ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/229630

วันอังคาร ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 11.51 น.

หลายๆ คนคงคิดว่าผักผลไม้ที่เราทานอยู่มีคุณประโยชน์อยู่ที่เนื้อในของผักผลไม้เท่านั้น และจำเป็นต้องปอกเปลือกทิ้งเพราะกลัวเรื่องสารพิษตกค้าง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในเปลือกผลไม้ก็มีคุณค่าทางอาหารเยี่ยมไม่แพ้เนื้อในเลยทีเดียว

วันนี้เราจึงมี 10 ผักผลไม้ที่ควรทานพร้อมเปลือก มานำเสนอ รับรองได้ว่าถูกใจเหล่าคนรักสุขภาพและคนที่ชื่นชอบการทำอาหารอย่างแน่นอน

1. แอปเปิ้ล

ในเปลือกแอปเปิ้ลมีประโยชน์ไม่ต่างจากเนื้อแอปเปิ้ล โดยอุดมไปด้วยไฟเบอร์ สารฟลาโวนอยด์ซึ่งเป็นสารสำคัญในการดูแลสุขภาพหัวใจและสามารถช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตได้ นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินเค และโพแทสเซียมในปริมาณสูง ประโยชน์อัดแน่นขนาดนี้ทานพร้อมเปลือกรับรองว่าดีกว่าแน่นอน และอย่าลืมล้างน้ำหรือแช่ด่างทับทิมก่อนนำมาทาน เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณ

2. เปลือกแตงโม

ไม่ว่าจะเป็นตรงส่วนที่เป็นเนื้อขาวๆ หรือเปลือกสีเขียวของแตงโม ล้วนแต่เป็นส่วนที่ไม่ควรทิ้ง แม้หลายๆ คนจะคิดว่าเป็นส่วนที่ไม่ควรรับประทานเพราะอาจจะมีสารเคมีตกค้างก็ตาม โดยในส่วนของเปลือกอุดมไปด้วยไลโคปีน (Lycopene) เบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) และซิทรูลีน (Citrulline) ซึ่งเป็นสารพฤกษเคมีที่เช่นเดียวกับเนื้อแตงโม โดยซิทรูลีนนั้นมีฤทธิ์ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด และช่วยลดความดันโลหิต และบรรเทาอาการของโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจได้

3. มะเขือม่วง

เปลือกสีม่วงเข้มของมะเขือม่วง นอกจากจะช่วยเพิ่มสีสันในอาหารแล้วก็ยังเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ หนึ่งในสารกลุ่มแอนโธไซยานินที่มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการทำงานของสมอง และสามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ นอกจากนี้ ในเปลือกมะเขือม่วงยังอุดมไปด้วยกรดคลอโรเจนิกที่สามารถช่วยป้องกันการอักเสบ และส่งเสริมความต้านทานต่อกลูโคสในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้

4. แตงกวา

ใครอยากมีสุขภาพผมและเล็บที่แข็งแรงฟังทางนี้ ในเปลือกของแตงกวาอุดมไปด้วยแร่ธาตุซิลิก้า (Silica) ซึ่งช่วยสร้างเสริมสุขภาพผมและเล็บให้แข็งแรงเงางาม อีกทั้งยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งสามารถช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้

5. แครอท

คุณค่าทางอาหารของแครอทไม่มีอยู่ในเนื้อเพียงเท่านั้น แต่เปลือกของแครอทก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน โดยในเปลือกอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนที่ช่วยบำรุงสายตา มีไฟเบอร์สูงซึ่งดีต่อระบบขับถ่าย ยิ่งคุณนำมาทานสดๆ ยิ่งได้ประโยชน์แบบเต็มๆ แต่อย่าลืมล้างแครอทให้สะอาดก่อนทุกครั้ง

6. มันฝรั่ง

มันฝรั่งเป็นพืชอีกชนิดที่สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก แต่ต้องนำไปทำให้สุกก่อน โดยในของเปลือกมันฝรั่งนั้นเต็มไปด้วยไฟเบอร์ และสารอาหารอย่างวิตามินเค โพแทสเซียม ทองแดงและธาตุเหล็ก ยิ่งถ้านำมันฝรั่งมาทำมันบดทั้งเปลือก ยิ่งทำให้ได้รสสัมผัสที่แปลกใหม่ยิ่งขึ้น

7. กล้วย

ถ้าพูดถึงเปลือกกล้วยหลาย ๆ คนก็อาจจะคุ้นเคยกันดีเพราะว่าในอาหารบางอย่าง เช่น แหนมเนือง ก็นำกล้วยดิบทั้งเปลือกมาฝานรับประทานเป็นเครื่องเคียง แต่ถ้าไม่ชอบรับประทานกล้วยดิบละก็ รับประทานเปลือกกล้วยตอนที่กล้วยสุกก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน เพราะเปลือกกล้วยนั้นก็มีคุณค่าทางอาหารไม่แพ้เนื้อกล้วยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 6 วิตามินบี 12 แมกนีเซียม และโพแทสเซียม อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ที่มีสูงกว่าในเนื้อกล้วย สามารถช่วยการทำงานของระบบขับถ่าย นอกจากนี้ในเปลือกกล้วยก็ยังมีสารทริปโตเฟน (Tyrptophan) ที่ช่วยสร้างเสริมสารเซโรโทนินในร่างกาย ส่งผลทำให้อารมณ์ดีขึ้น ดีต่อสุขภาพจิตอีกด้วย

8. ส้ม มะนาว เลมอน

รู้หรือไม่ว่าในเปลือกของผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเหล่านี้มีวิตามินซีสูงกว่าเนื้อในถึง 2 เท่า แถมยังอุดมด้วยสารไรโบฟลาวิน วิตามินบี 6 แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม นอกจากนี้สารฟลาโวนอยด์ที่อยู่ในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและต้านการอักเสบอีกด้วย สำหรับวิธีการนำมารับประทานสามารถนำไปแปรรูปได้ไม่ว่าจะเป็นแบบอบแห้ง แบบเชื่อมเป็นของว่าง หรือนำไปขูดละเอียดโรยบนสลัดก็ได้ประโยชน์ไม่ต่างกัน

9. ฟักทอง

เปลือกฟักทองแข็งๆ อย่าเพิ่งคิดว่าทานไม่ได้ เพราะเปลือกฟักทองเมื่อนำไปทำให้สุกแล้ว สามารถรับประทานได้เหมือนกับเนื้อฟักทองปกติ แถมยังมีสรรพคุณดีๆ หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิต บำรุงอวัยวะต่างๆ และช่วยสร้างเสริมส่วนที่สึกหรอ เรียกได้ว่าประโยชน์อัดแน่นไม่ะรรมดาเลยทีเดียว

10. บีทรูท

บีทรูท เป็นอีกหนึ่งในผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยประโยชน์ทั้งเนื้อในและเปลือก โดยในเปลือกของบีทมีคุณค่าทางอาหารหลากหลายทั้ง วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 6 แมกนีเซียม โพแทสเซียม แคลเซียม และธาตุเหล็ก ที่สามารถช่วยเสริมสร้างร่างกายได้

ที่มา : healthkapook