ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย คุณนิติ นวรัตน์ 3 ส.ค. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/679272

แม้ว่าการรัฐประหารในตุรกีจะจบไปแล้ว แต่ความสนใจในตุรกีและจักรวรรดิออตโตมันยังมีอยู่ในสังคมไทย มีคำถามมาจำนวนหนึ่ง ผมจึงขอถือโอกาสนี้รับใช้ถึง “ออตโตมัน” จักรวรรดิอิสลามซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวาง ครอบคลุมดินแดนถึง 3 ทวีป
จักรวรรดิออตโตมันตั้งเมื่อ พ.ศ.1842 (สมัยพระยาเลอไทย กรุงสุโขทัย) จนถึง พ.ศ.2465 (สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) ยาวนาน 623 ปี
ยุทธการที่เมืองแมนซีเคิร์ต เมื่อ พ.ศ.1614 จักรพรรดิโรมานุสที่ 4 ของจักรวรรดิไบแซนไทน์ แพ้ชนเผ่าเซลจูกเติร์ก เซลจูกเติร์กจึงสถาปนาอาณาจักรสุลต่านแห่งรูนขึ้นในตอนกลางของดินแดนอะนาโตเลีย มีประมุขเป็นสุลต่าน ปกครองมุสลิมและชนเผ่าแถวนั้น
การตั้งอาณาจักรของเซลจูกเติร์กเป็นภัยต่อคริสตศาสนิกชนผู้ไปแสวงบุญที่นครเยรูซาเลม จักรพรรดิแห่งไบแซนไทน์จึงส่งสาส์นไปขอความช่วยเหลือจากสันตะปาปาเออร์บานที่ 2 ให้ส่งกองทัพคริสเตียนไปช่วยปราบมุสลิม และนี่ล่ะครับ เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามครูเสดครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ.1639 ที่ยืดเยื้อยาวนานมาจนถึง พ.ศ.1834
เมื่อเซลจูกเติร์กมีอำนาจในดินแดนอะนาโตเลียแล้ว ก็เปิดโอกาสให้พวกชนเผ่าเติร์กอื่นๆ ในเอเชียกลาง และแถวเทือกเขาอัลไต ได้อพยพมาอยู่ในอะนาโตเลีย รวมทั้งเติร์กชนเผ่ากายีซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกออตโตมันด้วย
พ.ศ.1836 พวกมองโกลชนะกองทัพสุลต่านแห่งรูน อาณาจักรสุลต่านแห่งรูนจึงเสื่อม ดินแดนที่ไม่ได้ถูกกองทัพมองโกลยึดครองจึงถือโอกาสประกาศตนเป็นราชรัฐอิสระภายใต้การนำของออสมัน เมื่อออสมันได้เป็นประมุขของราชรัฐอิสระนี้แล้ว ก็เป็นผู้นำนักรบไปทำสงครามศาสนากับจักรวรรดิไบแซนไทน์ ด้วยความเชื่อว่า การทำสงครามกับพวกนอกศาสนาเป็นการแสดงศรัทธาสูงสุดต่ออัลลอฮ์ สุดท้ายจักรวรรดิไบแซนไทน์ก็แพ้
เหล่าทหารชาวเติร์กเผ่าต่างๆ ที่สนับสนุนออสมันมีชื่อเรียกว่า ออสมันลีลาร์ ที่แปลว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องกับออสมัน หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ออตโตมัน ออสมันบุกยึดดินแดนอื่นอีกมากมายหลายแห่ง และเรียกจักรวรรดิที่ใหญ่โตมโหฬารของตนเองว่า จักรวรรดิออต-โตมัน ผู้สืบเชื้อสายของออสมันสืบทอดบัลลังก์ในฐานะสุลต่านติดต่อกันนานถึง 623 ปี
ต่อมา กองทัพของออตโตมันไม่ชอบไปตีกับเมืองมุสลิมด้วยกัน สุลต่านจึงตั้งกองทัพใหม่ขึ้นมาอีกกลุ่มหนึ่งชื่อ จานิสซารี ที่เอาทาสคริสเตียนที่ถูกซื้อมาบ้าง ที่ถูกจับเป็นเชลยศึกบ้าง เอามาฝึกเป็นนักรบ นอกจากนั้น สุลต่านออตโตมันสั่งให้ส่งเด็กผู้ชายจากดินแดนยุโรปในปกครองมาเป็นบรรณาการเพื่อเปลี่ยนศาสนาให้เป็นมุสลิมที่จงรักภักดีและเป็นทหารที่มีระเบียบวินัยที่สุด ห้ามแต่งงาน อุทิศทั้งร่างกายและจิตใจทำสงครามเพื่อปกป้องสุลต่าน บางสมัย สุลต่านมีทหารจานิสซารีมากถึง 10,000 คน บางยุคมีมากกว่านั้น
ทหารออตโตมันยึดดินแดนต่างๆ ในยุโรป เข้าไปยึดแม้แต่มาซิโดเนีย ซึ่งเป็นปิตุภูมิของพระเจ้าอะเล็กซานเดอร์มหาราช ยึดเซอร์เบีย ยึดบัลแกเรีย ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ ตอนที่ออตโตมันจะเข้าไปยึดกรุงคอนสแตนติโนเปิล ซึ่งยึดได้ยากมากเพราะมีกำแพงเมืองที่สูงถึง 12 เมตร กว้าง 5 เมตร ยาว 6.5 กิโลเมตร ปิดล้อมอยู่นาน 50 วันจึงยึดได้
บางคนเชื่อว่า ยุโรปสมัยกลางสิ้นสุดลงและเริ่มต้นประวัติศาสตร์ยุโรปสมัยใหม่เมื่อกรุงคอนสแตนติโนเปิลของคริสเตียนถูกออตโตมันยึดนี่ล่ะครับ ก่อนที่กรุงคอนสแตนติโนเปิลจะแตก พวกนักปราชญ์ราชบัณฑิตของจักรวรรดิไบแซนไทน์ทยอยขนงานต้นฉบับตัวเขียนสำคัญๆ หลบหนีไปยังอิตาลี อันนี้นี่ล่ะครับ ที่ทำให้อิตาลีรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการในสมัยเรอเนซองซ์
อารยธรรมกรีกและโลกของจักรวรรดิไบแซนไทน์ที่มีจักพรรดิปกครองติดต่อกันถึง 82 องค์ เป็นเวลา 1,123 ปี ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นโลกมุสลิมและอารยธรรมอิสลาม
กรุงคอนสแตนติโนเปิลถูกเปลี่ยนชื่อเป็นกรุงอิสลามบูล ต่อมาเพี้ยนเสียงเป็น อิสตันบูล ทว่าคนทั่วไปก็ยังนิยมเรียก คอนสแตนติโนเปิล จนกระทั่ง พ.ศ.2473 รัฐบาลตุรกีได้นำชื่อ อิสตันบูล กลับมาใช้แทนชื่อ คอนสแตนติโนเปิลอย่างเป็นทางการ
วิหารเซนต์โซเฟียของศาสนาคริสต์นิกายกรีกออร์โธดอกซ์ ก็ถูกแปลงเป็นสุเหร่า
ถ้าท่านไม่เข้าใจการสู้รบในยุคนั้น ก็ไม่เข้าใจการต่อสู้สำคัญของโลกในทุกวันนี้ พรุ่งนี้ขออนุญาตมาว่ากันต่อครับ.
คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand