อินโดนีเซีย สั่งรับมือกระแสต่อต้าน หลังจากตัดสินใจประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติดกลุ่มแรกไปแล้ว จำนวน 4 คน จากทั้งหมด 14 คน โดยในจำนวนคนที่ถูกประหารเป็นชาวไนจีเรียและชาวอินโดนีเซีย พร้อมให้สถานทูตในต่างประเทศเข้มรักษาความปลอดภัย

เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (29 ก.ค.) อินโดนีเซียประหารชีวิตนักโทษคดียาเสพติดไปแล้ว 4 คน เป็นชาวไนจีเรีย 3 คน และชาวอินโดนีเซีย 1 คน การประหารชีวิตมีขึ้นด้วยวิธีการยิงเป้า ที่เรือนจำนูซากัมบังกัน จังหวัดชวากลาง ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า เป็นการเพิกเฉยต่อข้อท้วงติงของนานาประเทศ โดยทางการอินโดนีเซีย ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เป็นการประหารนักโทษครั้งที่ 3 ภายใต้นโยบายทำสงครามกวาดล้างยาเสพติดของรัฐบาลประธานาธิบดีโจโค วิโดโด

อย่างไรก็ตาม นักโทษประหารอีก 10 ชีวิต ที่รวมไปถึงชาวอินเดียและปากีสถาน ยังไม่ทราบชะตากรรมว่า จะถูกประหารชีวิตเมื่อไหร่ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลอินเดียและปากีสถานบอกว่า จะเคลื่อนไหวจนถึงนาทีสุดท้ายเพื่อช่วยเหลือพลเมืองของพวกเขา

เมื่อปีที่แล้วอินโดนีเซียเพิ่งประหารชีวิตนักโทษชาวต่างชาติ ทั้งออสเตรเลียและบราซิล ทำให้รัฐบาลออสเตรเลียกับบราซิลไม่พอใจสั่งเรียกทูตกลับประเทศ

หลังการประหารชีวิตนักโทษกลุ่มนี้ ในช่วงเช้าวันนี้ ทางการอินโดนีเซียได้มีคำสั่งไปยังสถานทูตอินโดนีเซียในกรุงอาบูจา ของไนจีเนีย ให้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยเนื่องจากเกรงว่า จะเกิดการประท้วงแสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยเมื่อวานนี้เพียงแค่มีข่าวออกมาว่า ได้มีการย้ายตัวนักโทษ 14 คน ไปที่เรือนจำนูซากัมบังกันเพื่อเตรียมการประหารชีวิต ก็ได้มีกลุ่มประชาชนออกมารวมตัวประท้วงเป็นจำนวนมาก บริเวณหน้าเรือนจำ และสถานที่ต่างๆ ในกรุงจาการ์ตา