ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/226859
วันเสาร์ ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
(ซ้าย) ดร.ปิยะสุดา แพ่งสภา และพิธีกรรายการ ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์
เรียกว่าเป็นสาวเก่งมากความสามารถจริงๆ สำหรับ “ดร.เนม-ปิยะสุดา แพ่งสภา” ที่นอกจากจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยที่นิวยอร์กแล้ว ยังมีความสามารถทางด้านการเต้นลาตินจนคว้ารางวัลมาครองอีกด้วย ทางรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 โดยพิธีกร “ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์”ได้ตามไปพูดคุยด้วยถึงสตูดิโอกันเลยทีเดียว
ดร.เนม-ปิยะสุดา แพ่งสภา เล่าว่า “ไปเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกา ไปทำปริญญาตรีที่นิวยอร์ก State University of New York (1992) แล้วไปเรียนทางด้านสังคมวิทยา Sociology University at Albany หลังจากนั้นก็ไปทำปริญญาโทต่อเลยที่บอสตัน SociologyBrandeis University (1994) ก็ได้ปริญญาโทมาสาขาเดียวกัน พอจบโทก็เรียนต่อปริญญาเอกในรัฐนิวยอร์ก Sociology Binghamton University, State University of New York (2001) ใช้เวลา 8 ปีกว่าจะจบมาได้ พอจบปริญญาเอกก็ได้งานทันที ได้เป็นอาจารย์อยู่ที่นิวยอร์กเหมือนกันที่ University at Buffalo, State University of New York Department of Global GenderStudies (2001) มีอาชีพเป็นอาจารย์ เป็นนักวิจัย นักเขียน

ใช้เวลาเป็นอาจารย์ที่ต่างประเทศหลายปีเหมือนกัน 7 ปีอยู่ที่นิวยอร์ก ตอนนั้นเราก็ได้เขียนหนังสือมาเล่มหนึ่ง เล่มนี้เกือบสิบปีแล้วนะ เล่มนี้มาจากวิทยานิพนธ์ที่เรากลับมาทำวิจัยในเมืองไทย เป็นหนังสือเล่มแรกที่เขียนออกมาตอนเป็นอาจารย์อยู่ที่นิวยอร์ก สอนอยู่ที่นั่นประมาณ 7-8 ปี หลังจากนั้นเราก็มารับงานอีกงานหนึ่งเป็นหัวหน้าสถาบันวิจัยที่มหาวิทยาลัย Institute for Gender and Development Studies (2009-present) ประมาณ 5 ปี
เมื่อ 2 ปีที่แล้วก็กลับมาเมืองไทยได้ไม่กี่เดือน ก็ลงสมัคร สว.กรุงเทพมหานคร คือกลับมาในฐานะที่ไม่ได้อยู่เมืองไทยมาเกือบ30 ปี ก็ไม่ค่อยมีคนรู้จัก เราก็เลยมาลงอาจจะเป็นอะไรที่เป็นการแนะนำตัวเองเข้ามาเราก็คิดว่าอยากจะทำอะไรที่แตกต่างไปจากที่เป็นอาจารย์ อยากทำอะไรใหม่ๆ เลยลองลงสมัครดูก็เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจเหมือนกัน
หลังจากเลือกตั้งผ่านไปแล้ว ช่วงนั้นที่เราตัดสินใจลาออกจากการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศ เพื่อมาดูแลสุขภาพ เพราะมีปัญหาสุขภาพ เราทำงานเครียด ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ตอนเครียดเราก็จะทานเยอะ ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองเท่าไหร่ มันก็เลยอยู่ในสภาพที่แย่ น้ำหนักขึ้นเยอะมาก พอน้ำหนักเยอะก็มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ เป็นความดันโลหิตสูง มีน้ำตาลในเลือดสูง คือไปโรงพยาบาลตรวจเลือดก็มีปัญหาอย่างนี้ และเราค่อนข้างที่จะอายุมากแล้ว เราก็รู้สึกว่าถ้าอายุมากขนาดนี้ก็ควรจะเริ่มดูแลตัวเองมากกว่านี้ เราก็อยากจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เพราะว่าตอนเราแข็งแรงมันเป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร ก็เลยอยากกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

สำหรับเคล็ดลับ อย่างแรกเลยหลังจากเราตัดสินใจว่าอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจริงๆ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีวินัย คือออกกำลังกาย เปลี่ยนนิสัยการกิน แล้วอีกอย่างเราก็มีอาหารเสริมที่เข้ามาช่วยด้วย เป็นอาหารเสริมที่ปลอดภัย มาจากธรรมชาติ
ตอนนั้นน้ำหนักเกือบ 70 กิโลกรัม จากวันนั้นถึงวันนี้กว่าจะมีรูปร่างที่ดีได้ ใช้เวลาประมาณ 1 ปีลดไป 18 กิโลกรัม ก็มีออกกำลังกายช่วงแรก ออกกำลังกายมา 8-9 เดือน มันก็ลดยากเหมือนกันนะคะ ก็มีเทรนเนอร์มาคอยช่วยแล้วก็ได้อาหารเสริมมาช่วยได้เยอะ ก็เห็นผลทันทีภายในไม่กี่สัปดาห์ แล้วหลังจากนั้นก็คงตัว แล้วก็ต้องปรับการกิน ต้องมีวินัย
หลายคนจะบอกว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่ว่าความจริงสุขภาพมันสำคัญมากเราควรจะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ ดีกว่ามารักษา ถูกไหมคะ แล้วอย่างแรกก็คือ เราควรจะออกกำลังกาย โดยเฉพาะถ้าอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ก็ควรจะออกกำลังกายทุกวันอยู่แล้ว
การออกกำลังกายของเรานั้นก็ไม่ได้เข้ายิมอย่างเดียว คือตอนแรกๆ เข้ายิมเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ตอนหลังก็มาเจอคือไปที่สยามโซไซตี้ มันมีเพอร์ฟอร์แมนเขามีโชว์เต้นลาติน ซึ่งตอนเขาเต้นเราก็ตะลึงมากเลยเพราะว่าเต้นดีมาก เราก็เลยสนใจ เขาบอกเขามีโรงเรียนสอนเต้น ถ้าสนใจก็เข้ามาดู เราก็สนใจมากเพราะเห็นเด็กพวกนี้เต้นแล้วประทับใจเราก็อยากจะเต้นอย่างนั้นบ้าง เพราะรู้ว่าเป็นการออกกำลังกายที่หนักเหมือนกันนะ เพราะเห็นเขาเต้น เราก็รู้ว่าเขาซ้อมหนัก

