ศูนย์พิกุลทองฯชูต้นแบบแกล้งดิน ช่วยฟื้นชีวิตเกษตรกร‘นราธิวาส’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/223184

วันพฤหัสบดี ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

นางสายหยุด เพ็ชรสุข ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า ในอดีตเกษตรกร จ.นราธิวาส ต้องประสบกับปัญหาความยากจน เนื่องจากที่ทำกินส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่พรุ สภาพดินเปรี้ยวจัดและดินทรายจัด ธาตุอาหารต่ำ ไม่สามารถใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรได้ ศูนย์การศึกษาพัฒนาพิกุลทองฯจึงถูกตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีกรมพัฒนาที่ดินเป็นหน่วยงานหลักขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาและพัฒนาการแก้ไขปัญหา

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวทางการศึกษาวิธีแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวจัดและดินทรายจัด โดยการเร่งให้ดินเป็นกรด เรียกว่า “การแกล้งดิน” หรือการทำให้ดินโกรธ จากนั้นจึงหาวิธีปรับปรุงบำรุงดินให้กลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง เริ่มจากการใช้น้ำล้างความเป็นกรดด้วยการขังน้ำแล้วเปลี่ยนถ่ายทุก 4 สัปดาห์ แล้วจึงปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกและปูนฝุ่นที่หาได้ในชุมชน หากต้องการปลูกไม้ผล ควรยกร่องเพื่อป้องกันน้ำท่วมและช่วยล้างกรดบนคันดินลงสู่ทางน้ำด้านล่าง โดยต้องมีการจัดระบบชลประทาน เพื่อควบคุมน้ำใต้ดินไม่ให้สารไพไรท์ ในดินทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ และจะต้องใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันดินกลับมาเปรี้ยวจัดและดินทรายจัดอีกครั้ง

“จากความสำเร็จของงานวิจัยที่ถูกเผยแพร่ไปสู่เกษตรกรอย่างต่อเนื่องกว่า 3 ทศวรรษของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯทำให้พื้นที่ดินที่เคยว่างเปล่ากลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง เกษตรกรในพื้นที่พรุใน จ.นราธิวาส มีความเป็นอยู่ดีขึ้น และสามารถเป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวจัดและดินทรายจัดในพื้นที่อื่นได้ต่อไป” นางสายหยุด กล่าว

 

Leave a comment