ในภารกิจมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย

ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเสด็จครองราชย์ครบ 70 ปี

และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559

ในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ได้รับความกรุณาจาก รศ.ดร.นพ.พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ถ่ายทอดถึงพระกรณียกิจของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ องค์ประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ที่ทรงมีต่อผู้ประสบภัยพิบัติด้วยพระทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาธรรม

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ องค์นายกกิตติมศักดิ์ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ทรงช่วยเหลือต่อพสกนิกรผู้ประสบอุทกภัยด้วยพระเมตตาและพระวิริยะ อุตสาหะมาตลอดเวลามากว่า 20 ปี ทรงมีส่วนกับภารกิจของมูลนิธิ ทั้งเหตุอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขัง ซึ่งเกิดทุกปีโดยประทานพระราโชบายและเสด็จพระดำเนินปฏิบัติการด้วยพระองค์เองอยู่เป็นเนื่องนิจ

พระราโชบายด้านการประทานด้านการยังชีพ ทรงมีพระดำริส่งของยังชีพ ทรงจัดถุงด้วยพระองค์เอง เสด็จทรงเยี่ยมประชาชนเสมอครั้งล่าสุดเสด็จที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ประทานถุงยังชีพให้กับประชาชน 17 หมู่บ้าน ประทานให้กับพระภิกษุสงฆ์ (ภาพ) ผู้สูงอายุ ผู้พิการ สตรีมีครรภ์ และทรงเยี่ยมเยียนประชาชน เด็ก ผู้ใหญ่

สำหรับสตรีมีครรภ์ นอกจากจะประทานถุงยังชีพแล้ว ยังทรงห่วงใยสุขภาพครรภ์และเด็กในครรภ์ โดยประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ซึ่งมีแร่ธาตุ สารอาหาร เช่น ธาตุเหล็ก สารต้านอนุมูลอิสระ และมีค่าน้ำตาลต่ำเพื่อการบำรุงครรภ์ ลดโอกาสเกิดครรภ์เป็นพิษ และป้องกันโรคปากแหว่งเพดานโหว่

ข้าวไรซ์เบอร์รี่นี้เป็นข้าวที่พัฒนาโดยนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นของคนไทยแท้ๆ มีคุณค่าดังที่กล่าวแล้ว เป็นข้าวชนิดเดียวที่นอกจากรับประทานแล้วติดใจและเมื่อนำไปแปรรูปได้หลากหลายทั้งอาหารคาว หวาน ทั้งไทย ทั้งเทศ อย่างมีเอกลักษณ์ ทำชา กาแฟ ก็อร่อยหอมอย่างมีคุณค่าจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ด้วย

จุดเด่นของข้าวไรซ์เบอร์รี่อีกประการหนึ่ง คือ สามารถนำไปทำขนมปังและเบเกอรี่ ทดแทนข้าวสาลี โดยยังคงความอร่อย แต่หอมกว่าการใช้ข้าวสาลี มีคุณค่าโภชนาการมากกว่าอีกด้วย ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จึงมีศักยภาพที่จะมีการนำไปบริโภคทั่วโลก สร้างความหวังให้วงการข้าวไทยที่จะก้าวไกลสู่สากล

นอกจากนี้ จากการมีเอกลักษณ์ข้าวไรซ์เบอร์รี่นี้จึงสามารถพัฒนาเป็นของฝากประจำจังหวัดให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศได้

ทั้งหมดนี้จึงเห็นได้ว่าข้าวไรซ์เบอร์รี่จะต้องเป็นที่ต้องการทั่วไปและทั่วโลกอันจะนำไปทำให้ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวที่มีราคาสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้มีการปลูกแบบอินทรีย์ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นจะสร้างให้อาชีพชาวนาของคนไทย เป็นอาชีพที่มีรายได้ดี มีความมั่นคงทางอาชีพ มีความก้าวไกลดังพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถจึงประทานพระราโชบายให้มูลนิธิ ฟื้นฟูอาชีพชาวนาผู้ประสบอุทกภัยด้วยการส่งเสริมให้มีการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อย่างกว้างขวาง

ดังนั้นในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จครองราชย์ครบ 70 ปีและเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ องค์นายกกิตติมศักดิ์ จึงได้มีพระดำริแต่งตั้งคณะกรรมการจากภาครัฐ ภาคเอกชน และ
ภาคการศึกษาร่วมใจกันจัดทำโครงการ “เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) อิ่มสุข ไรซ์เบอร์รี่ อินทรีย์ ก้าวไกล”เพื่อให้ชาวนาไทยให้ก้าวไกลดังที่กล่าวมาแล้ว

โครงการนี้มีกิจกรรมหลัก 3 ประการ คือ

1.จัดประกวดการนำข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นของฝากประจำจังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน ถึง 21 กรกฎาคม นี้

2.จัดนิทรรศการและส่งเสริมให้เกิดธุรกิจอันเนื่องจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ระหว่างวันที่ 8 สิงหาคม ถึง 14 สิงหาคม
ที่ Lifestyle Hall ณ ศูนย์การค้าพารากอน

3.จัดตลาด “อิ่มสุขไรซ์เบอร์รี่ มาร์เก็ต” ซึ่งจะมีทั้ง café and cuisine ตลาดขายสินค้าอุปโภคบริโภคไรซ์เบอร์รี่ระบบขึ้นห้าง ระหว่างวันที่ 8 สิงหาคม ถึง 14 สิงหาคม ที่ลานพาร์คพารากอน

นี่เป็นส่วนหนึ่งของพระกรณียกิจของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงมีพระเมตตาแก่พสกนิกรผู้ประสบอุทกภัย ให้มีการฟื้นฟูอาชีพอย่างยั่งยืน และยังถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จครองราชย์ครบ 70 ปีและเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559

จึงขอคนไทยร่วมใจช่วยเหลือชาวนาผู้ประสบอุทกภัยและถวายพระพรชัยแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ 13 กรกฎาคม 2559