ก็เลยมาดูโรงเรียน ดูเสร็จก็เราประทับใจจริงๆ เพราะเด็กพวกนี้ระดับโลก เป็นเด็กไทยค่ะ ก็ไปที่โรงเรียน ตอนนี้อยู่ที่พระราม 3 แต่ตอนนี้เพิ่งเปิดโรงเรียนชื่อเดอะ แดนซ์ อะคาเดมี ที่เรานั่งกันอยู่ตรงนี้ เพิ่งเปิดได้หนึ่งสัปดาห์ อยู่ระหว่างทองหล่อกับเอกมัย ที่ตึกมนูญผล ชั้น 8 ติดเอ็มเธียเตอร์ก็เลยเข้ามาเรียนที่เดอะ แดนซ์ อะคาเดมีคือตอนแรกเข้ามา 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ตอนหลังเราชอบมากๆ เลยมาเรียนเยอะขึ้นๆแล้วก็ซ้อมหนักขึ้นๆ แล้วเราก็ชอบ มันเป็นการออกกำลังกายที่สนุก เพราะว่ามันมีเพลงหลายจังหวะ มันไม่น่าเบื่อ เป็นการพักผ่อน แล้วเราก็สามารถที่จะเดินซ้อมกับเขาได้เป็นชั่วโมงๆ เลย เดินเพลินๆ เลยนะคะ ทำอย่างนี้ทุกวันมันก็ช่วยได้เยอะ
แล้วเผอิญโรงเรียนนี้ติดระดับโลกเป็นเวิล์ดท็อปแดนซ์สคูล คือติดอันดับหนึ่งในห้าของโลก แล้วอยู่ในเมืองไทย เขามาเปิดไว้เกือบ 10 ปีแล้ว ระดับโลกจริงๆ เพราะว่านักเต้นเขาทั้งหมดเป็นเวิลด์คลาสแดนเซอร์เพลงลาติน เราก็เลยประทับใจมาก ก็เลยเริ่มมาเรียน เรียนจนกระทั่งเขาก็จับเราไปแข่งครั้งแรกที่ Siam Cup 2015 พัทยา เมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นก็ไปแข่ง Teacher-Student B Latin (Finalist) with TonyLufrano ก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนก็ได้ที่ 3

แล้วตอนหลังก็ซ้อมอีก เพราะชอบ จนกระทั่งเขาจับไปแข่งอินเตอร์เนชั่นแนล ที่อินโดนีเซีย Lombok International Dance Festival, Lombok Indonesia ปีที่แล้วเหมือนกัน ได้รางวัลที่ 1 เรียนมาประมาณ6 เดือนได้ เขาก็จับไปแข่ง แล้วทำอย่างไรก็ไม่รู้แหละ ก็ได้ที่ 1 มา ก็ถือเป็นความสามารถอีกอย่างหนึ่ง ถามว่าวางแผนที่จะทำจริงจังในอนาคตไหม คือมันก็เป็นวิชาที่เราเรียนรู้ใหม่ๆ นะคะ ก็ชอบมาก ตอนนี้พยายามที่จะเริ่มเรียน สอนบีกินเนอร์ ลาติน ก็มีเรื่องนั้น และในฐานะที่เป็นนักวิจัย นักเขียน เราก็มาทำเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ ดูแลสุขภาพอย่างไร
ส่วนเรื่องข้อคิดในการดำเนินชีวิตเราทำอะไรมาสม่ำเสมอ อย่างการออกกำลังกายการใช้ชีวิตในแต่ละวัน มันก็ทำให้มีวินัย หลังจากที่เราเปลี่ยนแปลงตัวเอง บุคลิกก็กลับมาความมั่นใจกลับมา แล้วก็กระฉับกระเฉงมากขึ้น ตอนนี้เราก็กล้าที่ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน อย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ เพราะเราก็ไม่ได้สอนหนังสือแล้ว แต่เรามาศึกษาเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ และศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเต้นลาตินซึ่งทั้งสอง อย่างนี้มันก็ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปแบบ 360 องศาเลย มันเปลี่ยนไปจริงๆ สำหรับใครที่สนใจอยากเรียนเต้นลาตินก็มาที่เว็บไซต์ของ เดอะ แดนซ์ อะคาเดมี ได้เลย หรือติดต่อเนมได้ที่ Line ID : piyasudapangsapa”

