ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย คุณนิติ นวรัตน์ 25 ก.ค. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/671321

12 ธันวาคม 2557 คณะเปิดเลนส์ส่องโลกไปร่วมพิธีเปิดศูนย์มิตรภาพไทย-เวียดนาม ที่บ้านดง ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร
ผมถาม ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ ผู้พาพวกเรามาร่วมงานว่า ทำไมศูนย์มิตรภาพไทย-เวียดนาม ต้องมาตั้งที่บ้านดงด้วย? พ่อเล่าอะไรหลายอย่างระหว่างนั่งรถและสรุปว่า การที่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นชาติเอเชียรบชนะรัสเซียที่เป็นฝรั่งมังค่า ทำให้คนเอเชียมีกำลังใจที่จะต่อสู้เพื่อกอบกู้เอกราชจากฝรั่ง หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ นายฟาน โบ่ว โจว ชาวจังหวัดเหง่อาน ท่านผู้นี้ได้ทูลเชิญเจ้าชายเกื่อง เด๋ เชื้อสายราชวงศ์เหงียน เสด็จไปเรียนที่ญี่ปุ่นเมื่อ พ.ศ.2449 โดยเอาคนหนุ่มลูกหลานของคนเวียดนามต่อต้านฝรั่งเศส 200 คนไปเรียนด้วย
เรียนได้เพียง 3 ปี ญี่ปุ่นก็พลิกลิ้นไปอยู่ข้างฝรั่งเศสและไล่นักศึกษาญวนออกนอกประเทศ นักศึกษาญวนหลายคนประท้วงด้วยการคว้านท้องจนตาย เจ้าชายเกื่องและนายโจวจึงหนีมาจีนและสยาม นายโจวได้มาเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากนั้น นักศึกษาญวนที่โดนทั้งฝรั่งเศสและญี่ปุ่นเล่นงานก็หนีมาสยาม
เจ้านายฝ่ายสยามพระองค์หนึ่งมอบเครื่องมือทำกินและที่ดินให้นักศึกษาญวนพวกนี้ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกพระองค์หนึ่ง มอบที่ดินในจังหวัดศรีสะเกษ รัฐบาลสยามมอบที่ดินให้นักศึกษาญวนกลุ่มนี้ที่บ้านถ้ำ จังหวัดนครสวรรค์ และที่บ้านดง จังหวัดพิจิตร
บุคคลหนึ่งซึ่งออกจากญี่ปุ่นมาด้วยก็คือ นายดั่ง ทุก เหือ ทำหน้าที่ฝึกอบรมนักปฏิวัติญวนในสยาม ต่อมานายเหือกลายเป็นผู้นำสำคัญในการต่อต้านฝรั่งเศส
วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป กระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 1 (พ.ศ.2458-2462) สยามกับฝรั่งเศสเป็นพันธมิตรกันในสงคราม ฝรั่งเศสกดดันสยามให้จับนักปฏิวัติญวน ทว่าเจ้าหน้าที่สยามไม่ได้จับ แต่แอบแนะนำให้พวกนักปฏิวัติหนีไปหลบอยู่ในที่ปลอดภัย
ปลายสงครามโลกครั้งที่ 1 นายเหือกลับมาบ้านดงอีกครั้งพร้อมกับแนวความคิดเรื่องการปฏิวัติที่สอดคล้องกับความคิดการกู้ชาติของโฮจิมินห์
สงครามโลกครั้งที่ 1 จบไปได้ 8 ปี เมื่อ 3 มีนาคม 2470 ที่บ้านดงก็มีทารกน้อยเชื้อสายไทยถือกำเนิดเกิดมาดูโลกคนหนึ่ง ชื่อเด็กชายสะหมาน วิยะเกด เมื่อโตขึ้นมาก็ถูกนำไปเลี้ยงดูในดินแดนลาว พออายุถึง 18 ปี ก็สมัครเป็นทหารในสังกัดลาวอิสระ เคลื่อนไหวต่อต้านฝรั่งเศสตามแนวชายแดนลาว–เวียดนามระหว่าง พ.ศ.2488–2492 ภายหลังได้เป็นหัวหน้าการเมือง หมวดทหารลาวอิสระ ประจำแขวงจำปาสัก
พ.ศ.2492 หนุ่มน้อย 22 ปี ผู้นี้ก็ได้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน เป็นรองหัวหน้าการเมืองการทหารในเขตใต้ แขวงอัตตะปือ และได้รับเลื่อนยศเป็นนายพล
ภายหลัง พลโทสะหมานเป็นผู้บัญชาการทหารเขตลาวใต้ทั้งภาค ได้รับเลือกจากการประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 ของพรรคประชาชนลาวให้เป็นกรรมการศูนย์กลางพรรค เคยทำงานเป็นหัวหน้าการเมือง กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพปลดปล่อยประชาชนลาว ท่านเป็นผู้ชี้นำแนวคิด ทฤษฎีและวัฒนธรรมของศูนย์กลางพรรค เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงป้องกันประเทศ เป็นอดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการ อดีตประธานสภาแห่งชาติ 2 สมัย ฯลฯ
00.24 น. ศุกร์ 22 กรกฎาคม 2559 พลโทสะหมานถึงแก่มรณกรรมด้วยโรคชรา อายุ 89 ปี ผู้ใหญ่ที่ผมรู้จักหลายท่านบินไปร่วมงานทางศาสนาตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา
จันทร์วันนี้ 25 กรกฎาคม 2559 เวลาบ่าย จะมีพิธีฌาปนกิจที่บริเวณลานพระธาตุหลวงเวียงจันทน์
คอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลกขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของสหาย พลโท สะหมาน วิยะเกด อย่างสุดซึ้ง และขอให้ดวงวิญญาณของท่านไปสู่สุคติในเบื้องสัมปรายภพ
ขอขอบคุณที่นอกจากต่อสู้กับฝรั่งเศสแล้ว ภายหลังท่านยังเข้าร่วมกับเจ้าสุภานุวงศ์ ต่อสู้อย่างแข็งขันเพื่อล้มล้างรัฐบาลของเจ้ามหาชีวิตสว่างวัฒนา ซึ่งเป็นผู้เอาฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาเข้ามาเข่นฆ่าคนลาวด้วยกัน
มีประวัติศาสตร์อยู่หลายช่วงที่พระมหากษัตริย์และเจ้านายระดับสูงของไทยในอดีตทรงช่วยเหลือเพื่อนบ้านให้สามารถกอบกู้เอกราชจากพวกฝรั่งมังค่าได้ แต่ในอดีตประวัติศาสตร์พวกนี้มักจะถูกซ่อนไว้เพราะมีการต่อสู้ระหว่างเสรีนิยมกับคอมมิวนิสต์ในสงครามเย็น บัดนี้ ไม่มีสงครามเย็นแล้วครับ เราน่าจะรื้อฟื้นประวัติศาสตร์พวกนี้มาช่วยสร้างสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้าน
นอกจากแผ่นดินไทยแล้ว ก็ยังมีคนไทยจำนวนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนบ้านกอบกู้เอกราช ที่เราควรนำประวัติของท่านเหล่านั้นมาเผยแพร่ครับ.
คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand