ดร.วีระชัย ณ นคร และ คุณหญิงปราณี เอื้อชูเกียรติ

คุณหญิงปราณี เอื้อชูเกียรติ กรรมการมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เผยถึงความเป็นมาของสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ว่า “สวนแห่งนี้เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมระชนมพรรษา 60 พรรษา เมื่อปีพ.ศ.2535 รัฐบาลได้น้อมเกล้าฯ ถวายพื้นที่ของการรถไฟฯ เพื่อจัดสร้างเป็นสวนป่าระราชทานแก่ปวงชน จนถึงวันนี้ผ่านมา 25 ปี พระองค์ท่านทรงมีพระราโชบายให้มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สร้างสวนนี้ให้เป็นทั้งสวนป่าสถานที่พักผ่อน สถานที่เรียนรู้ และเป็นปอดใหญ่ของพวกเรา พระองค์ท่านทรงเน้นย้ำเสมอเมื่อยามที่เสด็จฯ ทรงช่วยเหลือราษฎรทุกหนทุกแห่ง โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดารว่า ป่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะประเทศเราไม่มีหิมะ น้ำที่เราได้ต้องมาจากป่า จากต้นไม้จึงจำเป็นต้องรักษาป่า ให้ป่าเป็นต้นน้ำ ให้อากาศหายใจแก่เรา โดยคำว่าป่าไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ใหญ่เสมอไป แต่แม้พื้นที่เล็กนิดเดียวเพียง 9 ไร่นี้ ก็สามารถเป็นสวนป่ารักน้ำได้ ขอเพียงให้ปลูกป่าเท่านั้น

และในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 นี้ จะครบ 25 ปี ที่ มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดตั้งขึ้น เพื่อจัดหาทุนสร้างและดูแลสวนแห่งนี้ให้เป็นไปตามพระราโชบายในการเป็นป่าเล็กในเมืองใหญ่เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ในวันนี้สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สามารถวัดระบบนิเวศที่สมบูรณ์ของผืนป่าได้จากจำนวนชนิดของนกที่มาอาศัย โดยสำรวจพบจำนวนชนิดของนกมีมากถึง 87 ชนิด จาก 106 ชนิด ที่พบในกรุงเทพฯและปริมณฑลทีเดียว”

ด้าน ดร.วีระชัย ณ นคร ที่ปรึกษาด้านพฤกษศาสตร์และสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และกรรมการมูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กล่าวว่า “พื้นที่ “สวนป่ารักน้ำ” เฉลิมพระเกียรติฯ มีอยู่ 9 ไร่ แต่เมื่ออยู่ใจกลางกรุงจึงคิดเป็นค่ามหาศาล ด้วยสำนักงานทรัพย์สินฯ เห็นว่าปีนี้เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปีและเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สำนักงานทรัพย์สินฯ จึงปรับปรุงพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้เป็น “สวนป่ารักน้ำ” เป็นส่วนหนึ่งของสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ โดยต้นเดือนสิงหาคม 2559 นี้ ก็จะเปิดเป็นพื้นที่ใหม่ให้ได้เฉลิมพระเกียรติ และมีสวนสาธารณะที่มีลักษณะเป็นป่าที่มีระบบนิเวศสมบูรณ์ โดยออกแบบและปรับพื้นที่จากเดิมที่เป็นเนินดินธรรมดาให้กลายเป็นสวนป่าต้นน้ำ มีลำธารที่ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำ พร้อมกับการสร้างบรรยากาศป่า โดยการรวบรวมพันธุ์ไม้ป่า เช่น ยางนา ตะเคียนทอง ไม้กุ่มน้ำ ไม้กุ่มบก และอีกหลายชนิด มาปลูกไว้ที่นี่มากกว่า 1,000 ต้น และ “สวนป่ารักน้ำ” เฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งห้องเรียนธรรมชาติ ที่เยาวชนสามารถเข้ามาเรียนรู้ระบบนิเวศของสวนป่าได้ด้วย อีกทั้งยังให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ได้มาพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เป็นปอดให้ใจกลางกรุงเทพฯ เพิ่มพื้นที่สีเขียวอีกแห่งที่มีคุณค่าให้กับชุมชนเมือง นอกจากนี้ยังอยากให้ “สวนป่ารักน้ำ” เฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งห้องเรียนธรรมชาติที่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา สามารถเข้ามาเรียนรู้ระบบนิเวศของสวนป่า ได้มาใช้พื้นที่เพื่อเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติ ปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนมีใจรักธรรมชาติต่อไปในอนาคตด้วย”

ด้วยเหตุนี้ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จึงมีนโยบายจัดสร้างสวนใหม่แห่งนี้ให้มีเอกลักษณ์เป็น “ป่าเล็กในเมืองใหญ่” และเป็นป่าต้นน้ำ เพื่อเน้นย้ำให้คนในเมืองกรุงเห็นความสำคัญของป่าที่ให้กำเนิดน้ำ โดยได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ชื่อสวนว่า “ส่วนป่ารักน้ำ” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559

ทั้งนี้ “สวนป่ารักน้ำ” เฉลิมพระเกียรติฯ จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2559 โดยทางมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จะส่งมอบสวนแห่งนี้ให้แก่ประชาชน ในวันที่ 8 สิงหาคม 2559 โดยมี ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธีผู้สนใจสามารถติดตามกิจกรรมต่างๆ ของสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้ทาง http://www.facebook.com/H.M.QueenSirikitPark