ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/223648
วันอาทิตย์ ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
กมลดิษฐ สมุทรโคจร
ตลอดเวลากว่า 15 ปี ของ “คาราบาวแดง”สามารถไต่อันดับมาสู่เครื่องดื่มบำรุงกำลังเบอร์ 2 ของตลาด กุญแจสำคัญที่ทำให้ก้าวมาถึงจุดนี้ กมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาดและสายงานปฏิบัติการการตลาด บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)เผยถึงดีเอ็นเอ 4 ประการที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์นี้ว่ามาจาก “แอ๊ด คาราบาว” ยืนยง โอภากุล หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์, เอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ยึดคุณภาพและรสชาติถูกปากกลุ่มเป้าหมาย,ช่องทางการจัดจำหน่าย และกลยุทธ์ทีมสาวบาวแดง ที่กล่าวได้ว่าเป็นทีมการตลาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่มีมากกว่า 600 คนกระจายไปทั่วประเทศ
“ทุกอย่างเริ่มต้นจากเสถียร (เสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทคาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มาจับเข่าคุยกับพี่แอ๊ด คาราบาว เพื่อบุกเบิกธุรกิจใหม่ร่วมกันหลังจากคิดอยู่หลายอย่างในที่สุดก็มาลงเอยที่เครื่องดื่มบำรุงกำลัง การสร้างแบรนด์ขึ้นมาสักชิ้น ต้องใช้เวลาในการสร้างการรับรู้ แต่สำหรับเราข้ามจุดนั้นไปเลย เพราะทุกคนรู้จักคาราบาวอยู่แล้ว” กมลดิษฐ ย้อนความถึงก้าวแรกของแบรนด์คาราบาวแดง

สาวบาวแดง
ถึงวันนี้ “คาราบาวแดง” มีความหมายมากกว่าเครื่องหมายการค้าของเครื่องดื่มบำรุงกำลังระดับสากล แต่ครอบคลุมไปถึงการปลุกปั้นจิตวิญญาณของการต่อสู้ทุกรูปแบบที่มีอยู่ในแต่ละคน มีแนวความคิดทางการตลาดที่แตกต่างออกไป สืบทอดจุดยืนแรกเริ่มของ แอ๊ด คาราบาวและโลโก้เขาควายอันทรงพลัง ผู้ก่อตั้งวงคาราบาวการสร้างทีมสาวบาวแดง จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสื่อสารกับผู้บริโภคและสร้างแบรนด์เอ็กซพีเรียนส์ เพราะการลงไปคุยกับผู้บริโภคโดยตรง การลงพื้นที่ของสาวบาวแดงไปพบปะผู้บริโภค ร้านค้าปลีก ตัวแทนจำหน่าย ไม่ใช่แค่ร่วมกิจกรรม เล่นเกม แจกรางวัล หรือให้ข้อมูลสินค้า แต่เสน่ห์ของสาวบาวแดงที่มีความเป็นกันเองสร้างความผูกพัน เสมือนเป็นคนใกล้ชิดกับผู้บริโภค ในยุคแรกเลือก “ตั๊ก” บงกช คงมาลัย มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ต่อมาจึงพัฒนายกระดับทีมสาวบาวแดงเพื่อสานสัมพันธ์กับผู้บริโภคให้มากขึ้นและเกิดความต่อเนื่องในการลงพื้นที่ จึงปรับกลยุทธ์และโครงสร้างองค์กรใหม่ให้ทีมสาวบาวแดงเป็นพนักงานประจำ มีการอบรม สร้างขอบข่ายงาน และแบ่งสายงานอย่างชัดเจน

ด้วยชื่อเรียกลำดับขั้นที่มีความแปลกใหม่เช่น เสนาธิการ, ทหารเสือ, ขุนศึก, รองขุนศึก,สาวบาวแดง ผู้ช่วย ม้าเร็ว เป็นต้น ก่อเกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรสาวบาวแดงขึ้นใหม่ กลายเป็นทีมการตลาดที่กล่าวได้ว่าใหญ่ที่สุดของประเทศ กระจายกำลังออกเป็น 7 โซน คือ ภาคเหนือภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพฯ “ปุ้ม”สุภัสสรา ตันประเสริฐ หัวหน้าส่วนฝ่ายปฏิบัติการตลาด คาราบาวแดง ทำหน้าที่ทหารเสือโซนภาคใต้ ดูแลพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพรระนอง สุราษฎร์ธานี ยึดงานนี้มานานกว่า 10 ปีเผยว่าเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออก ไม่รู้ว่าทีมสาวบาวแดงทำหน้าที่อะไร แต่จากการคลุกคลีเรียนรู้การทำงานจากทีมงาน ทำให้พัฒนาตัวเองเป็นคนกล้าพูดกล้าเข้าไปคุยกับร้านค้า กล้าเข้าไปประสานงานกับหน่วยงานราชการและชุมชนด้านสาวโรงงานที่หันมาจับงานนี้นานกว่า 3 ปี “จอย” ธนิกาปรุดรัมย์ รองหัวหน้าหน่วยฝ่ายปฏิบัติการการตลาด เล่าว่าแรกเริ่มสนใจงานนี้ เพราะรายได้ดี ได้ทีมงานรุ่นพี่ช่วยสอนงานเป็นอย่างดี ณ วันนี้คุณภาพชีวิตเปลี่ยนไป ปลดหนี้ให้ครอบครัว มีเงินดูแลครอบครัว และมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง ขณะที่ “เจี๊ยบ” ภูเวียง บุคคล รองหัวหน้าหน่วยฝ่ายกิจกรรมพิเศษ หรือรองขุนศึก รับผิดชอบกิจกรรมพิเศษทั่วประเทศ กล่าวว่า ด้วยหน้าที่จึงได้มีโอกาสสัมผัสกับผู้บริโภคทั่วประเทศ ทำงานที่นี่มาตั้งแต่ปี 2553 แต่เนื่องจากมีธุรกิจครอบครัวจึงลาออกไปพักหนึ่ง ก่อนกลับมาทำงานที่นี่อีกครั้ง ถึงตอนนี้กว่า 5 ปีแล้ว ปิดท้ายที่ “แมว” พิมพร วรโยธา หัวหน้าส่วนฝ่ายปฏิบัติการตลาด แชร์ว่า ตั้งใจมาสมัครเป็นสาวบาวแดงตั้งแต่ศึกษาจบชั้นมัธยมปลาย เพราะมีความชื่นชอบในตัววงคาราบาวเป็นทุนอยู่แล้ว แม้ว่าจะเป็นคนร่างเล็ก แต่เพราะทีมงานให้โอกาสลองทำงานในประสบการณ์แปลกใหม่ ตั้งแต่การประชาสัมพันธ์ไปกับรถแห่บาวแดง ลงพื้นที่อุบลราชธานีนานกว่า 5 ปีจนวันนี้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นทหารเสือ ประจำจังหวัดปราจีนบุรี-นครนายก


