มท.เร่งช่วยชาวนา ลดค่าเช่า-แก้หนี้สิน มอบรถไถ-เกี่ยวข้าว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/223813

วันจันทร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

มท.เร่งช่วยชาวนา

ลดค่าเช่า-แก้หนี้สิน

มอบรถไถ-เกี่ยวข้าว

เน้นเพิมผลการผลิต

ประเด็นดังกล่าวเป็นการเปิดเผยของ นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรโดยมุ่งเน้นการดูแลให้เกษตรกรมีรายได้ที่เหมาะสมและได้รับความเป็นธรรม ด้วยมาตรการต่างๆ อาทิ การลดต้นทุนการผลิต โดยการควบคุมค่าเช่านา ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ตลอดจนการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่เกษตรกรกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

1.ได้ให้นายอำเภอและกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในฐานะกรรมการควบคุมค่าเช่านาระดับพื้นที่ ไปประชุมกำหนดอัตราค่าเช่านาปี 2559/60 ของแต่ละท้องที่ในเขตตำบลให้เหมาะสมเป็นธรรมตามสภาพคุณภาพของที่ดิน และน้ำ ความเหมาะสมของสภาพภูมิประเทศ ประเภทของเกษตรกรรมหรือพืชที่ปลูกร่วมทั้งให้ตรวจสอบสัญญาเช่านาให้เป็นไปตามประกาศอัตราค่าเช่านาแต่ละท้องที่ด้วย หากมีการร้องเรียนก็ให้เร่งเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ปัจจุบันจากข้อมูลที่ได้รับรายงานจากจังหวัด ณ เดือนมิถุนายน 2559 มีจำนวนผู้เช่านา 358,976 ราย จำนวนผู้ให้เช่า 343,434 ราย พื้นที่ที่มีการเช่านาทั้งหมด 9,653,240 ไร่ มีผลการดำเนินงานในการควบคุมค่าเช่านาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จำนวน 268,786 ราย (ผู้เช่า) เป็นพื้นที่เช่านา 8,078,197 ไร่ ในจำนวนนี้สามารถเจรจาลดค่าเช่านาให้แก่ผู้เช่าได้ จำนวน 125,294 ราย เป็นพื้นที่เช่านาประมาณ 2.2 ล้านไร่ คิดเป็นจำนวนเงินที่เจรจาลดค่าเช่านาลงได้กว่า 48 ล้านบาท

สำหรับในพื้นที่ที่ประสบภัยธรรมชาติ กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินมาตรการลด หรืองด หรือยกเว้นค่าเช่านา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยตาม พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2524 โดยสามารถเจรจาลด และงดเก็บค่าเช่านาให้แก่ผู้เช่าได้ จำนวน 587 ราย เป็นพื้นที่เช่านา 7,363 ไร่ จำนวนเงินที่ลดค่าเช่านาลงได้ 1,101,800 บาท จำนวนเงินที่งดเก็บค่าเช่านา 266,480 บาท รวมจำนวนเงินที่ลดและงดเก็บค่าเช่านาในพื้นที่ประสบภัยธรรมชาติ ทั้งสิ้น 1,368,280 บาท

2. การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร กระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรมและภาคประชาชน อย่างเป็นระบบมาอย่างต่อเนื่องตามแนวทาง “ประชารัฐ” โดยได้เปิดศูนย์ดำรงธรรมอำเภอให้ชาวนาเกษตรกรที่นำที่ดินไปจำนองนอกระบบไว้กับเอกชนโดยไม่ได้จดทะบียนจำนองกับทางราชการทำให้เสียเปรียบมาเจรจากับเจ้าหนี้โดยมีปลัดอำเภอและคกก.ช่วยกันเจรจาซึ่งผลปรากฏว่าตั้งแต่ปี 2558 สามารถช่วยเหลือผ่อนปรนภาระหนี้สินของเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อป้องกันไม่ให้เกษตรกรต้องสูญเสียที่ดินทำกินให้แก่เจ้าหนี้อย่างไม่เป็นธรรม โดยมีเกษตรกรที่มาขอรับการช่วยเหลือให้เจรจาหนี้จำนวนทั้งสิ้น 1,637,562ราย แยกเป็นหนี้ในระบบที่สัญญาสถาบันการเงินเช่นธนาคารหรือสหกรณ์จำนวน 1,488,125รายและหนี้นอกระบบที่ทำไว้กับเอกชนโดยไม่ได้จดทะเบียนกับทางราชการจำนวน 149,437ราย กระทรวงมหาดไทยได้ส่งข้อมูลกลุ่มหนี้สินในระบบให้กระทรวงการคลังเพื่อกำหนดแนวทางให้การช่วยเหลือ เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ การขยายระยะเวลาชำระหนี้ เป็นต้น

นายกฤษฎากล่าวว่า สำหรับกลุ่มหนี้สินนอกระบบที่ชาวนาทำสัญญาไว้กับเอกชนและเสียเปรียบนั้น แบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1) กรณีหนี้สินที่เดือดร้อนเร่งด่วน เนื่องจากได้มีคำพิพากษาให้บังคับคดีแล้วหรือเจ้าหนี้กำลังจะยึดที่ดินอยู่แล้วนั้น ได้จัดส่งให้กระทรวงยุติธรรมเพื่อดำเนินการช่วยเหลือ 2) กรณีหนี้นอกระบบที่ยังไม่มีการฟ้องร้องหรือบังคับคดีนั้น นายอำเภอได้เปิดดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ย โดยมีเกษตรกรมายื่นคำร้อง จำนวน 85,605 ราย มูลหนี้ 15,465 ล้านบาท นายอำเภอและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้เรียกเจ้าหนี้และลูกหนี้มาดำเนินการไกล่เกลี่ยแล้ว จำนวน 82,623 ราย มูลหนี้ 15,117 ล้านบาท ในจำนวนนี้สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยสำเร็จ จำนวน 52,003 ราย มูลหนี้ 9,467 ล้านบาท และอยู่ระหว่างดำเนินการไกล่เกลี่ย จำนวน 2,982 ราย มีผลการปลดเปลื้องหนี้สินแล้ว รวมทั้งสิ้น 2,146 ราย มูลหนี้ 279 ล้านบาท

นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังได้สนับสนุนปัจจัยการผลิตอื่นๆ โดยการจัดหาเครื่องจักรกลทางการเกษตร ให้แก่กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร เช่น รถเกี่ยวข้าว รถนวดข้าว รถไถ เครื่องคัดแยกเมล็ดพันธุ์ เครื่องหยอดข้าว เพื่อนำไปบริการให้กับสมาชิกของสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือในการลดต้นทุนการผลิตอีกทางหนึ่งด้วย

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคการเกษตรถือเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศไทย ดังนั้น การช่วยเหลือให้เกษตรกรมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล จึงถือเป็นภารกิจสำคัญที่กระทรวงมหาดไทย จะเร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหนี้สินและความยากจนเพื่อช่วยเหลือให้พี่น้องเกษตรกรไทยมีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้หากเกษตรกรมีปัญหาความเดือดร้อน หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งปัญหาหนี้สิน หรือการเก็บค่าเช่านาที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย สามารถร้องเรียน ร้องทุกข์ ได้ที่ที่ว่าการอำเภอหรือศูนย์ดำรงธรรมทุกแห่งทั่วประเทศ

Leave a comment