ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ก.ค. 2559 08:54
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/663404

‘เธเรซา เมย์’ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และนายกฯ หญิงคนแรกในรอบ 26 ปีของอังกฤษแล้ว พร้อมประกาศรายชื่อรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ แต่งตั้งบอริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน หนึ่งใน‘หัวหอก’ แกนนำรณรงค์ยูเคออกจากอียู นั่งเก้าอี้ รมว.ต่างประเทศคนใหม่ …
เมื่อ 14 ก.ค. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นางเธเรซา เมย์ อดีตรัฐมนตรีมหาดไทย วัย 59 ปี เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากนายเดวิด คาเมรอน อดีตนายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลถวายหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการกับสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดย นางเธเรซา เมย์ นับเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอังกฤษในรอบ 26 ปี ต่อจาก ‘นางสิงห์เหล็ก’ อดีตนายกรัฐมนตรี มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ ที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ อังกฤษในช่วงระหว่างปี 2522-2533
บีบีซี แจ้งว่า นางเมย์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ได้กล่าวต่อสื่อมวลชนที่ด้านหน้าบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เลขที่ 10 บนถนนดาวน์นิ่ง ในกรุงลอนดอน ประกาศให้คำมั่นในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษว่า จะนำรัฐบาลอังกฤษชุดใหม่ทำงานเพื่อส่วนรวมทั้งหมด หลังจากนางเมย์ได้เดินทางไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ที่พระราชวังบักกิงแฮม ในกรุงลอนดอน เพื่อถวายรายงานตัวในการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ต่อจาก นายเดวิด คาเมรอน จากนั้น นางเมย์ยังได้รับโทรศัพท์จากบรรดาผู้นำประเทศในยุโรปที่ โทร. มาแสดงความยินดีกับเธอ ที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ พร้อมกันนั้น นางเมย์ ยังบอกกับผู้นำประเทศอียูทั้งหลายว่า จำเป็นต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง สำหรับการเตรียมตัวในการเจรจากรณีสหราชอาณาจักร (ยูเค) จะออกจากสหภาพยุโรป (อียู)

มีรายงานด้วยว่า นายกรัฐมนตรีเมย์ได้มีการประกาศรายชื่อรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ โดยได้แต่งตั้ง นายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแกนนำรณรงค์เรียกร้องให้ยูเคออกจากอียู นั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ แทนนายฟิลิป แฮมมอนด์ และนางแอมเบอร์ รัดด์ อดีตรมว.พลังงาน ดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทยคนใหม่


ทั้งนี้ นางเมย์ ได้แสดงจุดยืนชัดเจนที่จะดำเนินการตามผลประชามติที่ออกมาว่า ฝ่ายสนับสนุนให้ ยูเคออกจากอียูเป็นฝ่ายชนะ โดยกล่าวว่า ‘เบร็กซิตคือเบร็กซิต’ จะไม่มีความพยายามเพื่ออยู่ในอียูต่อไป จะไม่มีความพยายามเข้าร่วมอียูอีกครั้งทางประตูหลัง และจะไม่มีการทำประชามติรอบสอง
