ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/224565
วันพฤหัสบดี ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 20.06 น.
ปัจจุบัน “มะเร็ง” ถือเป็นโรคร้ายอันดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตคนมากมายทุกปี มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิง จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติพบผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 37 ของมะเร็งทั้งหมด และยังมีอัตราการเสียชีวิตเป็นอันดับสองรองจากมะเร็งปอด และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยช่วงอายุที่พบมากที่สุดคือ 55 ปี และผู้เสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมเฉลี่ยวันละ 9 คน
สาเหตุของมะเร็งเต้านมเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ปัจจัยทางพันธุกรรมโดยเชื่อว่ามียีนบางตัวกลายพันธุ์แล้วเกิดเป็นเซลล์มะเร็ง ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม อาหารการกิน และฮอร์โมนเพศหญิง โดยอัตราเสี่ยงของมะเร็งเต้านมจะเพิ่มขึ้นตามอายุ ซึ่งจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าของทุกๆ ระยะอายุที่เพิ่มขึ้น 10 ปี จนกระทั่งถึงวัยหมดประจำเดือน

สัญญาณที่บ่งบอกว่าท่านอาจจะเป็นมะเร็งเต้านม คือ มีก้อนที่เต้านมหรือที่รักแร้ รูปร่างหรือขนาดของเต้านมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สีหรือผิวหนังบริเวณลานหัวนมที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น มีรอยบุ๋ม รอยย่น ผื่นคันที่รักษาแล้วไม่หายขาด อาการเจ็บผิดปกติที่เต้านมหรือผิวหนังของเต้านมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นรอยบุ๋มแบบลักยิ้ม มีรอยย่น ผิวหนังบวมหนาตัวเหมือนผิวของเปลือกส้ม อาการเหล่านี้คือสัญญาณเตือว่า เซลล์มะเร็งได้ลุกลามขึ้นมาที่ชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังแล้ว สำหรับการรักษานั้นมีด้วยกันหลายวิธี อาทิ การผ่าตัดเอาเต้านมและต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ออก หากพบว่าเซลล์มะเร็งกระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองแล้ว อาจจำเป็นต้องให้ยาเคมีบำบัดร่วมกับการฉายแสงรักษาเฉพาะบริเวณนั้นอีกด้วย
ทั้งนี้ผู้หญิงทุกคน ควรหมั่นสังเกตตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือนเมื่อมีอายุ 20 ปีขึ้นไป พบแพทย์ตรวจเมื่อมีอาการสงสัย อย่าปล่อยไว้เพราะไม่เจ็บ ผู้หญิงหลายๆ คนมีความเข้าใจผิดคิดว่าก้อนที่ไม่เจ็บคงไม่เป็นไรและปล่อยทิ้งไว้จนกระทั่งก้อนมะเร็งใหญ่โตขึ้นมากแล้วจึงรู้สึกเจ็บได้ ซึ่งหากทิ้งไว้มะเร็งอาจลุกลามทั่วร่างกายได้ในท้ายที่สุด
ข้อมูลโดย ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา
