบินได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดทันทีกว่า 300 เที่ยวบิน ก่อนจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเวลา 08.00 น. ของวันที่ 29 มิ.ย.หรือประมาณ 12.00 น. วันเดียวกันตามเวลาไทย กระนั้นผู้สื่อข่าวต่างประเทศในที่เกิดเหตุรายงานว่า สายการบินที่ขึ้นลงสนามบินนานาชาติอตาเติร์ก เปิดให้บริการเพียงแค่ 1 ใน 3 ที่เหลือยังคงขึ้นสถานะว่าล่าช้า หรือเลื่อนกำหนดการบิน ซึ่งต่อมาสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส ระบุว่าผู้โดยสารสามารถขอเปลี่ยนเที่ยวบินหรือยกเลิกตั๋วได้โดยไม่เสียเงินไปจนถึงสัปดาห์หน้า
อนึ่ง ในปีนี้ประเทศตุรกีถูกกลุ่มหัวรุนแรงโจมตีหลายครั้ง อาทิ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุโจมตีรถบัสตำรวจ กลางนครอิสตันบูล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 ศพ เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มไอเอสก่อเหตุระเบิดพลีชีพในย่านการค้าของนครอิสตันบูล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ บาดเจ็บ 36 คน นอกจากนี้ การโจมตีครั้งนี้ยังมีลักษณะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์โจมตีสนามบินนานาชาติซาเวนเทม และสถานีรถไฟใต้ดินมาเอลบีค ในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่คนร้ายลงมือจุดชนวนระเบิดพลีชีพ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 32 ศพ บาดเจ็บ 340 คน
ขณะที่ในช่วงสายวันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงอังการา ประเทศตุรกี แจ้งข้อความผ่านเว็บไซต์กรณีเกิดเหตุยิงและระเบิดที่สนามบินนานาชาติอตาเติร์ก ในนครอิสตันบูล ในชั้นนี้สถานเอกอัครราชทูตได้ตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่าคนไทยได้รับผลกระทบ โดยช่วงเวลาดังกล่าวสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส มีเที่ยวบิน บินไปหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย กรณีที่มีคนไทยประสบเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตได้ที่หมายเลข +90 533 641 5698
ด้านนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตไทยได้รับการติดต่อประสานจากคนไทย ทราบว่าช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงที่คนไทยส่วนใหญ่ออกเดินทางเปลี่ยนเส้นทางไปแล้ว จนถึงขณะนี้สนามบินดังกล่าวยังปิดอยู่
ส่วนมาตรการป้องกันเหตุร้ายในไทยนั้น นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยของสนามบินในไทย ซึ่งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่กำกับดูแลสนามบินในกำกับจำนวน 6 แห่ง คือ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินเชียงใหม่ สนามบินหาดใหญ่ สนามบินภูเก็ตและสนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย รวมถึงสนามบินที่อยู่ภายใต้การกำกับของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) จำนวน 28 แห่ง ก็มีมาตรฐานการเข้มงวดตามระเบียบอยู่แล้ว แล้วแต่สถานการณ์ สูงสุดคือระดับ 3 เช่นเดียวกับรถไฟฟ้า ที่นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มสายงานปฏิบัติการและซ่อมบำรุงบริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เปิดเผยว่า แอร์พอร์ตลิงก์ได้เพิ่มความเข้มงวดด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ซึ่งเป็นมาตรการที่ได้บังคับใช้มาโดยตลอด อีกทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลและวัตถุต้องสงสัยที่เข้าสู่ระบบไฟฟ้า เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสัมภาระผู้โดยสารบริเวณสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี
ขณะที่นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวถึงกรณีคนร้ายกราดยิง และวางระเบิดในสนามบินอตาเติร์กในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ว่าในส่วนของท่าอากาศยานดอนเมือง หลังรับทราบข่าวได้มีการย้ำเตือนหน่วยงานที่รับผิดชอบ ให้เข้มงวดเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเพิ่มรอบความถี่ในการตรวจสอบ และเพิ่มการลาดตระเวนให้ถี่มากขึ้น โดยเฉพาะนอกพื้นที่เขตห้าม หรือพื้นที่สาธารณะ ซึ่งหากพบวัตถุต้องสงสัยให้แจ้งมายังศูนย์รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานดอนเมืองทันที นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังชุดตรวจผสมร่วม ไม่ว่าจะเป็นตำรวจท่องเที่ยว สถานีตำรวจดอนเมือง และกองทัพอากาศ ให้ช่วยตรวจตราอย่างเข้มงวดมากขึ้นด้วย จึงขอให้ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองมั่นใจในความปลอดภัยได้
