สานต่อค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม สร้างจิตสำนึกต้านภัยโลกร้อน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/225102

วันอังคาร ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ประลอง ดำรงค์ไทย และ บุญทิวา ด่านศมสถิต

บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กรมป่าไม้ สานต่อค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2559 ภายใต้โครงการ “คนรักษ์ป่าป่ารักชุมชน” สู่รุ่นที่ 18 ปีที่ 9 แก่เยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 82 คน จาก 10 โรงเรียน ที่มาจากครอบครัวที่ทำงานด้านป่าชุมชน ณ ชุดาปาร์ค รีสอร์ท แอนด์ โฮเต็ล ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ให้สืบทอดเจตนารมณ์ในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมความรู้ทั้งทางวิชาการและภาคปฏิบัติ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสู้ภัยโลกร้อนในอนาคต

นางบุญทิวา ด่านศมสถิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เผยว่า “จากข้อตกลงระดับนานาชาติ จากการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศของโลก กำหนดเป้าหมายในการหลีกเลี่ยงไม่ให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นเกิน 2 องศานับจากนี้ไปประเทศไทยเราก็ได้กำหนดเป้าหมายให้สอดคล้องกับเป้าหมายในระดับนานาชาติ คือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20-25% ภายในปี 2030 และลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล แล้วเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เราจึงตระหนักดีว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะลุกขึ้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมกัน ดูแลสภาพภูมิอากาศของโลก เพื่อที่เราจะคืนความสมดุลให้แก่โลกหลังจากนั้นโลกก็จะคืนความสมดุลให้แก่เรา ดังนั้น เราจึงต้องการเป็นตัวแทนในการรับมือวิกฤติภาวะโลกร้อน พร้อมกันนั้นก็ต้องการปลูกจิตสำนึกให้ขยายผลไปในกลุ่มเด็กๆ และเยาวชนที่จะเป็นอนาคตของชาติต่อไป”

ประดิษฐ์กล่องพลังงานแสงอาทิตย์ สถานี Global Warming

นายประลอง ดำรงค์ไทย รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า “เด็กๆ ที่มาค่ายเป็นลูกหลานของครอบครัวที่ดูแลป่าชุมชน ดังนั้น เวลาอยู่ในค่าย (หนึ่ง) เขาจะได้รู้จักกลุ่มเพื่อนที่เป็นเครือข่ายเดียวกับเขา (สอง) เขาจะได้รับความรู้ทางวิชาการในการรักษาป่า (สาม) เขาจะได้ความรู้เรื่องบริบทของป่าชุมชนตามหลักที่ถูกต้อง และ (สี่) หลังจากได้ความรู้ในค่ายซึ่งเป็นระยะสั้นก็จริง แต่เนื่องจากเขามีพื้นฐานการรักษาป่าอยู่แล้ว เขาจะเข้าใจบริบทวิชาการด้านป่าไม้มากขึ้น วันนี้ต้องสร้างจิตสำนึกความเข้าใจให้เด็กๆ ซึ่งเหมือนผ้าขาว แล้วเราจะเติมความรู้สึกรักธรรมชาติลงไป เราจะพยายามซึมซับเรื่องทรัพยากรสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายให้เด็กๆ สิ่งที่เยาวชนต้องได้รับออกไปคือจิตสำนึกในการดูแลรักษาแทนรุ่นผม และการนำความรู้จากค่ายไปเล่าสู่กันฟังกับครอบครัว กลุ่มเพื่อน และคนอื่นๆ”

ด.ญ.กนกวรรณ ขันอาษา

สำหรับเสียงจากเยาวชน ด.ญ.กนกวรรณ ขันอาษา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อายุ 13 ปี จากโรงเรียนบ้านหนองหว้าสุขใจ จ.ขอนแก่น บอกว่า “มาค่ายนี้ เพราะอยากได้ความรู้จากวิทยากรว่า ทำอย่างไรถึงจะช่วยโลกจะทำให้โลกหายร้อนได้ หนูอยากช่วยโลก เพราะถ้าวันหนึ่งไม่มีโลกเรา มันก็ไม่มีมนุษย์ ไม่มีสัตว์ ไม่มีอะไรเลย หนูอยากช่วยให้โลกกลับเป็นเหมือนเดิม หนูอยากนำความรู้จากค่ายนี้ไปช่วยทางบ้าน เช่น การปลูกต้นไม้ การกรองน้ำ หรือการทำกล่องพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งดึงดูดพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดความร้อนแล้วทำอาหารได้โดยไม่ต้องใช้แก๊ส ไม่เปลืองพลังงาน และค่ายนี้ก็ทำให้ได้รู้จักเพื่อน ตอนแรกมาก็นั่งโดยไม่กล้ามองหน้า แต่พอได้รู้จักจริงๆ ก็ไม่อยากให้ถึงวันสุดท้ายที่ต้องจากกันเลย”

ด.ญ.สุวนันท์ สีหาทอง

ด.ญ.สุวนันท์ สีหาทอง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อายุ 15 ปี จากโรงเรียนไชยบุรีวิทยาคม จ.นครพนม บอกว่า “ค่ายนี้ให้ประสบการณ์ความรู้เกี่ยวกับการเกิดภาวะโลกร้อน และวิธีป้องกัน ที่ประทับใจคือพี่ๆ วิทยากรที่มีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำ หนูจะนำประสบการณ์จากค่ายนี้ไปบอกเพื่อนๆ บอกทุกคนว่า เราควรช่วยกันปลูกป่า อย่าตัดไม้ทำลายป่าเลย เพราะมันทำให้โลกร้อนไปจากแต่ก่อนมาก มลพิษก็เยอะ ประหยัดน้ำและลดใช้ถุงพลาสติกด้วย เพื่อโลกเราจะได้ดีขึ้น”

ทั้งนี้ เยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 82 คน จาก 10 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านหนองหว้าสุขใจ จ.ขอนแก่น, โรงเรียนไชยบุรีวิทยาคม จ.นครพนม, โรงเรียนชุมชนกุดหมากไฟ จ.อุดรธานี, โรงเรียนตรีประชาพัฒนศึกษา จ.ชัยภูมิ, โรงเรียนนาข่าวิทยาคม จ.มหาสารคาม, โรงเรียนอาโอยาม่า 2 จ.หนองคาย, โรงเรียนอีเซ จ.ศรีสะเกษ, โรงเรียนศรีแก้วประชาสรรค์ จ.ยโสธร, โรงเรียนวัดพรหมราช จ.นครราชสีมา, และโรงเรียนชุมชนบ้านกลางนาโน จ.สกลนคร

ประดิษฐ์เครื่องกรองน้ำ สถานี Water of Life

Leave a comment