ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/225603
วันศุกร์ ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
ไกรรวี ศิริกุล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลิสบอน ตีกลองสะบัดชัยเป็นการเปิดงาน
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและโปรตุเกสมีมาอย่างราบรื่นและเนิ่นนานมากกว่า 500 ปี ตามหลักฐานประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1511 (พ.ศ.2054) ที่คณะมิชชันนารีชาวโปรตุเกสกลุ่มแรกได้เดินทางเข้ามาในแผ่นดินสยามสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยาเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้าขาย ศาสนา และวิทยาการความรู้ในด้านต่างๆ สมัยถัดมาในปี ค.ศ. 1859 (พ.ศ. 2402) ไทยและโปรตุเกสได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยได้มีการลงนามสนธิสัญญาทางไมตรี การพาณิชย์และการเดินเรือ (Treaty of Freindship, Commerece and Navigation) ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 4 ในภายหลังประเทศไทยเองได้เปิดสถานทูตขึ้นที่โปรตุเกสครั้งแรกในปี ค.ศ.1981 (พ.ศ.2524)
สถานเอกอัครราชทูตไทย (สอท.) ประจำกรุงลิสบอนพร้อมทีมประเทศไทยร่วมกับเทศบาลกรุงลิสบอน ที่ทำการเขต Belém (เบเล็ง) และโรงแรมเครือ Tivoli ของ Minor Group ประเทศไทยได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดเทศกาลไทย THAI FESTIVAL 2016 เมื่อวันที่ 17-19 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ที่สวนสาธารณะเบเล็ง โดยทางเทศบาลกรุงลิสบอนได้อนุญาตให้ใช้บริเวณใกล้ศาลาไทยอนุสรณ์ความสัมพันธ์ 500 ปี ไทย-โปรตุเกส ในสวนเบเล็งเป็นสถานที่จัดงาน โดยพิธีเปิดงานฯ ไกรรวี ศิริกุล เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลิสบอน เป็นผู้กล่าวเปิดงาน แล้วร่วมตีกลองสะบัดชัยกับ มร.Satana Carlos ผู้แทนนายกเทศมนตรีกรุงลิสบอน และ มร.Fernando Rosa ประธานที่ทำการเขตเบเล็ง เป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มเทศกาลไทย 2016 ทั้งนี้แขกสำคัญที่มาร่วมงาน อาทิ เอกอัครราชทูตรัฐกาตาร์ เอกอัครราชทูตบังคลาเทศ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย หัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทย (การบินไทย ททท. สำนักงานพาณิชย์ และสำนักงานศุลกากร)เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเทศบาลกรุงลิสบอนและที่ทำการเขตเบเล็ง รวมทั้งชุมชนไทย ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยว
โดยรูปแบบการจัดงาน สถานเอกอัครราชทูตไทย ได้จัดเต็นท์เฉลิมพระเกียรติปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ 70 ปี จัดนิทรรศการเผยแพร่พระเกียรติคุณแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมจัดโต๊ะหมู่บูชา พานพุ่มเงิน-ทอง กรวยดอกไม้ ธูปเทียนแพเพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปได้ร่วมถวายสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์ รวมทั้งร่วมชมนิทรรศการนอกจากนี้สถานเอกอัคราชทูตฯ ได้จัดเวทีการแสดงไว้กลางสวนเบเล็งบริเวณหน้าศาลาไทยเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยผ่านการแสดงจากคณะนาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์กรมศิลปากร การแสดงศิลปะสาธิตมวยไทยการแสดงศิลปะมวยไทย การแสดงศิลปะการป้องกันตัว กระบี่ กระบอง ไม้พลองสั้นยาวและการตีกลองสะบัดไชย นอกจากนั้นยังมีการออกร้านขายอาหารไทยและเครื่องดื่ม พร้อมกับการแสดงและจำหน่ายผลิตผลของหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) และศิลปหัตถกรรมอื่นๆ ของไทยอีกด้วย โดยทีมประเทศไทยได้จัดเต็นท์เผยแพร่กรอบภารกิจของงานที่รับผิดชอบ ทั้งด้านการบริการงานกงสุล การท่องเที่ยว การพาณิชย์ และการศุลกากร รวมตลอดจนการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศไทย ซึ่งงานเทศกาลไทยตลอด 3 วัน มีผู้เข้าร่วมงานหมุนเวียนกันรวมประมาณ 5,000 คน อย่างไรก็ตามเทศบาลกรุงลิสบอนและเขตเบเล็งมีความพึงพอใจในงานเทศกาลไทยครั้งนี้มาก และได้เอ่ยปากกับเอกอัครราชทูตฯ ขอให้จัดกิจกรรมเช่นนี้ทุกปีในช่วงเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประเทศโปรตุเกสเฉลิมฉลองงานวันชาติ
สำหรับงานแสดงนาฏศิลป์ไทย สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดการแสดงนาฏศิลป์ไทยจากคณะนาฏศิลป์ไทยจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กรมศิลปากร ที่โรงละคร OrienteFoundation Museum ประกอบด้วยโขนชุดเล็ก นาฏศิลป์ของสี่ภูมิภาค และการแสดงชุดพิเศษ “รำมิตรภาพไทย-โปรตุเกส” ในโอกาสฉลองความสัมพันธ์ 505 ปี ไทย-โปรตุเกส โอกาสเดียวกันนี้สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดงานเลี้ยงรับรองแขกรับเชิญจากคณะทูตานุทูต ผู้แทนระดับสูงจากหน่วยราชการและภาคเอกชนกลุ่ม Friends of Thailand และชุมชนไทยในโปรตุเกส ในช่วงก่อนเริ่มการแสดงนาฏศิลป์ในคืนวันแรก เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถทรงมีพระชนมพรรษา 7 รอบ 84พรรษา สถานเอกอัครราชทูตได้จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ ที่ทรงอุปถัมภ์ ทำนุบำรุงและส่งเสริมโขนตามโครงการโขนในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ในบริเวณโถงหน้าโรงละครอีกด้วย ท่ามกลางผู้สนใจเข้าร่วมชมเป็นจำนวนมากทั้งในคืนแรกและในคืนที่สอง ซึ่งนอกจากประชาชนทั่วไปที่สนใจซื้อบัตรเข้าชมเองแล้ว ยังมีแขกรับเชิญของสถานทูตที่ชื่นชอบนาฏศิลป์ไทยได้ซื้อบัตรเข้าชมด้วยตนเองซ้ำอีกครั้งในคืนที่สองอีกด้วย












